คลังจ่อถก สศช. - ธปท. เข็นมาตรการ ‘กระตุ้น’ เศรษฐกิจ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ระบุ ในเร็วๆ นี้ จะหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. และธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เรื่องแพ็กเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า เพื่อรักษาระดับการใช้จ่ายในประเทศ

สำหรับแนวทางของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย แต่โดยหลักการจะเน้นการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มให้ตรงเป้าหมายที่สุด และเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้น คนเริ่มเข้าสู่ระบบการจ้างงาน นโยบายการคลังที่ต้องอัดฉีดก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

“การพิจารณาความช่วยเหลือประชาชนนั้น ก็ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และความจำเป็นของสถานการณ์ในแต่ละช่วง และหลายปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งราคาน้ำมัน การทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ย”

ที่ผ่านมารัฐบาลได้ช่วยกลุ่มเปราะบาง เช่น ช่วยแบ่งเบาภาระค่าไฟ สำหรับผู้มีรายได้น้อย คูปองราคาน้ำมันเบนซิน สำหรับวินมอเตอร์ไซค์,ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือเอ็นจีวี สำหรับรถแท็กซี่ การช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ดังนั้นมาตรการใดที่ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลืออัดฉีดอีก เราก็ต้องถอย ส่วนจะขยายโครงการคนละครึ่ง และมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลหรือไม่นั้น ต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ

สำหรับเศรษฐกิจในปีหน้า ต้องดูสถานการณ์การส่งออก และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ เชื่อว่าปีหน้าเศรษฐกิจไม่มีปัญหา เพราะภาคการท่องเที่ยวของไทยจะดีขึ้น จากการเปิดประเทศ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะหลายประเทศ ต้องการมาเที่ยวเมืองไทย ส่วนการส่งออกก็เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ที่จะเป็นโอกาสในการส่งออกเพิ่มขึ้น

เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอาหาร ซึ่งสอดคล้องกับการที่ธนาคารโลกออกมาระบุว่า ทั่วโลกอาจต้องเผชิญปัญหาเรื่องความมั่นคงทางอาหาร หลังโควิด และราคาน้ำมันแพง ส่งผลให้ราคาอาหารแพงตามไปด้วย ประกอบกับเกิดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำให้ปริมาณการผลิตอาหารลดลง ธนาคารโลกจึงส่งสัญญาณไปยังประเทศผู้ผลิตอาหาร ให้เพิ่มปริมาณการผลิตอาหาร เพื่อรองรับต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์