ผู้เชี่ยวชาญชี้ฮ่องกงเปิดศก.อีกครั้ง บ่งชี้จีนใช้เป็นประตูสู่ตะวันตก

ทั้งนี้ ฮ่องกงได้ผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว หลังจากที่ได้คุมเข้มมาตรการควบคุมโควิด-19 นานถึง 3 ปี

การที่ฮ่องกงบังคับใช้มาตรการ "Zero-Covid" ตามจีน ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ และทำให้ฮ่องกงสูญเสียสถานะความเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับหนึ่งของเอเชียให้แก่สิงคโปร์

Global Financial Centres Index (GFCI) จัดอันดับให้มหานครนิวยอร์กของสหรัฐเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 1 ของโลก รองลงมาได้แก่กรุงลอนดอนของอังกฤษอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนสิงคโปร์ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 และฮ่องกงหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 4 เนื่องจากผลกระทบของการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 และปัญหาการย้ายถิ่นฐานของบุคลากรที่มีทักษะสูง

ขณะที่นครซานฟรานซิสโกของสหรัฐขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ของเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก

ที่ผ่านมา ฮ่องกงเผชิญความยากลำบากในการพลิกฟื้นสถานะการเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก เนื่องจากฮ่องกงจำเป็นต้องดำเนินการตามแนวทางของจีนในการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด สวนทางกับประเทศอื่นๆ ในโลกที่เริ่มเปิดพรมแดน

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ฮ่องกงหันกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้น และการที่ฮ่องกงมีรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่ปัจจัยสำคัญคือ ความพยายามที่จะหลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ และการที่จีนจำเป็นต้องใช้ฮ่องกงเป็นประตูทางออกไปสู่ตะวันตก

"หากฮ่องกงยังคงปิดตัวต่อนักเดินทางระหว่างประเทศ ขณะที่ทั่วโลกมีการเปิดประเทศ ฮ่องกงก็จะสูญเสียสถานะการเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ" นางเวรา เหยิน ซึ่งเป็นอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงกล่าว

สื่อรายงานว่า ธนาคารบางแห่งระบุว่าทางธนาคารจะส่งผู้บริหารเข้าร่วมการประชุมในฮ่องกงก็ต่อเมื่อมีการยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ แม้ว่าจีนมีนครเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงิน แต่จีนก็ยังคงจำเป็นต้องพึ่งพาฮ่องกงสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ

นางเหยินกล่าวว่า จีนหวังว่าหากฮ่องกงสามารถรวมตัวเข้ากับจีนมากขึ้น ความสำเร็จของฮ่องกงในตลาดโลกก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเช่นกัน ขณะที่จีนกำลังเผชิญวิกฤตในตลาดอสังหาริมทรัพย์, ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และปัญหาการว่างงานของคนรุ่นหนุ่มสาวที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นโยบาย "Zero-Covid" ของจีนก็ได้ซ้ำเติมปัญหาดังกล่าว

ด้านนายจอห์น เบิร์นส์ ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวเช่นกันว่า "จีนมองว่าบทบาทของฮ่องกงจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจีนจึงอนุญาตให้ฮ่องกงเปิดเศรษฐกิจได้ เพราะฮ่องกงไม่มีอำนาจในตัวเองที่จะตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว"