บะหมี่พรีเมียมโตพุ่ง แบรนด์ ‘ไทย-เกาหลี’ เปิดศึกแข่งเดือด!
สงครามราคากระจายไปทุกตลาด บะหมี่พรีเมียมแบรนด์ไทย-นำเข้า เกาหลี เดินหน้าระเบิดศึกชิงลูกค้า ซัมยังลดราคา ไวไวว้าว สู้ด้วย 11 บาท มาม่าโอเคเสิร์ฟรสชาติใหม่เสริมทัพ
ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท หมวดใหญ่คือ “บะหมี่ซอง 7 บาท” ปี 2568 คาดการณ์ “ไม่โต” สวนทางกับ “บะหมี่พรีเมียม” หรือเกินกว่า ราคา 7 บาท และซองจัมโบ้ 8 บาทขึ้นไป กลายเป็นเมนูยกระดับความอร่อยในตลาดบน
ปี 2568 ผู้ประกอบการนิยาม “ปีแห่งปรากฏการณ์บะหมี่พรีเมียม” ทั้งเติบโต ผู้เล่นตบเท้าเข้ามาชิงเค้ก อีกด้านยัง “ฝุ่นตลบ” เพราะช่องว่างยังมีให้หน้าใหม่เข้ามาชิมลาง
สำหรับการระเบิดศึกบะหมี่พรีเมียมเกิดขึ้นในประเทศไทย หลายปีแล้ว โดยเฉพาะแบรนด์ “ซัมยัง” บะหมี่เกาหลีที่เสิร์ฟ “รสชาติเผ็ด” ปลุกการบริโภคครั้งใหญ่ กระแสบนโลกออนไลน์ ทำให้ผู้คนทดลองกิน และกล้าจ่ายให้กับบะหมี่แพงราคา 40-50 บาท หรือสูงกว่าบะหมี่ซองหลักของไทยหลายเท่าตัว แต่เมื่อสินค้าได้รับความนิยม สามารถชิงขุมทรัพย์ได้สัดส่วน 10% ของตลาดรวมบะหมี่ แบรนด์ไทยต้องออกสินค้ามาสู้
นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ ไทยเพรซิเดนท์ ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ฉายภาพว่า บริษัทเริ่มรุกเซกเมนต์บะหมี่พรีเมียมราวปี 2547 ภายใต้แบรนด์ “มาม่า ออเรียนทัล คิทเช่น” จากนั้นรีแบรนด์เป็น “มาม่า โอเค” ในปี 2561 และเป็นช่วงขายดี รวมถึงมีพรีเซนเตอร์ชื่อดัง เช่น ไบรท์-วิน จนปัจจุบันมี “อิ้งค์ วรันธร” ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ให้ปัง
“แบรนด์ใหม่จะเข้ามาทำตลาดบะหมี่ยาก ด้วยต้นทุน จะขายราคา 7 บาท หรือซองจัมโบ้ 8 บาท จนมีบะหมี่แบรนด์เกาหลีเข้ามาทำตลาด ชิงส่วนแบ่งตลาดรวมได้ค่อนข้างมาก ส่วนมาม่า ลุยตลาดพรีเมียม มีการอัปเกรดสินค้า เพิ่มแวลูให้กับเส้น เครื่องปรุงจะไม่เหมือนแบบซองหลัก”
ปีแห่งปรากฏการณ์บะหมี่พรีเมียม
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดบะหมี่พรีเมียมปี 2568 ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนโดยเฉพาะจำนวนแบรนด์ ผู้เล่นที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงสินค้ากลุ่มเส้นหมี่ ที่มีสินค้ากึ่งสำเร็จรูปออกมาทำตลาดกันอย่างคึกคัก เช่น แบรนด์ “บะหมี่มาเฟีย” ของ สัณณ์ชัย เองตระกูล ก๋วยเตี๋ยวท่าสยาม จั๊บจั๊บ มังกรคู่ ฯลฯ
สำรวจร้านสะดวกซื้อ จะแบ่งชั้นวางสินค้าเป็น “บะหมี่นำเข้า” ประกบบะหมี่แบรนด์ไทย ส่วนแบรนด์มีหลากหลาย เช่น โอโตกิชีสราเม็งราคา 48 บาท นงชิมบะหมี่ผัดแห้งซึ่งคอลแลบส์กับเจ๊ไฝ(นงชิมสเทอร์ไฟร์ต้มยำ) 65 บาท อินโดหมี่แห้งต้นตำรับ 13 บาท บิบิโก 39 บาท ซัมยังคัพคาโบนารา 48 บาท ลิตเติ้ลกุ๊ก รสเนื้อเผ็ด 49 บาท ซัมยังสูตรเผ็ด 52 บาท แดบัคเส้นดำไก่เผ็ด 45 บาท เป็นต้น
บะหมี่พรีเมียมแข่งเดือด! ซัมยังอัดโปร 1 แถม 1 เป็นเวลา 7 วัน
การแข่งขันเดือด! ทำให้ ล่าสุด บิ๊กแบรนด์ “ซัมยัง” ซองฮอตชิคเก้นราเมงสูตรเผ็ด 140 กรัม จัดโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 หรือราคาเพียง 52 บาท จาก 104 บาท เพียง 7 วัน ที่ร้านสะดวกซื้อ ส่วนมาม่า โอเค ยังเดินหน้าออก 2 รสชาติใหม่เสริมทัพ ได้แก่ “ทงคตสึ” และ “กิมจิซีฟูด” หวังยกระดับมื้ออาหารให้อร่อยเหมือนนั่งอยู่ในร้านดัง
“ตลาดบะหมี่พรีเมียมคึกคักสุด ตั้งแต่เห็นการทำตลาดมา ต่อให้ราคา 40 บาท เหมือนรับประทานก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม ซึ่งคนรับประทานบะหมี่ยุคนี้ไม่รับประทานของถูก แต่รับประทานเหมือนมื้ออาหารดีๆ หนึ่งมื้อ ละเลียดในการทำหั่นผัก ใส่วัตถุดิบเพิ่ม ละเมียดในการรับประทานมากขึ้น”
ช่องว่างตลาดปลุกความคึกคักยิ่งขึ้น
นายพันธ์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มตลาดบะหมี่พรีเมียมจะคึกคักมากขึ้น เนื่องจากตลาดยังมีช่องว่างให้เข้ามาเล่น แต่ขึ้นกับจุดยืน จุดขายของแบรนด์ แต่มีโอกาสสร้างกำไร อีกทั้งช่วงราคาขายของแต่ละแบรนด์กว้างมาก พ้นจากซองหลัก 7 หรือ 8 บาท ก็ถูกยกเป็นพรีเมียม ทำให้ปัจจุบันมีสินค้าราคาหลากหลายทั้ง 15 บาท 17 บาท 30 บาท กว่า 50 บาท ฯ เมื่อเทียบกับสินค้าแบบซองหลัก ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมโดยกรมการค้าภายใน(คน.)
“ตลาดบะหมี่พรีเมียมเป็นโอกาสของนิวคัมเมอร์หรือผู้เล่นใหม่ อาจจะได้ส่วนแบ่งตลาดไม่มาก แต่อยู่ได้ ผู้บริโภคมีทางเลือกและได้ประโยชน์จริงๆ”
สู้ด้วย “Waiwai WOW” ราคา 11 บาท
ด้านเบอร์ 2 ตลาดบะหมี่ของไทย “ไวไว” ปั้นแบรนด์ใหม่ “ไวไว ว้าว” (Waiwai WOW) ในราคา 11 บาท สู้ศึกเซกเมนต์พรีเมียม โดย ยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด กล่าวว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวบะหมี่กลุ่มพรีเมียม เนื่องจากเป็นเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงในอัตรา 2 หลัก เทียบกับบะหมี่ซอง 7 บาท เติบโตเพียงอัตรา 1 หลักเท่านั้น
สำหรับการตั้งราคาของ “ไวไว ว้าว” ซองละ 11 บาท เป็นราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย เพราะราคาเพิ่มขึ้นเพียง 4 บาท จากบะหมี่หลักแบบซองละที่ขาย 7 บาท ราคาดังกล่าวยังต่ำกว่าแบรนด์คู่แข่งในตลาดที่จำหน่ายซองละ 15 บาทด้วย
“ตั้งแต่มีบะหมี่เกาหลี เข้ามาทำตลาดกลุ่มพรีเมียม ด้วยราคาซองละ 55 บาท สะท้อนผู้บริโภคให้การยอมรับทั้งเรื่องของรสชาติ และราคา แต่ตลาดยังมีสินค้าจากแบรนด์อื่นในเซกเมนต์พรีเมียมขายซองละ 15 บาท บริษัทจึงมองเห็นโอกาส และจังหวะที่ดีจะเปิดตัวสินค้าใหม่ไวไว ว้าวตอบโจทย์ผู้บริโภค”
“บะหมี่มาเฟีย”โตกระฉูด “ซัมยัง” สะเทือน!
ต้นปี 2568 “สัณณ์ชัย เองตระกูล” เปิดตัว “บะหมี่มาเฟีย” ลงสนามพรีเมียมขายในราคา 39 บาท สร้างการเติบโตพุ่งกระฉูด โดยยอดผลิตตอนต้นปีอยู่ที่ 4,000 กล่องต่อเดือน หรือราว 9.6 หมื่นซอง เดือนมิถุนายนลุ้นทะลุ “ล้านซอง” หรือสร้างยอดขายระดับ 40-50 ล้านบาท จากเดือนพฤษภาคม การผลิตอยู่ที่ 2.5 หมื่นกล่อง หรือราว 6 แสนซอง
แหล่งข่าวกล่าวว่า บะหมี่มาเฟียขายดีมาก กระแสตอบรับดีทั้งการขายผ่านออนไลน์ และเข้าร้านสะดวกซื้อ ถือเป็นปรากฏการณ์ และคาดว่าจะแบ่งส่วนแบ่งตลาดบะหมี่เกาหลีได้ โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ซัมยังคาดว่าจะกระเทือน
“บะหมี่มาเฟียขายดีเกินคาด เพราะห้างค้าปลีกรายงานยอดขายโต ซึ่งซัมยังสะเทือนแน่”
อยากขายแพง ตั้งราคาตามใจไม่ได้
ผู้ประกอบการวงการบะหมี่เห็นพ้องว่าตลาดหลักแบบซอง 7 บาทปี 2568 ไม่เติบโต และทำกำไรยาก เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุมด้วย ขณะที่บะหมี่พรีเมียมแม้มีโอกาสสร้างกำไร แต่การตั้งราคาต้องให้กรมการค้าภายในพิจารณา และไฟเขียว
แหล่งข่าวบอกว่า บะหมี่มาเฟียตั้งราคาขาย 39 บาทได้ เนื่องจากเครื่องปรุงรูปแบบเหลวหรือซอสยังไม่มีการทำโครงสร้างราคา และผู้ประกอบการชี้แจงรายละเอียดต้นทุนจึงจำหน่ายในราคาดังกล่าว ก่อนหน้านี้แบรนด์ใหญ่ออกบะหมี่พรีเมียมใหม่จะขายในราคา 30 บาท แต่กรมฯให้ขายได้แค่ 20 บาทเท่านั้น เนื่องจากมีโครงสร้างต้นทุนเครื่องปรุงแบบผง น้ำหนักกี่กรัม ระบุไว้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
