“ซีพี” ชี้จีนเปิดประเทศปลายปี แนะไทยเร่งส่งออกรับดีมานด์พุ่ง

“ซีพี” ชี้จีนเปิดประเทศปลายปี  แนะไทยเร่งส่งออกรับดีมานด์พุ่ง

“ซีพี” มั่นใจเศรษฐกิจจีนฟื้น เปิดประเทศปลายปี แนะเอกชนไทยเตรียมความพร้อม ส่งสินค้าเข้าตลาดจีน ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจจีน หนุนพัฒนาเมือง สร้างเกษตรแปลงใหญ่ ลงทุนอุตสาหกรรมไฮเทค

นายธนากร เสรีบุรีรองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “อดีต ปัจจุบันและอนาคตของจีน” จัดโดย สมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน ร่วมกับ หอการค้าไทยในจีน เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2565 ว่า นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตั้งแต่ปี 2563 ได้ส่งผลให้จีนใช้นโยบายปิดประเทศ แต่มั่นใจว่าในช่วงปลายปี 2565 จีนจะเปิดประเทศแน่นอน ซึ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการไทยจะต้องเตรียมความพร้อมรับการเปิดประเทศ

ทั้งนี้ การที่จีนฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้นจึงจำเป็นที่ไทยต้องเตรียมความพร้อมในเชิงรุก เช่น การส่งออกสินค้าไปขายในจีน เพราะกำลังซื้อของจีนจะสูงขึ้นมาก และปัญหาความขัดแย้งกับไต้หวันจะไม่กระทบเศรษฐกิจจีน

"เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้แม้เจอผลกระทบโควิดจึงคิดว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจของจีนจะดีมาก โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนขยายตัว 0.4% แต่หลายประเทศก็ขยายตัวไม่มาก ซึ่งรัฐบาลจีนยังมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ 5% แต่ภาคเอกชนมองว่าถ้าเศรษฐกิจขยายตัวได้ 4% ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าพอใจ"นายธนากร กล่าว

“ซีพี” ชี้จีนเปิดประเทศปลายปี  แนะไทยเร่งส่งออกรับดีมานด์พุ่ง

นอกจากนี้ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนเดิมแต่ละมณฑลแข่งขันให้จีดีพีขยายตัว แต่ปัจจุบันแต่ละมณฑลได้แข่งขันดึงอุตสาหกรรมเป้าหมายมาลงทุน ซึ่งการที่เศรษฐกิจสามารถพัฒนามาได้ถึงปัจจุบันขึ้นกับปัจจัย ดังนี้ 

1.การพัฒนารถไฟความเร็วสูง ที่ปัจจุบันพัฒนาได้ระยะทาง 40,000 กิโลเมตร

2.การพัฒนาทางด่วนมอเตอร์เวย์ ปัจจุบันระยะทาง 1.1 แสนกิโลเมตร 

3.การพัฒนาสนามบิน ซึ่งมีการพัฒนาสนามบินใหญ่ทั่วประเทศ 60-70 แห่งทั่วประเทศ

"การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวทำให้ทำให้สินค้าเกษตรพระจายจากแหล่งผลิตเข้าสู่ตลาดได้ ต้นทุนโลจิสติกส์ลดลง และการเดินทางสะดวกขึ้น" นายธนากร กล่าว

สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในอีก 5 ปี ข้างหน้า จะขึ้นกับการพัฒนา 3 แนวทาง คือ

1.ให้ประชาชนมาอยู่ในเมืองมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาคบริการขยายตัวตามไปด้วย

2.การเกษตรจะใช้รูปแบบแปลงใหญ่ ซึ่งใช้รูปแบบเดียวกับสหรัฐที่มีการทำเกษตรแปลงใหญ่และใช้เครื่องจักรในการทำเกษตร

3.การลงทุนจะเน้นธุรกิจเทคโนโลยีสูง โดยเอกชนไทยที่จะไปลงทุนในจีนจะต้องศึกษาว่าจะต้องการการลงทุนธุรกิจใด

"ที่ผ่านมา-รัฐบาลจีนมีบทบาทในบริษัทเอกชนและทำให้ธุรกิจขยายตัว โดยรัฐบาลจีนมีกลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรม เช่น ลดการผลิตสิ่งทอที่เซี่ยงไฮ้เพื่อผลักดันเป็นศูนย์กลางแฟชัน และย้ายอุตสาหกรรมทอผ้าไปพื้นที่ตอนใน" นายธนากร กล่าว