กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ เทรดกรอบแคบ ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ + ผลประชุม กนง.

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ เทรดกรอบแคบ ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ + ผลประชุม กนง.

ในสัปดาห์ที่แล้ว (1 – 5 สิงหาคม) ตลาดหุ้นไทยยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก i) มุมมองว่าเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และธนาคารกลางสหรัฐจะชะลอการใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้นในระยะต่อไป

ii) ดัชนี US dollar index ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้ค่าเงินบาทกลับมาแข็งขึ้นอีกครั้ง และมีกระแสเงินทุนไหลมาเข้าหุ้นไทยอย่างแข็งแกร่ง ในขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของไทยวิ่งขึ้นมาแรง โดยเฉพาะ DELTA* ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดันให้ดัชนี SET ขยับขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง หุ้นกลุ่มพลังงาน underperform ตลาดอย่างมากเพราะราคาน้ำมันดิบลดลงแรงจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ว่า OPEC+ จะมีมติเพิ่มการผลิตในเดือนกันยายนเพียง 100kbpd เท่านั้น

 

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์นี้ (8 – 11 สิงหาคม) เราคาดว่าดัชนี SET จะพักสร้างฐานเนื่องจากปัจจัยในตลาดโลกในภาพรวมดูไม่ค่อยเอื้อกับสินทรัพย์เสี่ยง โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 528,000 ตำแหน่ง สูงกว่า consensus ที่ 250,000 ตำแหน่ง และทำให้ตลาดกลับมากังวลว่า Fed อาจจะขึ้นดอกเบี้ย 75bps อีกรอบ นอกจากนี้ เราคิดว่านักลงทุนอาจจะอยากเคลื่อนไหวก่อนการประกาศตัวเลข CPI เดือนกรกฎาคมในวันพุธนี้ อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าปัจจัยภายในประเทศยังเป็นบวกอยู่ และน่าจะช่วยจำกัด downside ของตลาด โดยผลประกอบการใน 2Q65 ของบริษัทจดทะเบียนไทยเท่าที่ประกาศออกมาแล้วยังถือว่าฟื้นตัวได้ดี ในขณะที่ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่คาดว่า กนง. จะขึ้นดอกเบี้ย 25bps ในสัปดาห์นี้ เราคาดว่าหุ้นกลุ่มสื่อสารจะคึกคักมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจาก กสทช. มีกำหนดตัดสินว่าจะอนุมัติการควบรวมระหว่าง DTAC* และ TRUE* หรือไม่

 

 

 

ดัชนี CPI สหรัฐ และการตัดสินนโยบายการเงินของ กนง. เป็นสองปัจจัยมหภาคที่สำคัญที่สุด

(0) ดัชนี CPI สหรัฐจะเป็นตัวกำหนดความคาดหวังของตลาดต่อท่าทีของ Fed โดย consensus คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐในเดือนกรกฎาคมจะชะลอลงมาอยู่ที่ 8.7% YoY จาก 9.1% YoY ในเดือนมิถุนายน ในขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเร่งตัวขึ้นเป็น 6.1% YoY จาก 5.9% YoY ในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงหลังมานี้ออกมาดีขึ้น การที่เงินเฟ้อยังค้างอยู่ในระดับสูงอาจจะทำให้ตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed อีกครั้ง

(0/+) ผลการประชุม กนง. และการประกาศผลประกอบการงวด 2Q65 เป็นปัจจัยในประเทศที่สำคัญ กนง. มีกำหนดประชุมเพื่อตัดสินนโยบายการเงินของประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคม โดยเราคาดว่ากนง. จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bps เป็น 0.75% และจะเตรียมพร้อมเพื่อทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ระดับปกติในอนาคต ในขณะเดียวกัน สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่มีการประกาศผลประกอบการ 2Q65 ของบริษัทจดทะเบียนออกมามากที่สุดก่อนจะถึงกำหนดส่งงบวันสุดท้ายในวันที่ 16 สิงหาคม 2565

 

ยังคงเน้นหุ้นหลักในกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการท่องเที่ยว

เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจภายในประเทศยังค่อนข้างแข็งแกร่ง เราจึงคิดว่าน่าจะจัดสรรเงินลงทุนส่วนใหญ่ลงไปในหุ้นกลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการท่องเที่ยว อย่างเช่น

  • กลุ่มธนาคาร (KBANK, KTB)
  • ไฟแนนซ์ (MTC, TIDLOR)
  • การพาณิชย์ (COM7)
  • ขนส่ง (AOT)

และหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรซึ่งน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ได้แก่

  • กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GPSC)

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมว่าจะทำให้มุมมองดอกเบี้ยของ Fed เปลี่ยนแปลงไปอีกหรือไม่