10 เดือนไทยส่งออกข้าวโต 33 % มั่นใจปีนี้เข้าเป้า 7.5 ล้านตัน

10 เดือนไทยส่งออกข้าวโต 33 % มั่นใจปีนี้เข้าเป้า 7.5 ล้านตัน

ผู้ส่งออกข้าวเผย 10 เดือนไทยส่งออกข้าว 6,203,270 ตัน มูลค่า 3,175 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% คาดเดือนพ.ย.ส่งออกข้าวได้ 7.5-8 แสนตัน ชี้ เงินบาทเริ่มแข็งค่าแต่ราคาข้าวไทยยังสู้คู่แข่งได้ มั่นใจทั้งปีได้ 7.5 ล้านตัน

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค. 2565) มีปริมาณ 6,203,270 ตัน มูลค่า 3,175 ล้านดอลลาร์ โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 33% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่ส่งออกปริมาณ 4,662,981 ตัน มูลค่า 2,631 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ การส่งออกเดือนต.ค. 2565 มีปริมาณ 794,224 ตัน มูลค่า 13,974 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่า ส่งออกเพิ่มขึ้น 24.7% และ 20.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. 2565 ที่ส่งออกปริมาณ 636,731 ตัน มูลค่า 11,595 ล้านบาท เนื่องจากใน เดือนต.ค. ผู้ส่งออกต่างเร่งส่งมอบข้าวตามสัญญาที่ค้างอยู่จากเดือนก่อนทั้งในส่วนของข้าวขาวและข้าวนึ่ง เพื่อให้ทันใช้ในช่วงเทศกาลปลายปี ประกอบในช่วงนี้ผลผลิตข้าวของไทยมีออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการส่งมอบได้มากขึ้น

ทั้งนี้ เดือนต.ค. มีการส่งออกข้าวขาวมากถึง 422,429 ตัน เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนใหญ่ส่งไปอิรัก จีน ญี่ปุ่น แองโกล่า โมซัมบิก แคเมอรูน เป็นต้น ขณะที่ข้าวนึ่งมีการส่งออกปริมาณ 207,841 ตัน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่งไปตลาดหลักในแอฟริกา เช่น เบนิน แอฟริกาใต้ บังคลาเทศ เยเมน แคเมอรูน ไนเจอร์ เป็นต้น ส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิ มีปริมาณ 67,459 ตัน ลดลง 10% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่งไปยังตลาดที่สำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ เป็นต้น

ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า คาดว่าในเดือนพ.ย. 2565 การส่งออกข้าวได้ 750,000-800,000 ตันเนื่องจาก ผู้ส่งออกยังคงมีสัญญาที่ค้างส่งมอบจากเดือนก่อน รวมทั้งตลาดสำคัญยังมีความต้องการต่อเนื่องเพื่อใช้ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ และตรุษจีนในช่วงปลายเดือนม.ค. 2566 โดยคาดว่าในปีนี้การ ส่งออกข้าวน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 7.5 ล้านตัน โดยตลาดสำคัญได้แก่ อิรัก แอฟริกาใต้ สหรัฐ จีน เบนิน ญี่ปุ่น เซเนกัล แองโกล่า เยเมน ฟิลิปปินส์ โมซัมบิก ฮ่องกง แคนาดา เป็นต้น

ราคาข้าวไทยในช่วงนี้ยังอยู่ในระดับที่ไม่ห่างจากคู่แข่งมากนัก ยังสามารถแข่งขันได้ แม้ว่าค่าเงินบาทจะเริ่มแข็งค่าขึ้นตามภาวะตลาดแล้วก็ตาม โดยราคาข้าวขาว 5% ของไทย ณ วันที่ 30 พ.ย. 2565 อยู่ที่ 456 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 443-447, 393-397 และ 423-427 ดอลลาร์ต่อตัน ตามลำดับ ส่วนราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 470 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ข้าวนึ่งของอินเดีย และปากีสถานอยู่ที่ 373-377 และ 453-457 ดอลลาร์ต่อตัน"