"ปตท.-จ.นครสวรรค์" ร่วมพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด สู่ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ

"ปตท.-จ.นครสวรรค์" ร่วมพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด สู่ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ

จ.นครสวรรค์ ร่วมกับ ปตท. พัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด พร้อมก้าวสู่ต้นแบบเมืองอัจฉริยะ Smart Energy–Smart City หนุนประเทศก้าวสู่ Net Zero

นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างหรือภาคกลางตอนบนจึงได้รับสมญานามว่าเป็น "ประตูสู่ภาคเหนือ" มีพื้นที่ประมาณ 9,597 ตารางกิโลเมตร หรือ 5,998,548 ไร่ซึ่งในปี 2563 จังหวัดนครสวรรค์มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม จำนวน 111,441 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 ของภาคเหนือรองจากจังหวัดเชียงใหม่มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัว จำนวน 121,070 บาทต่อคนต่อปี พื้นที่ทางเกษตร จำนวน 4,700,565 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 78.36 ของพื้นที่จังหวัดมีโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 702 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 92,831 ล้านบาท จากโอกาสและศักยภาพของจังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดจึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติแผนปฏิรูปประเทศ และนำหมุดหมาย จากร่างแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 มากำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัดหนึ่งในประเด็นการพัฒนาจังหวัดที่สำคัญ คือ ด้านพลังงานทดแทน และโครงสร้างพื้นฐาน
และสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับยานยนต์ไฟฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด เพื่อให้สอดคล้องกับการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญา
สหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP26 ที่จัดขึ้นที่ประเทศสกอตแลนด์ โดยใช้ BCG MODEL ในการพัฒนา ด้วยศักยภาพ ของจังหวัด อยู่ในพื้นที่ที่ความเข้มของแสงอาทิตย์ เหมาะสมสำหรับการผลิตพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ ประกอบกับมีพื้นที่แหล่งน้ำที่เหมาะกับการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์แบบทุ่นลอย หรือ Floating Solar เช่น บึงบอระเพ็ด บึงเสนาท

ซึ่งมีความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นแหล่งผลิตพลังงานทดแทน ที่สำคัญและใช้ประโยชน์ร่วมกัน ได้ทั้งในภาคการเกษตร ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจในพื้นที่โดยรอบ สำหรับการผลิตพลังงานไฟฟ้าชีวมวลจากฟางข้าว ในแต่ละปีจังหวัดนครสวรรค์มีปริมาณฟางข้าวกว่า 1 ล้าน 7 แสนตัน สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้กว่า 160 เมกะวัตต์ต่อปี ช่วยลดการเผาเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร และในมิติของยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะเข้ามาทดแทนรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากน้ำมันในอนาคตนั้น จังหวัดนครสวรรค์เป็นทางผ่านสู่ภาคเหนือและด้วยระยะทาง 239 กิโลเมตรจากกรุงเทพมหานครมาถึงจังหวัดนครสวรรค์เป็นระยะทางที่เหมาะสมสำหรับการจอดพักเพื่อชาร์จพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถขนส่งเชิงพาณิชย์ ที่ไม่สามารถจอดพักได้บ่อยแต่จะจอดเฉพาะจุดที่จำเป็นเท่านั้น ดังนั้น การพัฒนาพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ให้เป็น EV Charging Station Hub จึงถือว่ามีความเหมาะสม และเป็นโอกาสในการพัฒนาเชิงพื้นที่และจะส่งผลไปสู่ภาคธุรกิจต่อเนื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ดร.บุรณิน  รัตนสมบัติ  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านพลังงานให้กับประเทศไทยตลอดจนต่อยอดธุรกิจด้วยการแสวงหานวัตกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงด้าน พลังงานแห่งอนาคต และรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ กลุ่ม ปตท. จะได้นำเอาองค์ความรู้ด้านพลังงาน รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสนับสนุนจังหวัดนครสวรรค์

โดย บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในฐานะแกนนำ นวัตกรรม ธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. (the innovative power flagship of PTT Group) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมพลังงาน พร้อมนำโซลูชั่น และเทคโนโลยี เข้ามา ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของโลกโดยจะเข้าไปร่วมศึกษาและพัฒนาโครงการนวัตกรรมทางด้านพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และในด้านการเดินทางและการขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. จะเข้ามาช่วยสนับสนุน ให้มีการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า (EV) การติดตั้งสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ครอบคลุมในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น ภาคขนส่งและการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาจังหวัดนครสวรรค์ให้พร้อมสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ต้นแบบด้านพลังงานสะอาด ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ และสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชุมชนอื่น ๆ เพื่อพัฒนา คุณภาพชีวิตของคนในสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนได้ต่อไป