'โก โฮลเซลล์' เร่งเกมครึ่งปีหลัง ดันโอนแบรนด์ ฟื้นธุรกิจร้านอาหารฝ่าวิกฤติ

"โก โฮลเซลล์" ร่วมปลุกตลาดร้านอาหารให้กลับมาโตอีกครั้ง โชว์ Own Brand ราคาคุ้มค่า, จัดเวิร์กช็อปกับเชฟ, เปิดพื้นที่ขายฟรี ให้แก่ร้านค้าท้องถิ่น "ย้ำผู้ประกอบการไม่เติบโต บริษัทก็ไม่เติบโตเช่นกัน"
เป็นปีที่สมรภูมิค้าปลีกต้องเร่งปรับแผนธุรกิจครั้งใหญ่ ให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจที่คนไทยต่างลดการใช้จ่าย และตลาดนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป รวมถึง “โก โฮลเซลล์” ภายใต้เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ได้เข้ามาบุกเบิกในตลาดค้าปลีกไทยร่วม 2 ปีแล้ว ปักหมุดสาขาแรก โก โฮลเซลล์ ทำศรีนครินทร์ ตั้งแต่ปี 2566 มีขนาดพื้นที่ 7,000 ตร.ม. สินค้ารวมถึง 20,000 รายการ เน้นสินค้ากลุ่มอาหารสด ถึง 40% ของทั้งหมด พร้อมเร่งแผนขยายสาขาใหม่มาในทุกปี โดยในปี 2568 ได้สะท้อนภาพตลาดที่ไม่เหมือนเดิมเช่นกัน
ริคาร์โด้ เบารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดฟู้ดเซอร์วิสของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มการแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่ตลาดรวมมีทิศทางที่ดีขึ้นจากสัญญาณบวก ทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและการส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงทิศทางการค้าระหว่างประเทศที่เริ่มผ่อนคลาย โดยเฉพาะความสัมพันธ์เชิงบวกมากขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ
“ตลาดฟู้ดเซอร์วิสไทยเผชิญแรงกดดันหลายด้าน จากท่องเที่ยวในโลกยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลง ซึ่งมีผลข้อมูลวิจัยสะท้อนว่าคนไทยออกไปทานอาหารนอกบ้านน้อยลง จากการระมัดระวังการใช้จ่ายท่ามกลางความไม่แน่นอนเศรษฐกิจ เจ้าของร้านอาหารจำนวนมากต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด ทั้งลดต้นทุน ปรับเมนูให้กระชับ ตัดเมนูที่มีต้นทุนสูงออก หาทางเลือกแหล่งวัตถุดิบที่คุ้มค่ากว่าเดิม ส่วนครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น”
ทางด้านตลาดค้าส่งของไทย ต่างเผชิญการแข่งขันรุนแรง และทิศทางของตลาดนักท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลง ยังไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากไม่ได้เน้นตลาดนักท่องเที่ยว โดยบริษัทมุ่งสร้างความแตกต่างคือ การให้บริการที่ดีแก่ลูกค้าผู้ประกอบการ การคัดสรรสินค้าให้เหมาะสมกับดีมานด์ตลาด การทำระบบซัพพลายเชนที่ลูกค้ามีความเชื่อมั่น รวมถึงนวัตกรรมบริการใหม่ที่สร้างขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ
อีกทั้งบริษัททีมงานที่อยู่ในตลาดฟู้ดเซอร์วิสมายาวนาน จึงมีความเข้าใจในการบริหารจัดการภาวะวิกฤติ ทำให้สามารถปรับตัวเชิงรุกเพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้รับมือกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง ด้วยแนวทางต่างๆ เช่น การร่วมมือกับซัพพลายเออร์รายใหญ่เพื่อจัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่องให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มลูกค้า
ขณะเดียวกันได้มีการจัดให้มีเวิร์กช็อปร่วมกับ “สมาคมสมาพันธ์เชฟแห่งประเทศไทย” และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร เพื่อช่วยลูกค้าควบคุมต้นทุน พัฒนาเมนู และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงยังมี “เบเวอเรฟ โซลูชั่น” มุ่งให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวแก่คาเฟ่และร้านอาหาร รวมถึงการให้คำแนะนำเมนูเครื่องดื่มใหม่ อีกทั้งได้เปิดพื้นที่ในบริเวณสาขาให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ทดลองจำหน่ายสินค้ากับผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่คิดค่าเช่าอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการรุกธุรกิจของโก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ในครึ่งปีหลัง 2568 ยังเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขา ในทำเลยุทธศาสตร์ย่านการค้าและเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้ภาพรวมในสิ้นปีนี้จะมีสาขาเปิดให้บริการรวมทั้งหมด 14 สาขาทั่วประเทศ
ทางด้านกลยุทธ์มุ่งให้ความสำคัญกับการเจาะลึกจากความเข้าใจลูกค้า ผ่านข้อมูลเชิงลึกและการลงพื้นที่ เพื่อปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมการซื้อที่เปลี่ยนแปลง การขยายกลุ่มสินค้าโอนแบรนด์ (Own Brand) ที่มีศักยภาพสูง เช่น ผักผลไม้สด สินค้าแห้ง และวัตถุดิบพร้อมใช้สำหรับครัวมืออาชีพ การนำเสนอโซลูชั่นทางธุรกิจครบวงจรตามประเภทกิจการ การยกระดับบริการด้านโลจิสติกส์และการจัดส่งสินค้าให้รวดเร็ว
สำหรับสินค้ากลุ่มใหม่จะมุ่งพัฒนาร่วมกับพันธมิตร เน้นสินค้าที่มีโอกาสและช่องว่างในตลาด พร้อมการเปิดตัวแคมเปญการตลาดร่วมกับซัพพลายเออร์แบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มยอดขายให้สินค้า
ทางด้านแนวคิดหลักในการขยายธุรกิจได้มุ่งยึดผู้บริโภคให้เป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) มุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้าและความต้องการของลูกค้าเป็นสูงสุด สอดรับกับแนวคิดของบริษัท “Your Success…Our Goal” พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจอาหารของไทยสร้างการเติบโตไปด้วยกันแบบสาขาต่อสาขา และโซลูชั่นต่อโซลูชั่น
ทางด้าน “ซันนี่ ซิดิค” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารสินค้า บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด กล่าวเสริมว่า โก โฮลเซลล์ ได้มุ่งขยายสินค้าภายใต้แบรนด์ของ โก โฮลเซลล์ หรือเรียกว่า โอนแบรนด์ เอ-ชอยส์ (Own brand A-Choice) โดยมุ่งการนำเสนอสินค้าอาหารกลุ่มพร้อมปรุง และสินค้าพร้อมทาน ภายใต้การเน้นสินค้าที่มีคุณภาพ และกำหนดราคาคุ้มค่า เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร เชฟมืออาชีพ ได้รับความสะดวกมากที่สุด ร่วมผลักดันผู้ประกอบการเติบโตไปพร้อมกัน เพราะหากผู้ประกอบการอยู่ไม่ได้ จะมีผลให้บริษัทอยู่ไม่ได้เช่นกัน