‘ทูซีทูพี’ ร่วม ธปท.ทดสอบ ‘บาทดิจิทัล’ หวังเพิ่มทางเลือกการชำระเงิน

‘ทูซีทูพี’ ร่วม ธปท.ทดสอบ ‘บาทดิจิทัล’  หวังเพิ่มทางเลือกการชำระเงิน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า CBDC หรือ “เงินบาทดิจิทัล” จะเข้ามาเพิ่มทางเลือกในการชำระเงินที่มีอยู่ ไม่ได้มาทดแทนทำให้ทางเลือกใดหายไป ซึ่งต้องใช้งานผ่านช่องทางของธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ปิยชาติ รัตน์ประสาทพร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ได้รับการคัดเลือกจาก ธปท. ในก้าวต่อไปของสกุลเงินดิจิทัล CBDC ซึ่งจะเริ่มทำการศึกษาพัฒนา Retail CBDC และทดลองใช้ในวงจำกัด

ร่วมกับผู้ให้บริการทางการเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่อทดลองใช้ CBDC กับประชาชน และร้านค้ากลุ่มตัวอย่าง ในการทดสอบการใช้งานระดับพื้นฐาน (Foundation track) เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าบริการในพื้นที่เฉพาะ คาดว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับร้านค้าที่ร่วมโครงการ และในกลุ่มผู้ใช้งานประมาณ 10,000 ราย ตามที่ ธปท. กำหนดเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ไปจนถึงกลางปี 2566

‘ทูซีทูพี’ ร่วม ธปท.ทดสอบ ‘บาทดิจิทัล’  หวังเพิ่มทางเลือกการชำระเงิน

ดิจิทัลมันนี่ จ่ายเงินข้ามประเทศ

แม้ว่าการเข้ามาของดิจิทัลมันนี่ หรือ เงินบาทดิจิทัล (retail central bank digital currency: retail CBDC) อาจจะเสร็จสมบูรณ์ในอนาคตข้างหน้า ในขณะเดียวกันหลายประเทศกำลังทำ สำรวจ และอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา หรือปล่อยออกมาใช้แล้วในบางประเทศ

ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ ในประเทศไทยจะเป็นข้อดีในอนาคต ที่เราจะสามารถใช้เงินบาทดิจิทัลใช้จ่ายข้ามประเทศได้ทันที สามารถใช้การสแกน Qr Code เป็นมาตรฐานการจ่ายเงินทั่วโลก ทำให้การจ่ายเงินข้ามประเทศสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งลดภาระการคำนวณส่วนต่างของค่าเงินแต่ละประเทศ

โดยต้องเตรียมข้อมูลของบริษัทเพื่อนำเสนอข้อเสนอ เทคโนโลยี โอกาสธุรกิจแผนดำเนินงานของบริษัทร่วมกับ ธปท. ในการเข้าร่วมการทดลองที่ทำให้บริษัทได้รับเลือกเป็นกลุ่มทดลองการใช้ CBDC และเชื่อว่าในอนาคตจะมีการเปิดรับหลายธนาคาร และหลายกลุ่มบริษัทเพื่อเข้ามาทดลองระบบดิจิทัลมันนี่ให้สามารถใช้ได้แพร่หลาย

ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท สิ้นปี 65

ทูซีทูพีขึ้นแท่นผู้นำแห่งแพลตฟอร์มการชําระเงินชั้นนําในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทูซีทูพียังเป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์ระดับโลกเข้าถึงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเชื่อมต่อบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เข้าถึงลูกค้าทั่วโลก

โดยปัจจุบันทูซีทูพีให้บริการลูกค้าหลากหลายรูปแบบ อาทิ บริการ Payment Gateway การรับชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตหรือเดบิต บริการ Qwik สำหรับร้านค้าที่ขายผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์คกิ้ง (social commerce) บริการออกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ออกบัตรเวอร์ชัวร์ ออกบัตร Prepaid ทั้ง MasterCard และ Visa และบริการ easyBills ศูนย์รวมการจ่ายบิลสาธารณูปโภคด้วยบัตรเครดิต รวมทั้ง easy2Send การให้บริการโอนเงินข้ามประเทศ

สำหรับรายได้ของครึ่งปีแรกปี 2565 เป็นไปตามความคาดหมาย คาดปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท เติบโต 25-30% และคาดว่าครึ่งปีหลังจะสามารถทำรายได้มากกว่าครึ่งปีแรก 5-10% 

เนื่องจากการเปิดประเทศ และการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 การท่องเที่ยวประเทศไทยกลับมาฟื้นตัว รวมทั้งนโยบายของรัฐบาล เราเที่ยวด้วยกันเข้ามาเสริม สะท้อนจากยอดการจองตั๋วผ่านช่องทางออนไลน์ทั่วโลกและทุกสายการบินในประเทศไทยเพิ่งสูงขึ้น ฟื้นตัว 50-80% แต่ต้องใช้เวลาหากรายได้จะเติบโตเทียบเท่าก่อนช่วงเกิดโควิด-19 

สำหรับแผนธุรกิจปี 2566 ทูซีทูพียังคงเร่งขยายช่องทางในการเป็นแพลตฟอร์มการชําระเงินเข้ามาเยอะขึ้น ขยายตัวเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ที่ลึกมากขึ้น และเพิ่มฐานการค้าในทุกอุตสาหกรรมและทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะแบรนด์ดังระดับโลก

การร่วมมือกับ บริษัท แอนท์ ไฟแนนซ์เชียล (Ant Financial) ผู้ให้บริการทางการเงินรายใหญ่จากจีน เจ้าของอาลีเพย์ (Alipay) ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดย อาลีบาบา (Alibaba) ที่มีกลุ่มลูกค้าที่สำคัญฐานลูกค้าใหญ่ ครอบคลุมลูกค้ากลุ่มเอเชียอาคเนย์ เอเชีย-แปซิฟิก และสามารถขยายไปถึงทั่วโลก จากการเข้าไปเป็นช่องทางในการชําระเงินของร้านค้ารายใหญ่และรายย่อยทั่วโลก

ในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีปริมาณธุรกรรมมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยในการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจ คือ การที่เรามีเครือข่ายพันธมิตร และผู้ค้าที่กว้างขวาง เช่น ธนาคาร ผู้ให้บริการรับชำระเงินต่างๆ และผู้ค้าที่มีความแข็งแกร่งมั่นคงในระดับภูมิภาค อาทิ Grabpay Shopeepay และ HOOLAH 

อีกหนึ่งปัจจัยการเติบโตคือ ทูซีทูพียังเข้าถึงการให้บริการที่ไร้รอยต่อในภาคอุตสาหกรรม และประเภทธุรกิจอื่นๆ มากมาย เช่น การจับมือพันธมิตรกับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก บริษัทประกันภัย ภาคการบิน รวมถึงการพัฒนาการบริการในด้านผู้ค้าที่มีอยู่ เช่น สินค้าและบริการดิจิทัล รวมถึงการทำธุรกรรมชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือโซลูชันเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม รวมถึงโซลูชันเพิ่มเติมสำหรับ SME เป็นต้น

การชำระเงินดิจิทัลโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีการเติบโต และคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้านอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้น จาก 162% เป็น 179.8 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568 ทั่วทั้งภูมิภาค โดยการชำระเงินดิจิทัลคิดเป็น 91% ของการชำระเงินอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ซึ่งการกลับมาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการบริการหลังเปิดประเทศจะเริ่มเห็นมากขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค 

ในแง่ของตลาดอีคอมเมิร์ซ คาดว่าอนาคตตลาดที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่ อินโดนีเซีย (83 พันล้านดอลลาร์) เวียดนาม (29 พันล้านดอลลาร์) และ ไทย (24 พันล้านดอลลาร์) ตามลำดับ เช่นเดียวกับสถานการณ์ตลาดอีเพย์เมนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่คาดว่าจะเติบโตมีมูลค่าถึงประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573

และสำหรับในไทยยังพบว่า ประชากรส่วนใหญ่นิยมใช้สมาร์ทโฟน ทำให้กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งทูซีทูพีได้มองเห็นถึงโอกาส และช่องทางในการขับเคลื่อนธุรกิจ ภายใต้เศรษฐกิจแห่งอนาคตหลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทูซีทูพีให้บริการผู้ค้ากว่า 10,000 ราย จากทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ตลาดออนไลน์ ผู้ค้าปลีก และองค์กรระดับโลกอื่นๆ รวมทั้งผู้ค้ารายสำคัญบางรายของเราในประเทศไทย ได้แก่ ลาซาด้า การบินไทย โรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ ไปรษณีย์ไทย เป็นต้น 

รวมทั้งทูซีทูพียังเชื่อมต่อกับธนาคารชั้นนำทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดจนวิธีการชำระเงินทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เรียกว่าครอบคลุมมากที่สุด

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์