PT การส่งมอบงานอาจมีความล่าช้าจาก Chip Shortage

PT การส่งมอบงานอาจมีความล่าช้าจาก Chip Shortage

บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 2Q22 เท่ากับ 597.0 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และ YoY โดยรายได้จากการขายของลูกค้าในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  ยังไม่เกิดการลงทุนใหม่

แต่ถูกชดเชยด้วยรายได้จากการบริการที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นรายได้ต่อเนื่อง ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 21.2% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน แต่ลดลงจากฐานสูงที่ 25.1% ใน 2Q21 เนื่องจากมีการรับรู้งานที่ Margin สูง ด้าน SG&A/Sales อยู่ที่ระดับ 18.5% เพิ่มสูงขึ้นจาก 15.9% ใน 1Q22 เนื่องจากใน 2Q22 มีการบันทึกค่าใช้จ่ายในการทำ CSR เข้ามา แต่ยังลดลงจากระดับ 20.0% ใน 2Q21 เนื่องจากสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2Q22 เท่ากับ 18.1 ล้านบาท ลดลง -45.7%QoQ และ -18.6%YoY
 

-  คาดผลประกอบการ 2H22 ได้ลูกค้ากลุ่มโรงแรมหนุน

ทิศทางผลประกอบการ 2H22-23  ยังได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจโรงแรม และสถานศึกษามีการลงทุนมากขึ้น  ประกอบแรงหนุนจากงาน Cyber Security ที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันภัย เพื่อปกป้องข้อมูลจากมิจฉาชีพ อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นความเสี่ยงเรื่อง Chip Shortage ซึ่งอาจส่งผลให้การส่งมอบงานบางรายการมีความล่าช้า เราคงประมาณการรายได้ปี 22-23 ที่ระดับ 2,351.0 ล้านบาท และ 2,524.3 ล้านบาท เติบโต +11.7%YoY และ +7.4%YoY พร้อมคงกำไรสุทธิปี 22-23 ที่ระดับ และ 133.6 ล้านบาท และ 140.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +46.5%YoY และ +2.9%YoY ตามลำดับ
 

 

 

- คงคำแนะนำ“ซื้อเมื่ออ่อนตัว”ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 23 ที่ 6.50 บาท

ผลประกอบการเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เราประประเมินมูลค่าอิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 3 ปี ที่ 13.0 เท่า โดยปรับใช้ราคาเหมาะสมเป็นปี 23 เท่ากับ 6.50 บาท (จากราคาเหมาะสมปี 22 ที่ 6.10 บาท) คงคำแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” โดยคาดหวังอัตราผลตอบแทนเงินปันผลราว 6% ต่อปี 


ปัจจัยเสี่ยง

i)    ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของ IT Technology
ii)    การดำเนิงานโครงการและการส่งมอบงานล่าช้า