‘สมคิด’ แนะนายกฯ เรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจรับมือ ‘เศรษฐกิจโลกถดถอย’

‘สมคิด’ แนะนายกฯ เรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจรับมือ ‘เศรษฐกิจโลกถดถอย’

“สมคิด” แนะรัฐบาลเตรียมรับมือเศรษฐกิจโลกถดถอย ชี้นายกฯ ควรเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจรับมือแต่เนิ่นๆ ระบุส่งออก จะกระทบมาก ต้องเตรียม 2-3 แสนล้านบาท รับมือ ให้กำลังใจแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยสู้เงินไหลออก ระบุอย่าคิดสู้ค่าเงินแบบญี่ปุ่น

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผย ว่า เศรษฐกิจปี 2566 มีปัญหาอย่างแน่นอน และไม่ใช่การคาดคะเน เพราะเศรษฐกิจโลกยังมีปัญหา สงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สหรัฐ ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจดูแลประเทศตนเองเป็นสำคัญ

ถ้าเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งออกตาย สงครามทำท่าบานปลายขอให้เตรียมเงินไว้ 200,000 - 300,000 ล้านบาท ทั้งแบงก์พาณิชย์ และแบงก์เฉพาะกิจ เพราะรัฐต้องกู้เงิน  แต่ขออย่ากู้ไปลงโครงการใหญ่ให้มาลงรากหญ้า เพื่อให้เงินหมุนเวียน และชาวบ้านไม่อดตาย ซึ่งการที่เศรษฐกิจโลกถดถอย ประเทศอื่นทั่วโลกจะได้รับผลกระทบหมด แต่จะมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าจะเตรียมตัวพร้อมอย่างไร ซึ่งทุกรัฐบาลต้องเตรียมเอาไว้ และประมาทไม่ได้ ขอให้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าถึงเวลาแล้วไม่เตรียมจะคิดอะไรไม่ออก 

“เวลานี้ไม่ควรจะมีความขัดแย้งทุกฝ่ายต้องเข้าหากัน และหาวิธีการ ส่วนจะจำเป็นต้องตั้งวอร์มรูมเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกถดถอยหรือไม่ ที่จริงรัฐบาลมี ครม.เศรษฐกิจ นายกฯ สามารถเรียกประชุมได้ทุกเมื่อ เอาคนที่รู้เรื่องจริงจังจริงใจเข้ามาดู และประเมินว่าสถานะเป็นอย่างไร ขอย้ำว่าความจริงใจ และข้อเท็จจริงเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เวลาที่จะคิดแต่เรื่องเลือกตั้ง เพราะกว่าจะเลือกตั้งกลางปีหน้า เวลานี้ให้ผ่านไปถึงกลางปีให้ได้ก่อน อย่าให้ประชาชนต้องลำบาก เพราะก่อนจะมีการเลือกตั้ง ถ้าหากเศรษฐกิจทรุดจะสร้างปัญหาอีกหลายด้าน" นายสมคิด กล่าว

 

ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ เพื่อป้องกันเงินเฟ้อซึ่งเขาอาจจะรอด ตอนนี้ ดอกเบี้ยสหรัฐ 3.75% แต่ดอกเบี้ยของไทยไม่ถึง1% ฉะนั้นหากเราไม่เข้มแข็งพอ เงินจะไหลออกนอกประเทศ และขออย่าไปสู้ค่าเงินแบบญี่ปุ่น ที่เสียเงินสำรองระหว่างประเทศไปเยอะ แต่ตอนนี้ค่าเงินเยนกลับมาอ่อนค่าเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม จากการที่สหรัฐ ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ต้องประเมินเลยว่า ไทยจะขึ้นเท่าไร และต้องกล้าตัดสินใจขึ้น เพราะคนจนไม่ได้สินเชื่ออยู่แล้ว จะมีแต่รายใหญ่ที่ขอกู้ และปัญหาไม่อยู่ที่ดอกเบี้ยอยู่ที่ความเชื่อมั่นว่าประเทศนี้ยังลงทุนได้หรือไม่ แต่ผู้ว่า ธปท.ต้องเรียกนายแบงก์มาคุยเพื่อขอความร่วมมือ ไม่ใช่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่เท่าไร  แบงก์พาณิชย์ก็ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้กันแล้ว   และให้ปล่อยกู้ธุรกิจเอสเอ็มอีด้วย

“อำนาจแบงก์ชาติมหาศาล ยังไม่มีบารมี ลองฟันทีเดียว บารมีเกิดเลย ผมให้กำลังใจผู้ว่าแบงก์ชาติเต็มที่ ถ้าต้องขึ้นดอกเบี้ยก็ต้องขึ้น แต่ต้องหาทางป้องกันไว้ ผมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เพราะตอนนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟออกมาเตือนแล้วปีหน้าถดถอย คนตัวเล็กเจอปัญหาแน่นอน ให้นายกฯ เรียกธนาคารเฉพาะกิจมาเลย อย่าไปจับผิดเรื่องหนี้เสียเพราะเขาช่วยคนตัวเล็ก ถ้าเขาขาดทุนแทนที่รัฐบาลจะเอาเงินไปซื้อเรือดำน้ำ ให้เอาเงินมาเพิ่มทุนให้เขา ถ้าไม่คิดนอกกรอบคนจนตาย”

 

นายสมคิด กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3 เศรษฐกิจของเวียดนามขยายตัวถึง 13% และมีการลงทุนที่สำคัญย้ายฐานเข้าเวียดนาม เพราะการเมืองของเวียดนามไม่มีความขัดแย้ง ไม่แบ่งขั้ว ซึ่งขนาดเศรษฐกิจของเวียดนามตอนนี้เป็น 2 ใน 3 ของไทย แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจของเวียดนามอาจแซงไทยได้  เพราะในช่วงเวลาเดียวกันนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ไม่ถึง 2%  และยังมีความขัดแย้งทางการเมืองอีก คนไทยทำใจไหวเหรอ เราคนไทยปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพีตอนนี้ 16 ล้านล้านบาท หากมีรัฐบาล ละผู้นำที่ดีโตได้ 20 ล้านล้านบาท หากไม่มีผู้นำดีจะค่อยๆ หดตัวลง

 

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์