เอกชนภูเก็ตชี้ค่าแรงใหม่ไม่กระทบธุรกิจ

ประธานหอการค้าภูเก็ต และผู้ประกอบการภาคบริการภูเก็ต ยืนยันขึ้นค่าแรงใหม่ไม่กระทบ เหตุยังมีความต้องการแรงงานสูง และปกติมีการจ่ายมากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำอยู่แล้ว

จากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 เห็นชอบให้มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ทั่วประเทศ 8 - 22 บาท โดยปรับขึ้นสูงสุด ที่ 354 บาท และต่ำสุด 328 บาท สำหรับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จะมีการปรับขึ้น 18 บาท ทำให้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่อยู่ที่ 354 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 นั้น ทางประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการ นายจ้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะภาคบริการต่างบอกว่า การปรับค่าแรงครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากค่าจ้างภาคบริการปกติจ่ายสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำมาตลอด เนื่องจากแรงงานภาคบริการในจังหวัดภูเก็ต เป็นแรงงานมีฝีมือที่มีความต้องการมาก และปัจจุบันยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานอีกด้วย

นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ว่า สามารถมองได้ทั้งบวกและลบ ในแง่ลบ คือ ภูเก็ตยังลำบากอยู่เพราะเศรษฐกิจท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นเต็มที่ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม ซึ่งยังมีกำลังไม่มากและอยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้งอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่สูงขึ้น จะเป็นการเพิ่มภาระต้นทุนในการจ้างงานให้สูงตามไปด้วย แต่ในแง่บวกก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะในธุรกิจขนาดใหญ่หรือโรงแรมที่พักระดับ 4-5 ดาว ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการแรงงานค่อนมาก และหากมีกำลังในการจ่ายค่าจ้างจะทำให้มีผู้เข้ามาทำงานมากขึ้น

ทางด้านนายกิตติชัย ลีลาอนันตวงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พรพิชัยการช่าง กล่าวว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีค่าครองชีพสูง การปรับขึ้นค่าแรงถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทของตนจ่ายค่าแรงอยู่ที่ 600-1,200 บาท เพราะเป็นงานที่ต้องมีความชำนาญและเป็นแรงงานที่หายาก ดังนั้นการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจึงไม่มีผลกระทบกับภาคบริการ ซึ่งยังมีความต้องการแรงงานในภาคบริการค่อนข้างสูง เพราะแรงงานส่วนหนึ่งอพยพกลับภูมิลำเนาในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 และบางส่วนก็ไม่กลับมาอีก จึงทำให้ธุรกิจภาคบริการขาดแคลนแรงงาน เพราะปัจจุบันการท่องเที่ยวเริ่มจะฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศครั้งนี้ ส่งผลให้ผู้ใช้แรงงานมีการใช้จ่ายสอดรับกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจปรับตัว และคาดว่าภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต จะดีขึ้นจากเปิดให้บริการเต็มรูปแบบหลังจากผลกระทบจากโควิด-19 ที่ผ่านมา