แม้ระวังผันผวน แต่บรรยากาศเก็งกำไรยังเป็นบวกในกรอบ 1,620-1,643

แม้ระวังผันผวน แต่บรรยากาศเก็งกำไรยังเป็นบวกในกรอบ 1,620-1,643

การเมืองในประเทศแม้อาจทำให้ตลาดผันผวนระยะสั้นแต่มีผลต่อปัจจัยพื้นฐานจำกัด ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัยเรื่องการพ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงมติ 5:4 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ระหว่างรอคำวินิจฉัย

เรามองปัจจัยดังกล่าวมีผลต่อตลาดจำกัดเนื่องจาก 1) ตลาดตอบรับปัจจัยบวกล่วงหน้ามาพอสมควรแล้ว (+17 จุด เมื่อ 23 ส.ค.) 2) การหยุดปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว เป็นเพียงชั่วคราวระหว่างรอคำวินิจฉัย 3) โครงสร้างการบริหารไม่เปลี่ยน โดยรักษาการนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะเป็น รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 4) กรอบเวลาการเลือกตั้งไม่เปลี่ยน โดยหากไม่มีอุบัติเหตุให้สมาชิกสภาพของสภาผู้แทนหมดลง สภาฯ จะครอบอายุ 4 ปี วันที่ 23 มี.ค.66 // เราประเมินการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/66 หรืออาจเร็วขึ้นเล็กน้อย ซึ่งไม่กระทบต่อภาพการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

 

ประเมินเงินทุนไหลเข้า (Fund flow) ยังมีความต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปี 168,257 แสนล้านบาท เราประเมินการไหลเข้าเงินทุนยังมีความต่อเนื่องจาก 1) ภาพรวมของไทยอยู่ในสถานะแหล่งพักเงิน เนื่องจากมีสัดส่วนการถือครองโดยต่างชาติต่ำมานาน 2) ฐานะการเงินของไทยแข็งแกร่ง ผลของโควิดทำให้ประเทศส่วนใหญ่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเราก็เจอสถานการณ์นี้ แต่ไทยมีเงินทุนสำรองสูงทำให้มีเวลารอการฟื้นตัว 3) การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย และอาเซียน ในปี 2565-66 โดยรวมอยู่ในภาพที่ดีกว่าภูมิภาคส่วนใหญ่ในโลก 4) บจ.ไทยมีหุ้นที่สอดคล้องกับประเด็นการลงทุนทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ค้าปลีก การเงิน การแพทย์) และหุ้นที่ได้ผลบวกจากโอกาสปรับเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน (พลังงานต้นน้ำ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน)
 

 

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มได้ประโยชน์จากคนละครึ่งเฟส 5 อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE, TNP, KK, MAKRO 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CPALL, SCGP, TOP, RATCH, CRC, CPF, RS, SC, TH, TLI, BAM

 

ภาพรวมกลยุทธ์: เก็งกำไรแบบเผื่อตลาดผันผวนลงในช่วง 1 เดือนหน้า โดยมีกรอบความเคลื่อนไหวระยะสั้นที่ 1,620-1,643 จุด เก็งกำไรเน้นเลือกประเด็นบวกรายตัว ภาพใหญ่ทยอยเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) สำหรับ DR หุ้นจีน ทยอยสะสม สำหรับการเก็งกำไร เน้นหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อย   //หุ้นแนะนำ:  AMATA*, ROJNA*, PTTEP*, IVL*

แนวรับ: 1,615-1,625 / แนวต้าน : 1,635-1,645 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

 

 

 

 

ประเด็นการลงทุน
 

สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง 1.0% – pending home sales ลดลง 1.0% ในเดือนก.ค. mom สู่ระดับ 89.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 

EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด – ลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 933,000 บาร์เรล

รัสเซียเสนอขายน้ำมันให้เอเชียถูกกว่าตลาดถึง 30% – ด้านผู้นำอินโดนีเซีย กำลังพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว แต่ก็กังวลว่าอาจถูกสหรัฐคว่ำบาตร หากยอมรับข้อเสนอ

อังกฤษงดนำเข้าเชื้อเพลิงจากรัสเซียโดยสิ้นเชิงเป็นครั้งแรก - ยอดนำเข้าสินค้าจากรัสเซียลดลงสู่ระดับ 33 ล้านปอนด์ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในเดือนม.ค. 2540

ญี่ปุ่นอาจกลับมาใช้พลังงานนิวเคลียร์ - ญี่ปุ่นจะเริ่มเดินหน้าใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้ง พร้อมมุ่งเป้าไปยังการพัฒนาปฏิกรณ์นิวเคลียร์รุ่นใหม่ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่เหตุการณ์ฟูกุชิมะ

ททท.มองแนวโน้มท่องเที่ยวไทยฟื้นกลับไปเท่าก่อนโควิดในปี 67 – คาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย 10 ล้านคน และเพิ่มเป็น 20 ล้านคนในปี 66 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวราว 2.4 ล้านล้านบาท หรือ กลับมา 80% เทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด จากการมุ่งเน้นการท่องเที่ยวคุณภาพ และ ปี 67 จะมีรายได้ 3 ล้านล้านบาทกลับไปเท่ากับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด

ปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 เจ้าใหญ่ซองละ 1 บาท มีผล 25 ส.ค. - มาม่า, ไวไว และยำยำ ทำให้ราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรับขึ้นจากซองละ 6 บาท เป็น 7 บาท

รฟม.เปิดซองที่ 2 ด้านเทคนิครถไฟฟ้าสายสีส้ม BEM-ITD Group – ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี ทั้งนี้ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะพิจารณาข้อเสนอและดำเนินการตามขั้นตอนในพรบ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป  

Opportunity day –24 ส.ค. – PF, TVDH, FPI, BEC, LEO, APP, EPG, SMD, HARN, BCP, KK, CRD, HL, NCL / 25 ส.ค. – SHR, OR, TPIPP, THANA, CV, IRPC, FORTH, LALIN, S, PYLON, TQM, PROEN, PLANB, GULF / 26 ส.ค. – CPALL, KTC, SENA, EA, THANI, FTE, SYNEX, MICRO, BJCHI, PDJ, BCH, JKN, GPSC 

 

ประเด็นติดตาม: 25 ส.ค. – US GDP / 26 ส.ค. – Jackson Hole Symposium, Fed Chair Powell Speaks, US Core PCE Price Index / 30 ส.ค. – US JOLTs, US CB Consumer Confidence

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)