กองทัพมด หมูเถื่อนกัมพูชา ทะลักเข้าไทย อันตรายกว่าที่คิด

กองทัพมด หมูเถื่อนกัมพูชา ทะลักเข้าไทย อันตรายกว่าที่คิด

กรมปศุสัตว์ลุยตรวจเข้ม ป้องกัน ปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนต่อเนื่อง ล่าสุดผนึกกำลังทหารจับ “กองทัพมด”ขนเนื้อหมู 5 ตัน จากประเทศกัมพูชา ขึ้นรถห้องเย็นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นักวิชาการชี้มีผลต่อสุขอนามัยผู้บริโภค ด้านเกษตรจี้ รัฐเปิดเผยต้นตอ

นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า  ด่านกักกันสัตว์สระแก้วร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 2 และด่านศุลกากรอรัญประเทศจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าซากสุกรจากประเทศกัมพูชา โดยมีพฤติการณ์ทยอยแบกเข้ามายังฝั่งไทยในลักษณะ “กองทัพมด” โดยสามารถจับกุมได้ขณะกำลังขนซากสุกร 5,000 กิโลกรัมขึ้นรถห้องเย็นที่หมู่ 7 บ้านหนองปรือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 และพ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 246

 

กองทัพมด หมูเถื่อนกัมพูชา ทะลักเข้าไทย อันตรายกว่าที่คิด กองทัพมด หมูเถื่อนกัมพูชา ทะลักเข้าไทย อันตรายกว่าที่คิด กองทัพมด หมูเถื่อนกัมพูชา ทะลักเข้าไทย อันตรายกว่าที่คิด

ทั้งนี้ด่านศุลกากรอรัญประเทศรับผิดชอบดำเนินคดีผู้กระทำความผิด เนื่องจากมีอัตราโทษสูงสุด ส่วนของกลางมอบให้ด่านกักกันสัตว์สระแก้วทำลายโดยการฝังกลบบริเวณด่านกักกันสัตว์สระแก้ว ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วกลางดึกที่ผ่านมา

นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์กล่าวว่า กรมปศุสัตว์จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อนตามข้อสั่งการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เน้นย้ำให้ป้องกันและควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคสัตว์ ทั้งยังเป็นการปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและอุตสาหกรรมสุกรของประเทศทั้งระบบ

รศ.น.สพ. ดร.คมกริช  พิมพ์ภักดี คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า  สถานการณ์หมูเถื่อนที่กำลังระบาดอย่างหนักทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานว่า กำลังส่งผลต่อสุขอนามัยของคนไทย ซึ่งสามารถก่อปัญหาต่อระบบสาธารณสุขในอนาคต เนื่องจากหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามานั้น เป็นหมูหมดอายุ ไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านการตรวจโรค และมีสารปนเปื้อนอันตรายกว่าที่คาด

 

“ประเทศไทยมีกฎหมายหลายฉบับที่ออกมาเพื่อความปลอดภัยทางอาหารของคนไทย อย่างหมูไทยจะต้องผ่านการตรวจทั้งก่อนชำแหละและหลังชำแหละ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะเป็นหมูที่ปลอดภัยต่อคนไทย แต่หมูเถื่อนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าพนักงาน มีทั้งเชื้อโรคหรือสารต้องห้ามที่ประเทศไทยไม่อนุญาตให้ใช้ ซึ่งเป็นอันตรายถึงผู้บริโภคได้” รศ.น.สพ.ดร.คมกริช กล่าว

 

ทั้งนี้ หมูที่ลักลอบเข้ามาจากสหภาพยุโรปและอเมริกาเป็นหมูแช่แข็งที่ต้องพึงระวัง ส่วนใหญ่เป็นหมูไม่ได้คุณภาพ บางล๊อตเป็นหมูหมดอายุแล้ว หรือเป็นหมูที่คนในประเทศต้นทางคัดทิ้ง ไม่ต้องการบริโภค แทนที่จะฝังทำลายกลับส่งเข้ามาดั๊มพ์ในประเทศไทย โดยขายในราคาถูกมาก เป็นหมูด้อยคุณภาพ การขนส่งทางไกลที่ใช้เวลาหลายเดือน กว่าจะถึงเมืองไทยย่อมไม่ได้มาตรฐาน และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปนเปื้อนในระหว่างทาง เช่น

เชื้อรา สินค้าจากต่างประเทศเช่นนี้ย่อมไม่ใช่อาหารปลอดภัยที่คนไทยสมควรบริโภค  โดยสารตกค้างดังกล่าวมีทั้งที่เป็นสารก่อมะเร็ง เช่น เบต้าอะโกรนิสต์ และยาปฏิชีวนะที่บางประเทศยังอนุญาตให้ใช้  รวมถึงบางส่วนยังปนเปื้อนเชื้อรา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผู้บริโภค ที่เบื้องต้นอาจพบอาการท้องเสีย หรือในระยะยาวก็สามารถพบเชื้อปนเปื้อนนั้นๆ ตกค้างในร่างกายทำให้เกิดการเจ็บป่วยเรื้อรัง และก่อปัญหาด้านสุขภาพและการสาธารณสุขของประเทศในระยะยาว

 

“ผู้บริโภคควรซื้อหาเนื้อหมูจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และพึงสังเกตราคาหมูที่ถูกผิดปกติก็ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ หมูกระทะ ไม่ควรนำมาจำหน่ายให้ลูกค้าซึ่งตรงนี้เป็นจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมที่ทุกร้านควรจะมี”

 

รศ.น.สพ.ดร.คมกริช กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า หมูเถื่อนในภาคอีสานลักลอบส่งผ่านเข้ามาทางชายแดน หรือ ช่องทางธรรมชาติ  "กรมปศุสัตว์" ต้องกวดขันอย่างเข้มแข็ง ตรวจสอบจับกุมการลักลอบให้เข้มข้นขึ้น เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน และจะเป็นการป้องกันไม่ให้ "หมูเถื่อน" บานปลายเป็นปัญหาสุขภาพของคนในชาติที่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ถึงระบบสาธารณสุขของประเทศด้วย

 

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมาทางด่านที่เป็นช่องทางธรรมชาติจำนวนมาก เช่น สระแก้ว บุรีรัมย์ อุบลราชธานี มุกดาหาร  โดยเฉพาะด่านหนองคาย ที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก  ล่าสุด กรมปศุสัตว์ตรวจจับหมูเถื่อนได้ที่ด่านมุกดาหาร จำนวน 2 ตัน  ขอให้กรมปศุสัตว์ และกรมศุลกากรร่วมดำเนินการตรวจจับหมูเถื่อนอย่างเข้มงวดมากขึ้น  เนื่องจากผู้เลี้ยงมีความกังวลมากกับโรคต่างๆ ที่อาจแฝงมากับหมูเถื่อน รวมถึงการปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง  จึงต้องการให้ภาครัฐกวดขันการปราบปรามแบบล้างบางขบวนการนี้ให้หมดสิ้นโดยเร็ว ก่อนที่จะทำลายอุตสาหกรรมหมูไทยทั้งระบบ  

 

นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า  การลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง  แม้ว่าภาครัฐทั้งกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร จะออกข่าวการจับกุมมาเป็นระยะๆ ซึ่งดูเหมือนว่าการตรวจจับนี้ไม่สร้างความระคายเคืองให้กับขบวนการนำเข้ากลุ่มนี้ และยังคงลักลอบดำเนินการกันอย่างต่อเนื่อง 

 

“น่าแปลกใจที่การจับยึดหมูเถื่อนในช่วงที่ผ่านๆมา ไม่เคยมีการเปิดเผยให้ทราบถึงต้นตอของผู้ลักลอบนำเข้ามาเลย   ทำให้ขบวนการลักลอบนำเข้ายังคงลอยนวล   ซึ่งหมูเถื่อนที่นำเข้ามา โดยเฉพาะจากประเทศในยุโรป เป็นหมูหมดอายุ เรียกว่าเป็นขยะของประเทศต้นทาง และปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง ที่ทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ ทางภาครัฐ ทั้งกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร จึงต้องร่วมกันกวาดล้างหมูเถื่อนให้สิ้นซากถึงต้นตอ” นายสิทธิพันธ์ กล่าว

 

นายสิทธิพันธ์ กล่าวด้วยว่า แม้ภาครัฐจะมีผลการจับกุมให้เห็นเป็นระยะ และถี่ขึ้น แต่อยากให้กรมศุลกากรจริงจังกับการตรวจจับหมูเถื่อนมากขึ้น  มากกว่าที่จะรอให้เกษตรกรร้องขอ จึงตรวจจับให้พอเห็นเป็นความเคลื่อนไหว  โดยเฉพาะที่ท่าเรือแหลมฉบัง  ซึ่งมีเครื่องตรวจเอ็กซเรย์ทันสมัย  ทำไมจึงไม่เคยตรวจจับหมูเถื่อนที่ปนมากับสินค้าอื่นได้เลย  น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้ขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนไม่ได้รับความเดือดร้อน