‘ออนิกซ์’ ทุ่ม 5 พันล้านลุยสร้างโรงแรมใหม่ กางโรดแมปขยายพอร์ตสู่ 70 แห่งในปี 71

‘ออนิกซ์’ ทุ่ม 5 พันล้านลุยสร้างโรงแรมใหม่  กางโรดแมปขยายพอร์ตสู่ 70 แห่งในปี 71

“ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” เชนโรงแรมสัญชาติไทยประสบการณ์กว่า 50 ปี หนึ่งในบริษัทหลักภายใต้กลุ่มบริษัทอิตัลไทย ประกาศแผนยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตปี 2568 เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอทั้งธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์มุ่งสู่การเป็นผู้นำในตลาดระดับภูมิภาคตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็น“The best medium-sized hospitalitymanagement companyin Southeast Asia”

ยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีแบรนด์ภายใต้การดูแล ได้แก่ อมารี (Amari) โอโซ่ (OZO) ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) กล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุนรวม “5,000 ล้านบาท” สำหรับพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์แห่งใหม่ภายใน 3 ปีนับจากนี้

โดย 3 โครงการที่มีแผนพัฒนาชัดเจนแล้ว ได้แก่ 1.โรงแรมโอโซ่ กรุงเทพฯ ขนาด 200-230 ห้องพัก ใช้งบลงทุนราว 700-800 ล้านบาท สร้างอีกอาคารคู่กับโรงแรมอมารี กรุงเทพฯ บนที่ดินผืนเดียวในย่านประตูน้ำ 2.ชามา พัทยา เป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์บนที่ดินติดกับทิฟฟานี่ พัทยา ใช้งบลงทุน 700 ล้านบาท

และ 3.โรงแรมอีคิว ภูเก็ต ใช้งบลงทุนรวม 2,500 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนกันระหว่างกลุ่มออนิกซ์และอีควอทอเรียล กรุ๊ป (Equatorial Group) กลุ่มทุนมาเลเซีย เพื่อสร้างโรงแรมใหม่ นำแบรนด์ระดับลักชัวรี “อีคิว” (EQ) จากมาเลเซียมาเปิดในไทยเป็นครั้งแรก โดยกลุ่มออนิกซ์ถือหุ้น 51% คาดแล้วเสร็จในปี 2571 นอกจากนี้ยังเตรียมปั้นอีก 2-3 โครงการในภูเก็ตและพัทยาอีกด้วย

“ธุรกิจโรงแรม” นับเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ขับเคลื่อน “จีดีพี” ของประเทศไทยยุคหลังโควิด สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวคือขยันหาลูกค้าและขยายขอบเขตตลาดให้กว้างขึ้น ไม่ใช่ว่าเคยทำตลาดใดแล้วจะล็อกอินยึดตลาดเดิมอย่างเดียว เพราะจากสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยลดลงในปีนี้ แม้ส่วนตัวมองว่าจะมีมากกว่า 5 ล้านคน แต่ตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลทั้งสหรัฐ ยุโรป และออสเตรเลียถือว่าสำคัญมาก ต้องทำตลาดต่อเนื่อง

“บริษัทเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอ ทั้งลงทุนเองและรับบริหารจัดการโรงแรมที่พักมากกว่า 50 แห่งภายในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 70 แห่งภายในปี 2571 จากปัจจุบันมีโครงการที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 42 แห่ง คิดเป็นห้องพักรวมกว่า 7,778 ห้องพัก ในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ฮ่องกง บังกลาเทศ ศรีลังกา และ ลาว”

สำหรับผลประกอบการปี 2567 ถือเป็นปีที่ดีของกลุ่มออนิกซ์ จากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมในกลุ่มออนิกซ์เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะแบรนด์ “อมารี” และ “โอโซ่” มีอัตราการเข้าพักที่โดดเด่น โดยมีรายได้กว่า 8,700 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานรวม (GOP) กว่า 3,400 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้เพิ่มเป็น 9,000 ล้านบาท

‘ออนิกซ์’ ทุ่ม 5 พันล้านลุยสร้างโรงแรมใหม่  กางโรดแมปขยายพอร์ตสู่ 70 แห่งในปี 71

ยุทธชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้เดินหน้าจัดตั้ง “กองทรัสต์” เพื่อลงทุนในโรงแรมที่มีศักยภาพของออนิกซ์ ล่าสุดได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ออนิกซ์ (ONYX Leasehold Real Estate Investment Trust) หรือ “ONYXRT” แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อสร้างพอร์ตโรงแรมคุณภาพสูงที่มีโอกาสในการเติบโตระยะยาว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นทรัสตี และมีบริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์

สำหรับทรัพย์สินที่ ONYXRT จะเข้าลงทุนครั้งแรก ได้แก่ 1.อมารี กรุงเทพ ตั้งอยู่ในย่านประตูน้ำอีกทั้งการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคตจะเพิ่มศักยภาพของโครงการมากยิ่งขึ้น โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา 82% 2.อมารี พัทยา 3.โอโซ่ พัทยา ทั้งสองโครงการตั้งอยู่ใจกลางพัทยาเหนือติดริมโค้งอ่าวทะเลที่มีเพียงถนนเลียบชายหาดคั่นใกล้ร้านอาหารและศูนย์การค้า จึงได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 80% และ 89% ตามลำดับ และ 4.โอโซ่ ภูเก็ต ใกล้หาดกะตะ  และหาดกะรน  ห่างจากสนามบินภูเก็ตเพียง 1 ชั่วโมง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 86% ในปีที่ผ่านมา

‘ออนิกซ์’ ทุ่ม 5 พันล้านลุยสร้างโรงแรมใหม่  กางโรดแมปขยายพอร์ตสู่ 70 แห่งในปี 71

“กลุ่มออนิกซ์ทำกองรีทเพราะอยากสร้างโรงแรมต่อและนำเงินไปคืนเจ้าหนี้บางส่วน โดยโรงแรมที่เราจะนำมาใส่ในกองรีทนี้ เริ่มต้น 4 แห่ง กระจายใน 3 เมืองท่องเที่ยวหลักที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด และมีอัปไซด์ (Upside) ของมูลค่าตลาดจากแผนการขยายสนามบินอู่ตะเภาและภูเก็ตในอนาคต คาดมูลค่ากองรีทนี้อยู่ที่ 6,500 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายเท่าตัวเป็น 15,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า ด้วยการทยอยใส่ทรัพย์สินโรงแรมที่พักเพิ่มเข้าไป คาดนำกองรีทเข้าตลาดฯ ได้ภายในเดือน ต.ค. 2568 มองเป็นจังหวะที่ดีเพราะอยู่ในภาวะดอกเบี้ยขาลง คาดสร้างอัตราผลตอบแทน (ยีลด์) ไม่ต่ำกว่า 9%”

‘ออนิกซ์’ ทุ่ม 5 พันล้านลุยสร้างโรงแรมใหม่  กางโรดแมปขยายพอร์ตสู่ 70 แห่งในปี 71

‘ออนิกซ์’ ทุ่ม 5 พันล้านลุยสร้างโรงแรมใหม่  กางโรดแมปขยายพอร์ตสู่ 70 แห่งในปี 71