"แรงกระแทก" จากวิกฤติเศรษฐกิจโลก

"แรงกระแทก" จากวิกฤติเศรษฐกิจโลก

แม้สถานการณ์โรคระบาดเริ่มคลี่คลาย แต่ตลอดสามปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจทั่วโลกมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดความผันผวนไปทั่วโลก จึงยังไม่ควรนิ่งนอนใจในเรื่อง การค้า การเงิน และการลงทุน แต่ต้องเตรียมรับมือแรงกระแทกมากกว่าเดิม

ความผันผวนของโลกที่ลากยาวมาตั้งแต่โรคระบาดโควิด ความตึงเครียดทางการเมือง ดำเนินมาจนถึงวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังถดถอย ทำให้องค์กรต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์รับมือกันอย่างต่อเนื่อง พายุเศรษฐกิจลูกใหญ่ที่กำลังซัดระบบการเงิน การลงทุนโลกให้ย่อยยับไปต่อหน้า สร้างความตระหนักให้รัฐบาล ผู้นำทุกประเทศ ซีอีโอธุรกิจ ต้องหาทางรับมือ “แรงกระแทก” ที่อาจจะฉุดให้ระบบเศรษฐกิจประเทศตัวเองล่มสลายได้ในพริบตา หากไม่มี เกราะกำบัง ที่แข็งแกร่งมากพอ

ในภาวะที่สถานการณ์โรคระบาดเริ่มผ่อนคลาย หลายคนอาจรู้สึกเบาใจขึ้น เดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ได้บ้าง เพราะเชื่อว่าจะหลุดพ้นภาวะที่ประสบอยู่หลัง จากทนกับความยากลำบากมานานเกือบ 3 ปี เป็น 3 ปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงมหาศาล ทั้งชีวิตส่วนตัว สังคม โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ที่วันนี้กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของการขับเคลื่อนการค้า การเงิน การลงทุนของโลก

ธุรกิจหลายแห่ง ควรเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจถึงขั้นเลวร้ายที่สุด ปัญหาค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง อย่าหลงคิดว่า จะหยุดอยู่เพียงแค่นี้ มาตรการต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมไว้ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร รวมถึงวิกฤติจากภาวะสงครามที่ดูแล้วไม่ค่อยดี ไม่สามารถวางใจได้ ระบบซัพพลายเชน ปัจจัยการผลิต จะกลายเป็นปัญหาใหญ่มากขึ้น อย่ารอให้สถานการณ์ปกติ เพราะจะไม่มีวันนั้น มีแต่ความผันผวนที่จะอยู่คู่กับโลกใหม่ มีแต่วันที่ความท้าทาย หรือมรสุมลูกอื่นพัดเข้ามากระทบโลกอีกหลายระลอก ซีอีโอบริษัทชั้นนำในห้วงเวลานี้ ยังกัดฟันยืดอกเผชิญความท้าทาย แม้ภาวะเศรษฐกิจคือความกังวลอันดับต้น แต่ซีอีโอเหล่านี้ยังเชื่อมั่นในการเติบโตของบริษัทในระยะข้างหน้า

ผลสำรวจของเคพีเอ็มจี (KPMG) ระบุว่า แม้ซีอีโอมากกว่า 8 ใน 10 คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนโดยกว่าครึ่งคาดว่าจะไม่รุนแรงและเป็นระยะเวลาสั้นๆ ขณะที่ ซีอีโอจำนวน 7 ใน 10 เชื่อว่าภาวะถดถอยจะขัดขวางการเติบโตที่คาดการณ์ไว้แต่เดิม แต่อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของซีอีโอองค์กรธุรกิจกลับเพิ่มสูงขึ้นในด้านการเติบโตระยะยาวของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มการเติบโตของบริษัทเอง 

เพราะโลกยุคนี้ ไม่มีคำว่าปกติ มีแต่ความผันผวน ความท้าทายใหม่ๆ จะเกิดขึ้นอีกมากมายในวันหน้า ธุรกิจต้องคิดให้หนักคิดให้ลึกให้ครบทุกมิติ อุดความเสี่ยงเท่าที่ทำได้ บริหารธุรกิจบริหารคน ด้วยวิธีที่ชาญฉลาดมากขึ้น คิดทางเลือกเผื่อไว้ด้วยหากสถานการณ์เข้าขั้นเลวร้ายสุดๆ ไม่ว่าจะอย่างไร “เรา” ต้องยืนหยัดสู้กับวิกฤติ และต้องเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่อ “รับแรงกระแทก” ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้