‘พี่ซุป’คอนเทนต์ครีเอเตอร์ผู้ยืนหยัดด้วยศรัทธาและจริยธรรมจากยุคอนาล็อกถึงดิจิทัล

‘พี่ซุป’คอนเทนต์ครีเอเตอร์ผู้ยืนหยัดด้วยศรัทธาและจริยธรรมจากยุคอนาล็อกถึงดิจิทัล

ในยุคที่สายธารแห่งคอนเทนต์หลั่งไหลทุกนาที เราเจอชุดข้อมูลประเภทที่ถามว่า “ได้เงินมาโรงเรียนวันละเท่าไร?” และคำตอบที่ได้คือเป็นพัน เป็นหมื่น เกิดเป็นไวรัลครั้งแล้วครั้งเล่า แม้บางครั้งจะมีคำสารภาพตามว่าเป็นการจัดฉาก

แต่ถึงกระนั้น ก็น่าหวั่นใจ ว่าเด็กเยาวชนไทยของเรา จะรู้สึกหวั่นไหว และตั้งคำถามกับคุณค่าของตัวเองเพียงไหน เรื่องของภูมิต้านทานหรือต้านทุกข์จากการเปรียบเทียบบนโซเชียลนั้น ละเอียดอ่อนนัก ขนาดผู้ใหญ่ยังไม่ง่ายนับประสาอะไรกับเด็กๆ ถึงที่สุดแล้วจริยธรรมของคนทำคอนเทนต์ ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น ในทุกยุคสมัย

ตัวอย่างของคนทำคอนเทนต์ในบ้านเราที่ชวนให้รู้สึกชื่นชมมีไม่น้อย แต่คนที่คอนเทนต์เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนมีไม่มาก และการยืนระยะก็ทำได้ยาก คนหนึ่งที่ต้องนึกถึงคือ “พี่ซุป” ผู้หนักแน่นบนเส้นทางนี้มากว่า 3 ทศวรรษ เรียกว่า จากยุคอนาล็อกถึงโลกดิจิทัล เด็กไทยยังมีเวทีดีๆ ของตัวเอง

ในวันที่ช่องฟรีทีวีล้นไปด้วยละครหลังข่าวและรายการวาไรตี้เอาใจคนดูวัยผู้ใหญ่ มีใครคนหนึ่งเชื่อในเด็กและทำรายการเพื่อเด็กอย่างตั้งใจ ไม่ใช่เพียงเพื่อความบันเทิงแต่เพื่อมอบ “โอกาส” ให้พวกเขาแสดงศักยภาพที่ผู้ใหญ่อาจไม่ทันมองเห็น

“ซูเปอร์จิ๋ว” เป็นรายการที่เริ่มต้นจากความเชื่อเรียบง่ายว่าเด็กคือผืนผ้าใบที่รอการระบายสี ไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กหลายรุ่น แต่ยังเปิดพื้นที่ใหม่ให้ครอบครัวและครูเห็น “ความสามารถ” ก่อนจะตัดสินว่าเด็กเก่งไม่เก่งจากคะแนนสอบ

แม้ยุคเปลี่ยน รูปแบบรายการเปลี่ยน ช่องทางเปลี่ยน พี่ซุปยังไม่เคยหันหลังให้ความเชื่อเดิม ตรงกันข้าม เขาต่อยอดรายการ SUPER10 และ SUPER100 บนโลกโซเชียลมีเดีย ที่ไม่ใช่เพียงการปรับตัวเพื่ออยู่รอด แต่คือการขยายอิทธิพลของความหวังในรูปแบบใหม่ให้ไปได้ไกลกว่าเดิม

พี่ซุปไม่เคยประกาศตัวเป็นนักปฏิวัติ แต่สิ่งที่เขาทำทุกวันคือการเปลี่ยนแปลง ผ่านรายการที่ทำหน้าที่เหมือนประตูหลังบ้าน เปิดทางให้เด็ก ๆ ได้ “ส่องแสงของตัวเอง” โดยไม่ต้องแต่งเติม ความสำเร็จของพี่ซุปจึงไม่ใช่แค่ยอดวิว หรือจำนวนสปอนเซอร์ หากคือ “ศักดิ์ศรี” ที่ได้มาจากความไม่ยอมลดคุณค่าของงาน แม้ในวันที่วงการบันเทิงเด็กดูเป็นทางแยกที่ไร้ผู้คน “เรายังเชื่อในคำว่าเวที…ไม่ใช่ในความหมายของแสงไฟ แต่ในความหมายของพื้นที่ที่เด็กจะได้ประกาศว่าเขาเป็นใคร”

คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ไม่ได้ตามกระแส แต่มี “จรรยาบรรณเป็นเข็มทิศ”

ในวันที่หลายคนคอนเทนต์เป็น “สินค้าที่ต้องเร่งผลิต” พี่ซุปกลับเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มองเป็น “พันธกิจ” เบื้องหลังทุกตอนของ SUPER10 หรือ SUPER100 คือการคัดเลือกที่ไม่ได้ถามว่า “คนดูจะชอบไหม” แต่อยากรู้ว่า “คนคนนี้มีแสงอะไร” และจะถ่ายทอดมันด้วยความซื่อสัตย์แค่ไหน โดยไม่ต้องแต่งแต้มดราม่า ไม่ต้องเร่งสปีดดนตรีให้ชวนสะเทือนใจ สิ่งที่พี่ซุปสร้าง อาจไม่ใช่แค่รายการ แต่อาจเป็นผู้ใหญ่ที่ดีที่เคยได้แรงบันดาลใจที่ดีตั้งแต่เด็ก

ไม่มีใครรู้ว่าเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เคยขึ้นเวที หรือเคยเสพคอนเทนต์ที่เป็นแรงบันดาลใจดีๆ จะเป็นกำลังในการสรรค์สร้างโลกในอนาคตที่ยิ่งดีได้เพียงใด ศักดิ์ศรีของการเป็นผู้สร้าง ไม่ได้อยู่ที่ยอดวิวหรือเสียงปรบมือ แต่อยู่ที่การสัตย์ซื่อต่อความตั้งใจดีและทำสิ่งที่ดีอยู่เสมอไม่ขาดสาย

เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสเจอพี่ซุป ทั้งเราและลูกดีใจ ยกมือไหว้ ด้วยความชื่นชม เพราะพี่ซุปเป็น คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ที่สง่างามที่สุดคนหนึ่งของประเทศนี้