ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 "บัตรคนจน" กรอกข้อมูลผิด แก้ไขอย่างไร?

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 "บัตรคนจน" กรอกข้อมูลผิด แก้ไขอย่างไร?

อัปเดต ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 "บัตรคนจน" หากบันทึกข้อมูลในระบบแล้ว แต่กรอกข้อมูลผิดอยากแก้ไข ผู้ลงทะเบียนสามารถทำอย่างไรได้บ้าง ? เช็กรายละเอียดที่นี่

ความคืบหน้าการเปิดรับ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ล่าสุด หรือ "บัตรคนจน" หลังจากที่ กระทรวงการคลัง ได้เปิดระบบให้ลงทะเบียนทั้งระบบออนไลน์ และ Walk in ถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565 และจะมีการประกาศผลรอบแรก ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 เป็นต้นไป นั้น 

ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565 พบว่า ณ เวลา 12.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 6,657,136 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 5,097,333 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 1,559,803 ราย

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 หรือ "บัตรคนจน" ได้ 2 ช่องทาง คือ

  1. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th คลิกที่นี่ หรือ https://welfare.mof.go.th คลิกที่นี่ ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
  2. ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่
  • สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
  • สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง
  • ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
  • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต
  • ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

 

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 \"บัตรคนจน\" กรอกข้อมูลผิด แก้ไขอย่างไร?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ทั้งนี้ จากการเปิดรับ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 หรือ "บัตรคนจน" สองวันที่ผ่านมา พบว่า ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและความไม่ชัดเจนในเรื่องการลงทะเบียนในบางประเด็น โดยขอชี้แจง ดังนี้

1. ประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนด สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน แม้จะอยู่ในครอบครัวเดียวกัน เช่น สามี/ภรรยา ที่เป็นคู่สมรสกัน สามารถลงทะเบียนได้ทั้งสามีและภรรยา หากตรวจสอบแล้วผ่านเกณฑ์คุณสมบัติก็มีสิทธิที่จะเป็นผู้ได้รับสิทธิทั้งสามีและภรรยา “ไม่ใช่หนึ่งครอบครัวหนึ่งสิทธิ”

2. ในการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 หรือ "บัตรคนจน" หากมีการบันทึกข้อมูลในระบบแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้อีก ดังนั้น ผู้ลงทะเบียนจะต้องตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลที่กรอกในแบบฟอร์มลงทะเบียนให้ถูกต้อง ก่อนบันทึกข้อมูลในเว็บไซต์ หรือก่อนที่จะบันทึกข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียน

โดยกรณีการกรอกข้อมูลผิดพลาด ผู้ลงทะเบียนสามารถดำเนินการได้ ดังนี้

2.1 ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และกรอกข้อมูลส่วนตัวไม่ถูกต้อง (5 ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และเลขรหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน) จะต้อง “เริ่มลงทะเบียนใหม่”

2.2 กรอกข้อมูลความสัมพันธ์ในครอบครัวผิด (เช่น ข้อมูลกรมการปกครองมีบุตร แต่ผู้ลงทะเบียนกรอกข้อมูลว่าไม่มีบุตร) จะต้องรอผลการลงทะเบียนที่จะประกาศทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไปเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 และหลังจากทราบผลแล้วให้ไปแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นเอกสารลงทะเบียนไว้

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 \"บัตรคนจน\" กรอกข้อมูลผิด แก้ไขอย่างไร?

3. กรณีลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เมื่อบันทึกข้อมูลแล้ว ผู้ลงทะเบียนจะต้องตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ หรือขอให้หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ โดยกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด

3.1 กรณีที่ข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียนถูกต้อง

- ผู้ลงทะเบียน “ไม่มีครอบครัว” ระบบจะขึ้นข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” จึงถือว่าจบขั้นตอนการลงทะเบียน และรอประกาศผลการตรวจสอบการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565

- ผู้ลงทะเบียน “มีครอบครัว” ต้องพิมพ์แบบฟอร์มลงทะเบียนที่กรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีการลงลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน คู่สมรส และ/หรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย และนำแบบฟอร์มลงทะเบียนพร้อมทั้งเอกสารประกอบไปยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ตนได้เลือกไว้ให้แล้วเสร็จภายในวันสุดท้ายที่รับลงทะเบียน

โดยหลังจากยื่นเอกสารที่หน่วยงานรับลงทะเบียนแล้ว ผู้ลงทะเบียนจะได้รับส่วนที่ 11 ของแบบฟอร์มลงทะเบียนเป็นหลักฐานยืนยันการลงทะเบียนจึงถือว่าจบขั้นตอนการลงทะเบียน ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะต้องเก็บรักษาหลักฐานดังกล่าวไว้โดย “ห้ามทำหาย” และแนะนำให้ผู้ลงทะเบียนทำสำเนาหรือถ่ายรูปส่วนที่ 11 ดังกล่าวไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการลงทะเบียน และรอประกาศผลกการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565

3.2 กรณีที่ข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียนไม่ถูกต้อง ผู้ลงทะเบียนจะต้องดำเนินการ “เริ่มลงทะเบียนใหม่” โดยดำเนินการผ่านเว็บไซต์ หรือลงทะเบียน ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน
 
4. กรณีลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยทั้งลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ หรือลงทะเบียน ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนจะต้องตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไปผ่านเว็บไซต์ หรือขอให้หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ โดยกรอกหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด โดยเริ่มตรวจสอบได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ก.ย. 65 ทั้งนี้ หากพบว่า

4.1 “สถานการณ์ลงทะเบียนสมบูรณ์” ให้ผู้ลงทะเบียนรอผลการตรวจสอบคุณสมบัติต่อไป โดยจะประกาศผลในช่วงเดือนมกราคม 2566

4.2 “สถานการณ์ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลกรมการปกครอง

- กรณีผู้ลงทะเบียนที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ โดยระบุว่า “ไม่มีครอบครัว (โสด)” แต่เมื่อตรวจสอบกับฐานข้อมูลกับกรมการปกครองแล้วพบว่า “มีครอบครัว” จะต้องไปแจ้งแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน และเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมแล้วแต่กรณี เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส เป็นต้น

- กรณีผู้ลงทะเบียนลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้เท่านั้น
    
โฆษกกระทรวงการคลัง ได้กล่าวเน้นย้ำว่า ประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนดสามารถลงทะเบียนได้ทุกคน ผู้ที่อยู่ในครอบครัวเดียวกันก็สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน โดยขอให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนทุกครั้ง และเก็บรักษาส่วนที่ 11 ของแบบฟอร์มลงทะเบียนเป็นหลักฐานยืนยันการลงทะเบียน อย่าให้สูญหาย เพื่อประโยชน์ในการลงทะเบียนของผู้ลงทะเบียน ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนจะสามารถทราบผลการแก้ไขข้อมูลได้ในรอบการประกาศผลของโครงการฯ ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป

สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร 094-858-9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือ
โทร. 08-5842-7102 , 08-5842-7103, 08-5842-7104 ,08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.)
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 (เวลาทำการ 08.30-17.30 น.)