การกำหนดมาตรฐานสินค้าข้าวของไทย

ประเทศไทยเริ่มส่งออกข้าวมานานแล้วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และส่งออกมากขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 การส่งออกข้าวในยุคดังกล่าวยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานคุณภาพข้าว ซึ่งขึ้นอยู่กับความตกลงในแต่ละครั้ง
๐ การกำหนดมาตรฐานข้าว
ในปี 2500 กระทรวงเศรษฐการได้ออกประกาศเรื่อง กำหนดมาตรฐานข้าว ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2500 ซึ่งเป็นมาตรฐานข้าวไทยที่เป็นทางการฉบับแรกของไทย เป็นมาตรฐานข้าวใช้สำหรับข้าวเหนียวและข้าวจ้าว โดยแยกข้าวเป็น 3 ประเภท คือข้าวสาร ข้าวกล้อง และข้าวนึ่ง
ข้าวสาร (Milled Rice) คือข้าว ที่ผ่านการสีเอาเปลือกข้าวที่เป็นแกลบออกแล้ว และขัดสีเอารำออกจนเห็นเนื้อข้าว ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการสีขัดรำออกเกลี้ยงแค่ไหนเพียงใดซึ่งเป็นข้อกำหนดประการหนึ่งของคุณลักษณะมาตรฐานข้าวสารหรือเรียกกันอีกนัยหนึ่งว่าข้าวขาว ซึ่งแยกเป็น 8 ชนิด
ข้าวกล้อง (Husk Rice ในทางการค้าเรียกว่า Brown Rice หรือ Cargo rice หรือ Loonzain rice) คือข้าวที่ผ่านการสีเอาเปลือกข้าวคือแกลบออกแล้ว แต่ไม่ได้ขัดสีเอารำออก แยกออกเป็น 3 ชนิด ข้าวนึ่ง (Parboil Rice) คือข้าวสารได้จากการสีข้าวเปลือกจ้าวซึ่งผ่านการแช่น้ำและอบด้วยไอน้ำ ตากให้แห้งก่อนทำการสีเป็นต้นข้าวและปลายข้าว ซื้อขายกันตามตัวอย่าง
หลังจากใช้มาตรฐานข้าวฉบับนี้มา 17 ปี ในปี 2517 กระทรวงพาณิชย์ได้แก้ไขปรับปรุงมาตรฐานข้าว เป็นมาตรฐานข้าวฉบับใหม่ ใช้ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2517 มาตรฐานข้าวฉบับใหม่ แบ่งข้าวเป็น 4 ประเภท คือ ข้าวกล้อง ข้าวขาว (เปลี่ยนจากเดิมที่เรียกว่าข้าวสาร) ข้าวเหนียวขาวและข้าวกล้อง
ในปี 2540 มีการแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานข้าว และประกาศใช้มาตรฐานข้าวฉบับที่แก้ไขปรับปรุงใหม่ ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องมาตรฐานสินค้าข้าว พ.ศ. 2540 ซึ่งอิงอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานสินค้าขาออก มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2540
ซึ่งยังแบ่งประเภทข้าวเป็น 4 ประเภท เช่นเดิม ปี 2559 กระทรวงพาณิชย์ปรับปรุงมาตรฐานสินค้าข้าวอีกตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องมาตรฐานสินค้าข้าว พ.ศ.2549 มีผลใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ 21 ธันวาคม 2559
มาตรฐานสินค้าข้าวของไทยดังที่กล่าวมาแล้วได้กำหนดครบเกือบทุกประเภท แยกหลายชนิดตั้งแต่ที่เป็นมาตรฐานสูงสุดและรองลงไปตามลำดับ เพื่อครอบคลุมผลผลิตข้าวไทยที่มีคุณภาพหลากหลาย และสนองความต้องการของผู้ซื้อในบางประเทศที่ต้องการข้าวที่มีคุณภาพระดับรองลงไปตามความคุ้นชินในการบริโภคของประชากรในประเทศนั้นๆ
ข้าวหอม ข้าวหอมที่มีชื่อเสียงมากของไทยคือ ข้าวหอมมะลิซึ่งได้รับการปรับปรุงพัฒนาพันธุ์มาจากเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรได้รวบรวมข้าวหอมพันธุ์พื้นเมืองจากจังหวัดฉะเชิงเทรา และปรับปรุงพัฒนาพันธุ์ขึ้นเป็นข้าวหอมมะลิจนมีการปลูกมีผลผลิตกันมากจนสามารถจำหน่ายให้ผู้บริโภคในประเทศ
และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในต่างประเทศที่มีกำลังซื้อสูง จึงเริ่มมีการส่งออกในปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกปี ด้านคุณภาพทางด้านกายภาพใช้มาตรฐานข้าวขาวเป็นเกณฑ์ส่งออก
มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยไว้เป็นการเฉพาะ ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย พ.ศ.2541 มีผลใช้บังคับวันที่ 17 มิถุนายน 2541 ข้าวหอมที่จะถือว่าเป็นข้าวหอมมะลิไทยตามมาตรฐานสินค้าข้าวฉบับนี้ ต้องเป็นพันธุ์ข้าวหอมที่ผลิตในประเทศไทยที่กรมวิชาการเกษตรให้การรับรอง เช่น พันธุ์ข้าวดอกมะลิ105 พันธุ์กข.15 พันธุ์คลองหลวง
มาตรฐานข้าวหอมไทย เนื่องจากมีข้าวหอมอีกหลายชนิดที่ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานไว้ ในปี 2559 กระทรวงพาณิชย์จึงออกประกาศกำหนดมาตรฐานสินค้าข้าวหอมไทยออกใช้บังคับ เพื่อประโยชน์ให้การส่งออกข้าวไทยที่เป็นข้าวหอมมีความหลากหลายให้เป็นที่เชื่อถือของต่างประเทศ เรียกโดยรวมว่าข้าวหอมไทย ซึ่งรวมถึงข้าวหอมปทุมธานีด้วย
มาตรฐานข้าวสีไทย ในปี 2562 กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศกำหนดมาตรฐานข้าวสีไทย พ.ศ.2562 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2562 ให้ความหมายโดยสรุปได้คือ “ข้าวสีไทย” (Thai Colour Rice) คือ ข้าวกล้องที่แปรรูปมาจากข้าวเปลือกเจ้าหรือข้าวเปลือกเหนียวที่ผลิตในประเทศไทย
๐ มาตรการเฉพาะสำหรับข้าวหอมมะลิไทย
เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย นอกจากประกาศกำหนดมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทยไว้แล้ว ในปีเดียวกันนั้นกรมการค้าต่างประเทศก็ได้จดทะเบียนเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย ตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
ผู้ที่จะใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยได้ต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ และต่อมากรมการค้าต่างประเทศได้จดทะเบียนเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยในต่างประเทศรวม 48 ประเทศ และจัดสายออกไปประชาสัมพันธ์ส่งเสริมข้าวหอมมะลิไทยในประเทศนำเข้าที่สำคัญหลายครั้ง
การกำหนดให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นสินค้ามาตรฐาน ต่อมากระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกำหนดให้สินค้าข้าวหอมมะลิไทยเป็นสินค้ามาตรฐาน เพื่อการควบคุมคุณภาพที่ส่งออกเข้มงวดขึ้น ประกาศฉบับล่าสุดคือประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นสินค้ามาตรฐานและมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย (ฉบับที่3) พ.ศ.2559
การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สำหรับข้าวหอมมะลิไทย (Geographical Indication : GI) กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้สนับสนุนให้มีการขึ้นทะเบียน GI สำหรับข้าวหอมมะลิที่ปลูกในท้องถิ่นที่มีคุณลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เช่น ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา และยังสนับสนุนให้ขึ้นทะเบียนในสหภาพยุโรปด้วย
จากมาตรการต่างๆ ดังกล่าว เห็นได้ชัดว่ากระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับข้าวหอมมะลิไทยที่ส่งออกมาก จนถึงปัจจุบันข้าวหอมมะลิไทยเป็นที่นิยมในคุณภาพและชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในต่างประเทศ เป็นข้าวส่งออกเกรดพรีเมียมที่ทำรายได้ให้ประเทศสูง สร้างชื่อเสียงให้ข้าวไทยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการการค้าระหว่างประเทศไม่แพ้ข้าวบาสมาติของอินเดียและปากีสถาน
เห็นได้จากรายงานภาวะการค้าข้าวของ FAO และ USDA ตลอดจนนิตยสารที่เกี่ยวกับการผลิตการค้าข้าวที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ ก็มีรายงานเกี่ยวกับราคาและปริมาณการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไว้เป็นการเฉพาะ ไม่แพ้ข้าวบาสมาติ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้เกี่ยวข้องกับวงการค้าการส่งออกข้าว ที่จะพึงช่วยกันรักษาและส่งเสริมชื่อเสียงเกียรติคุณของข้าวหอมมะลิไทยให้ยั่งยืนเฉกเช่นข้าวบาสมาติ ตราบนานเท่านานต่อไป







