สำนักส่งเสริมการค้า-ลงทุนเกาหลีใต้ ดัน 'K-Food' รุกตลาดไทย-อาเซียน

สำนักส่งเสริมการค้า-ลงทุนเกาหลีใต้ ดัน 'K-Food' รุกตลาดไทย-อาเซียน

นโยบายส่งเสริม “อำนาจละมุน” หรือ Soft Power เกาหลีใต้ให้แข็งแกร่ง ยังเดินหน้าทั้งองคาพยพ ผ่านการขี่คลื่น K-Wave จากซีรีส์ ดราม่า คอนเทนต์ K-Drama เคป๊อป(K-Pop) วัฒนธรรม(K-Culture)

ล่าสุด “อาหารเกาหลีใต้” หรือ K-Food เป็นอีก “จิ๊กซอว์” ที่จะต่อเติมให้ Soft Power ของเกาหลีใต้ทรงอิทธิพลในตลาดโลก โดยภูมิภาคอาเซียนมี “ไทย” เป็นศูนย์กลาง

นายยงซอง คิม ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า และการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย (Korea Trade-Investment Promotion Agency หรือ KOTRA Bangkok (โคทรา กรุงเทพฯ) ฉายภาพว่า ภารกิจสำคัญของ KOTRA คือ การโปรโมต ส่งเสริมอาหารเกาหลีใต้หรือ K-Food ให้เติบโต พร้อมกับนำทัพผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีในธุรกิจอาหารออกสู่เวทีการค้าอาเซียน

สำนักส่งเสริมการค้า-ลงทุนเกาหลีใต้ ดัน 'K-Food' รุกตลาดไทย-อาเซียน

เป้าหมายสำคัญของ KOTRA จะผลักดันการเติบโตของ K-Food ให้แตะกว่า 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2573 หรือเทียบเท่ามูลค่าการค้าระหว่างไทย-เกาหลีใต้ ในปีที่ผ่านมา

ศักยภาพของ K-Food มีสูงเฉกเช่นกระแสเกาหลีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น K-POP K-Series K-Beauty ล้วนเป็นสิ่งที่เติบโตควบคู่กันได้อย่างดีกับวัฒนธรรมเกาหลีใต้ทั้งหมด ยิ่งมาดูตลาดในประเทศไทย K-Food ถือว่าได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของโลกเมื่อเทียบกับทุกประเทศ ดังนั้นไทยจึงเป็น “ประตู” หรือ Gate Way สำคัญในการขยายตลาดอาหารเกาหลีใต้สู่ภูมิภาค

หนึ่งในสิ่งที่ตอกย้ำไทยคือ จุดยุทธศาสตร์ เพราะมีการจัดงานใหญ่อย่าง “THAIFEX” ทุกปี ซึ่งมีผู้ประกอบการฝั่งซื้อ-ขายมีพบปะกันจำนวนมาก สร้างโอกาสทางธุรกิจมหาศาล ที่ผ่านมาผู้ประกอบการอาหารเกาหลีใต้ 150 ราย มาร่วมงานดังกล่าวด้วย

สำหรับข้อมูลการบริโภคอาหารเกาหลีในประเทศไทย กลุ่มเป้าหมายหลักมีทั้ง กลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน กลุ่มครอบครัวในเมืองใหญ่ โดยมีมุมมองต่ออาหารเกาหลีว่าทันสมัย ช่วยให้สุขภาพดี อยู่ในกระแสนิยม ด้านข้อมูลจากองค์กรส่งเสริมการค้า และพัฒนาอุตสาหกรรมสินค้าเกษตร ประมง และอาหาร ประเทศเกาหลีใต้, KOTRA กรุงเทพฯ และสมาคมการค้าระหว่างประเทศของเกาหลีระบุ สินค้าอาหารที่เติบโตสูงสุด 5 อันดับในไทย และอาเซียน ได้แก่ 1.บะหมี่ และอาหารพร้อมรับประทาน 2.ซอสและเครื่องปรุง เช่น โคชูจัง และซอสต๊อกบกกี 3.เครื่องดื่มสุขภาพ เช่น คอลลาเจน โสม และโปรไบโอติก 4.ขนมและของหวานเกาหลี 5.อาหารหมัก เช่น กิมจิ ส่วนร้านอาหารเกาหลีก็ได้รับการต้อนรับที่ดีจากกระแส K-Culture ด้วยเช่นกัน ทำให้แบรนด์ ร้านอาหารเกาหลีเริ่มขยายสาขาสู่ประเทศไทย เช่น BHC Chicken หรือ Solsot และร้านอาหารไทยก็มีการเพิ่มเมนูอาหารเกาหลีเพื่อดึงดูดลูกค้า

สำนักส่งเสริมการค้า-ลงทุนเกาหลีใต้ ดัน 'K-Food' รุกตลาดไทย-อาเซียน

“ในเกาหลีใต้มีผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 6 แสนราย นโยบายของรัฐบาลคือ ต้องการส่งเสริมให้ K-Food เติบโต และบทบาทของ KOTRA คือ การช่วยเป็นที่ปรึกษาทั้งด้านกฎหมายของแต่ละประเทศ จัดงานแสดงสินค้าเพื่อเพิ่มโอกาสเจรจาการค้า จับคู่พันธมิตรทางธุรกิจในท้องถิ่นหรือ B2B ขณะที่อาหารเกาหลีใต้ยอดฮิต เช่น ไก่เผ็ดซอสเกาหลี ไก่ทอด ปิ้งย่าง ฯลฯ ซึ่งประเทศไทยยังเป็นตลาดที่ผู้บริโภคชอบอาหารเกาหลีใต้หรือ K-Food มากสุดแห่งหนึ่งของโลก”

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยแข่งขันไม่ง่าย เพราะถือเป็นสนามที่มีความหลากหลายทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารจีน  และ K-Food เพิ่งโปรโมตจริงจังเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เช่น รามยอน เพิ่งฮิต

“ยังเชื่อว่าไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับ K-Food และการแข่งขันเราต้องมีแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการ”

หนึ่งในอาวุธส่งเสริม K-Food คือ การจัดงานแสดงสินค้า และ “SEOUL FOOD” ผ่านสำนักงานของ KOTRA ทั้ง 131 แห่ง ใน 85 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการจัดงานมีเพียงปีละครั้งในประเทศต่างๆ เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น ฯลฯ ส่วนไทยเพิ่งจัดครั้งแรกปี 2567 ในชื่อ “SEOUL FOOD in Bangkok 2025” สร้างมูลค่าการค้า และการเจรจาธุรกิจราว 250 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 8,196 ล้านบาท จากผู้ประกอบการอาหารเกาหลีใต้เข้าร่วมงาน 123 ราย มีผู้ซื้อ-ขายจาก 13 ประเทศ รวม 332 ราย

สำนักส่งเสริมการค้า-ลงทุนเกาหลีใต้ ดัน 'K-Food' รุกตลาดไทย-อาเซียน

ส่วนปีนี้งาน SEOUL FOOD in Bangkok 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–28 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกลุ่มอาหารที่มาร่วมงาน ได้แก่ อาหารพร้อมรับประทาน 45% เครื่องดื่ม 20% ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สินค้าความงาม(บิวตี) 18% อาหารแช่แข็ง 9% อาหารสด 6% และอื่นๆ 2%

“การจัดงาน SEOUL FOOD เป็นการเพิ่มโอกาส มีเวทีให้กับอุตสาหกรรมอาหารเกาหลีใต้ในไทย และภูมิภาคเพิ่ม จากเดิมมีเพียงงานไทยเฟ็กซ์ปีละครั้ง โดยการจัดงานปีนี้คาดหวังจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจหรือเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 250 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จในการส่งออกวัฒนธรรมกลายเป็นประเทศมหาอำนาจด้าน Soft Power หากตกผลึกกลยุทธ์สำคัญ คือ การที่รัฐบาลเกาหลีใต้มีนโยบายส่งเสริมที่ชัดเจน มีงบประมาณสนับสนุน รวมถึงผนึกกำลังกับภาคเอกชนอย่างแข็งแกร่ง เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งไทยสามารถถอดบทเรียนเพื่อผลักดัน Soft Power วัฒนธรรมไทยได้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์