หอการค้ายื่นสมุดปกขาวชง 3 แนวทางฟื้นเศรษฐกิจ

การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2566 ซึ่งถือเป็นปีที่สำคัญของหอการค้าไทยครบ 90 ปี จะนำแนวทาง Connect Competitive และ Sustainable เพื่อยกระดับขีดความสามารถประเทศ

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนั่น  อังอุบลกุล ระบุ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2566 ซึ่งถือเป็นปีที่สำคัญของหอการค้าไทยครบ 90 ปี จะนำแนวทาง Connect Competitive และ Sustainable เพื่อยกระดับขีดความสามารถประเทศ แม้เศรษฐกิจโลกปีหน้าจะเปราะบาง แต่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ โดยหอการค้าไทยคาดว่า GDP จะเติบโต 3.5-4.0% และภาคการส่งออกจะเติบโต 3-5%

ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับหลายปัจจัยที่ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่รวดเร็วเท่าที่ควร นอกจากผลกระทบของโควิด-19 แล้ว ยังมีสถานการณ์ที่ส่งผลซ้ำซ้อนอีก 4 ด้าน ได้แก่ 1. วิกฤตด้านพลังงานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ 2.การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต และการขาดแคลนวัตถุดิบด้านการเกษตร 3. วิกฤตการเงินภาคครัวเรือนและธุรกิจ SMEs และ 4. วิกฤตโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และการลดลงของอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทย ที่ลดลงถึง 5 อันดับจากปี 2564 ดังนั้น ทางออกที่จะช่วยให้ประเทศไทยกลับมาเข้มแข็งได้ คือ การหาแนวทางเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในแต่ละมิติ โดยเฉพาะมิติเศรษฐกิจ ผ่านกลไกการเชื่อมโยงและบูรณาการระหว่างเครือข่ายทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ หอการค้าไทยได้จัดทำสมุดปกขาวมอบให้รัฐบาลเพื่อนำไปพิจารณาผ่านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้สรุปแนวทางการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ประกอบด้วย 3 ข้อ ประกอบด้วย

1.Connect เชื่อมโยงความร่วมมือเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยหอการค้าไทยตั้งเป้าหมายระดมสมาชิกเพิ่มจาก 1 แสนราย เป็น 2 แสนราย ภายใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งของ SME ตลอดจนขับเคลื่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค 5 ภาค

2.Competitive ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในทุกมิติ โดยสนับสนุนภาครัฐ ขับเคลื่อน FTAAP และเร่งขยาย FTA กับนานาชาติ ต่อยอดความเชื่อมั่นจากการเป็นเจ้าภาพ APEC ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีความพร้อมในการรองรับการลงทุนตรงจากทั่วโลกได้ทันที

พร้อมกันนี้ หอการค้าไทยมีแผนดึงการลงทุนโดยตรงจากประเทศยุทธศาสตร์เป้าหมาย ที่ประกอบด้วย จีน ซาอุดีอาระเบีย เวียดนาม และอินเดีย รวมถึงรักษากลุ่มนักลงทุนเดิม เช่น ญี่ปุ่น และสหรัฐ โดยจะทำงานใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อยกระดับ Ease of Investment

3.Sustainable สร้างอนาคตที่ยั่งยืน เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ หอการค้าไทยและเครือข่ายทั่วประเทศ พร้อมผลักดัน Bangkok Goals (เป้าหมายกรุงเทพฯ) ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG โดยจะนำเอาแผนพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคภาคเอกชน ระยะ 5 ปี เป็นแนวทางขยายผล BCG Model เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประเทศ