เริ่มแล้วเวทีประชุม “รัฐมนตรีเอเปค“ ไทยผลักดัน FTA ใหญ่สุดในโลก

เริ่มแล้วเวทีประชุม “รัฐมนตรีเอเปค“ ไทยผลักดัน FTA ใหญ่สุดในโลก

“ดอน-จุรินทร์” นั่งหัวโต๊ะประชุมรัฐมนตรีเอเปค หารือวาระแผนงาน 4 ปี เปิด FTAAP หวังเป็นเขตการค้าใหญ่ที่สุดในโลก สรุปประเด็นเสนอเวทีผู้นำ 18-19 พ.ย.นี้

การประชุมรัฐมนตรีเอเปคแบบเต็มคณะเริ่มขึ้นแล้วในช่วงเช้าวันที่ 17 พ.ย.2565 โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานร่วมกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 

ผลของที่ประชุมในวันนี้จะออกเป็นร่างถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอเปค แต่การประชุมไม่ได้ข้อยุติจะออกเป็นถ้อยแถลงประธานการประชุมรัฐมนตรีเอเปคแทน ซึ่งกระทรวงการต่าประเทศได้เตรียมร่างเอกสารไว้ทั้ง 2 แนวทาง

ประเด็นสำคัญที่หารือในครั้งนี้ ประเทศไทยนำเสนอแผนงานขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ Free Trade Area of the Asia-Pacific (FTAAP) ซึ่งจะเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมตลาดที่มีประชากร 2,800 ล้านคน มี GDP คิดเป็นสัดส่วน 59% ของโลก ในขณะที่สัดส่วนการค้าระหว่างไทยกับสมาชิกเอเปค แบ่งเป็นการค้าในเอเปค 69.8% และการค้านอกเอเปค 30.2%

เริ่มแล้วเวทีประชุม “รัฐมนตรีเอเปค“ ไทยผลักดัน FTA ใหญ่สุดในโลก

 

นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค กล่าวว่า มีการริเริ่มผลักดัน FTAAP มาตั้งแต่แรกเริ่มแต่ยังไม่คืบหน้า ซึ่งไทยในฐานะประธานได้ชูประเด็นนี้ เพื่อทบทวนอีกครั้ง พร้อมวางแผนการทำงานในอนาคตไว้รองรับ เพื่อให้แต่ละเขตเศรษฐกิจต้องดำเนินการให้เกิดเขตการค้าเสรีได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคและผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่จะมีการประชุมในวันที่ 18-19 พ.ย.2565

 

 

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า เบื้องต้นแผนงานขับเคลื่อน FTAAP มีระยะเวลา 4 ปีคือ ระหว่างปี 2566-2569 มีเป้าหมายตอบสนองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ทั้งด้านการค้า การลงทุน นวัตกรรม การเข้าสู่ยุคดิจิทัล และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความเข้มแข็ง สมดุล ยั่งยืนและครอบคลุม 

สำหรับแผนงานดังกล่าวจะเปิดให้รวบรวมประเด็นที่สมาชิกเอเปคสนใจร่วมกัน ทั้งด้านการค้าดั้งเดิม การค้าใหม่ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังเกิดวิกฤติ ผ่านกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างสมาชิกเอเปค เพื่อเตรียมความพร้อมจัดทำ FTAAP และมุ่งสู่เป้าหมายผลลัพธ์สำคัญของ FTAAP อาทิ การขยายการค้าการลงทุนภายในเอเชีย-แปซิฟิก การลดอุปสรรคการค้าการลงทุนที่ไม่จำเป็น การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสมาชิกเอเปค และการลดช่องว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน

ทั้งนี้นายดอนและนายจุรินทร์ มีกำหนดแถลงข่าวผลสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปคในเวลา 17.45-18.00 น.