‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’กดดันพนง.เมตาเพิ่มความพยายาม200%เลี่ยงตกงาน

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของบริษัทเมตาส่งสารที่ชัดเจนไปยังพนักงานบริษัทให้เพิ่มความพยายาม 200% เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเลย์ออฟท่ามกลางกระแสข่าวว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งนี้กำลังลดต้นทุนด้านบุคลากรครั้งใหญ่เพื่อรับมือกับช่วงขาลงของธุรกิจ
“คุณมีเวลาสามเดือนที่จะพิสูจน์คุณค่าในตัวเอง พยายามให้ได้200% ถ้าคุณไม่พอใจก็ลาออกไปได้เลย”พนักงานคนหนึ่งในบริษัทเมตา ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อให้สัมภาษณ์เว็บไซต์บิสสิเนส อินไซเดอร์ โดยอ้างถึงคำพูดที่ซักเกอร์เบิร์ก กล่าวแก่พนักงาน
ถ้อยคำที่กดดันพนักงานของซักเกอร์เบิร์ก มีขึ้นหลังจากเมตา รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ว่า มีรายได้รวม 27,714 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 4,395 ล้านดอลลาร์
รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจแอปต่าง ๆ เฉพาะส่วนนี้ลดลงเหลือ 27,429 ล้านดอลลาร์ มีกำไรการดำเนินงานอยู่ที่ 9,336 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ธุรกิจใหม่เมตาเวิร์ส มีรายได้ลดลงเหลือ 285 ล้านดอลลาร์ ขาดทุน 3,672 ล้านดอลลาร์ แม้จำนวนผู้ใช้งานรวมทุกแพลตฟอร์มประจำทุกเดือนเพิ่มเป็น 3.71 พันล้านคน
นอกจากนี้ เมตา ยังแถลงว่าปี 2566 กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับเมตาเวิร์สจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และมีผลการดำเนินงานขาดทุนมากกว่าปีปัจจุบัน โดยกลุ่มธุรกิจนี้ถูกกำหนดแล้วว่าจะเริ่มทำกำไรได้ในระยะยาว
ส่วนเมตา แพลตฟอร์มส์ ระบุว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2565 อยู่ที่ 1.64 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรีฟินิทิฟ คาดการณ์ไว้ที่ 1.89 ดอลลาร์
เว็บไซต์บิสสิเนส อินไซเดอร์ รายงานโดยอ้างถึงการสัมภาษณ์พนักงานที่ทำงานกับเมตาในทุกวันนี้สามคนว่า เมตาได้ปรับโครงสร้างทีมงานหลายส่วนรวมทั้งพนักงานระดับผู้จัดการ ขณะที่ซักเกอร์เบิร์กพยายามกระตุ้นพนักงานให้ทำงานมากขึ้น
หนึ่งในพนักงานสามคน เปิดเผยด้วยว่า ผู้จัดการของเขาได้รับคำเตือนว่าแม้กระทั่งคนงานที่ทำงานดีที่สุดในบริษัทตอนนี้ก็อยู่ในสถานะไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับตำแหน่งงาน
เมตา รายงานว่า นับจนถึงช่วงปลายไตรมาสสองของปีนี้ บริษัทมีพนักงานทั่วโลก 83,500 คน
"ในปีหน้าบริษัทจะลดพนักงานลงประมาณ 20% ในปีหน้า แต่การลดจำนวนพนักงานจะออกมาในรูปแบบใดนั้น ผมยังไม่มั่นใจ"พนักงานของเมตา กล่าว





