บทเรียน ‘ธรรมาภิบาล’ ธุรกิจ กรณีศึกษา ‘เนสท์เล่ VS มหากิจศิริ’

บทเรียน ‘ธรรมาภิบาล’ ธุรกิจ  กรณีศึกษา ‘เนสท์เล่ VS มหากิจศิริ’

"ธรรมาภิบาล" หัวใจสำคัญในการบริหารธุรกิจ ประเทศชาติ หลักนิติธรรม ความโปร่งใส ทุกคนอยากเห็น ส่องข้อพิพาท "เนสท์เล่ VS มหากิจศิริ" หนึ่งบทเรียนธุรกิจต้องตั้งบนหลัก ESG

ข้อพิพาททางธุรกิจที่ยังต้องจับตาสุดในนาทีนี้ ยกให้อดีตพันธมิตรที่แปรเปลี่ยนเป็นคู่ขัดแย้งระหว่าง “เนสท์เล่” และ “ตระกูลมหากิจศิริ” หลังจากฝ่ายเจ้าของแบรนด์ต้องการ “ยุติสัญญา” ในการให้บริษัทร่วมทุนภายใต้ บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด(QCP) เลิกผลิต “เนสกาแฟ” เพื่อจำหน่ายและทำตลาดในประเทศไทย

ผลที่ตามมาคือ “เฉลิมชัย มหากิจศิริ” เดินหน้าฟ้อง “เนสท์เล่” จนนำไปสู่ศาลแพ่งมีนบุรีมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามไม่ให้เนสท์เล่ ผลิต จ้างผลิต นำเข้า และจำหน่ายแบรนด์ “เนสกาแฟ” มาทำตลาดในประเทศไทย

จากนั้นกระบวนการยุติธรรมต่างฝ่ายต่างเดินหน้า เมื่อ “เฉลิมชัย” ฟ้องเนสท์เล่ไม่ให้ผลิต จ้างผลิต นำเข้า จำหน่ายเนสกาแฟในประเทศไทย ฝั่ง “เนสท์เล่” ปฏิบัติการ “ตอบโต้” ด้วยการร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศกลางในประเด็นเครื่องหมายการค้า จนที่สุดเนสท์เล่กลับมาดำเนินธุรกิจเนสกาแฟได้ตามปกติ

ไล่หลังไม่นาน “เนสท์เล่ เอส. เอ. สวิตเซอร์แลนด์” เจ้าของเครื่องหมายการค้า “เนสกาแฟ” และ “เนสท์เล่ ไทย” เดินหน้าฟ้องกลับ “ประยุทธ-เฉลิมชัย มหากิจศิริ” พร้อมเรียกค่าเสียหาย 577 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงที่บริษัทไม่สามารถส่งสินค้า ขายให้กับลูกค้าได้

 สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตลาดกาแฟโดยรวมมูลค่า 6 หมื่นล้านบาท “ขมปี๋” โดยเฉพาะเซ็กเมนต์ที่เนสกาแฟอยู่คือ กาแฟในบ้านที่มีโปรดักท์เสิร์ฟลูกค้าคือ กาแฟปรุงสำเร็จ กาแฟทรีอินวัน(3in1) และกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม(RTD: Ready To Drink)

ตลาดกาแฟที่หอมกรุ่น ทำให้ตื่นตัวยามเช้า และเป็นตลาดขนาดใหญ่ กลายเป็นบทเรียนขมปี๋สำหรับผู้ประกอบการ ไม่ได้มีแค่มิติการทำธุรกิจ แต่ต้องมี “ธรรมาภิบาล” ด้วย

นับตั้งแต่มีข้อพิพาทเกิดขึ้น มีข่าวออกไป ความเห็นของคนในสังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับ “ธรรมาภิบาล” จากทั้ง 2 ฝ่าย แม้กระทั่งสื่อเอง ที่ได้สอบถามตัวแทนจากเนสท์เล่ ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน แต่สามารถอ่านนัยยะจากความเห็นได้

การทำธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ตกลงเป็น “พันธมิตร” มักจะพูดถึง “เคมีเดียวกัน” ในการทำงาน ทั้งความคิดเห็น การมองตลาด โอกาสเติบโต กลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ เป้าหมายต่างๆ

ความเห็นต่างได้ แต่เป้าหมายต้องมองร่วมกัน ขณะที่กรณีของ “เนสท์เล่ VS มหากิจศิริ” ย้อนไทม์ไลน์ของอดีต 2 พันธมิตรยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งการต่อสัญญาผลิตสินค้าจะมีทุก 12 ปี แต่ล่าสุดที่ “มหากิจศิริ” ไม่ได้ไปต่อ มีการเจาจาล่วงหน้า 2 ปี ก่อนแยกทาง ยุติให้ QCP ผลิตเนสกาแฟในประเทศไทย ซึ่งกระบวนการยุติธรรมที่ระบุในสัญญาต้อง “ร้องต้องศาลอนุญาโตตุลาการสากล” เป็นขั้นแรก

เมื่อตกลงกันไม่ได้ ผลกระทบธุรกิจเกิดกับทั้ง 2 ฝ่าย เพราะ “เนสท์เล่” สะดุดขาตัวเอง ไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายได้ 8 วัน แต่ “เดิมพันมหากิจศิริ” ใหญ่กว่า เพราะรายได้หลักหมื่นล้านบาท และ “กำไรหลายพันล้านบาท” จะหายไปจากอาณาจักรในพริบตา หลังมั่งคั่งเป็น “เจ้าพ่อเนสกาแฟ” ได้ฉายาไปครองปาดหน้าเจ้าของแบรนด์ในฐานะพันธมิตรการผลิต

ประเด็นใหญ่ “ธรรมาภิบาล” ที่สังคมถามหา เมื่อ “ประยุทธ มหากิจศิริ” มหาเศรษฐีชั้นนำของเมืองไทยและ “ลูกสาว”(ผู้เคลื่อนธุรกิจอาหารบริการด่วนแบรนด์ดัง) ในคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินสนามกอล์ฟเมาน์เท่น ครีกฯ ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 จังหวัดสุรินทร์ พิพากษาจำคุก 2 พ่อลูกหลักสิบปี

กรุงเทพธุรกิจ เคยสอบถามตัวแทนจากเนสท์เล่ถึง “ธรรมาภิบาล” มีผลอย่างยิ่งยวดในการตัดสินใจยุติสัญญาในการทำธุรกิจร่วมกับ “ตระกูลมหากิจศิริ” หรือไม่ ได้รับคำอธิบายโดยสังเขปเพียง

“เป็นปกติบริษัทใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เรื่องธรรมาภิบาลเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นหลักเกณฑ์หนึ่งที่ยึดถือในการทำธุรกิจ และการทำงานร่วมกัน”

“ธรรมาภิบาล” คำสั้นๆแต่มีความหมายมหาศาล และหลักการบริหารที่องค์กร ภาคธุรกิจพึงมี และไม่เพียงแค่หน่วยงานเอกชน แต่ยังรวมถึงประเทศชาติด้วย เพราะธรรมาภิบาล คือการปฏิบัติดี ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย การยึดหลักนิติธรรม ความโปร่งใสในการทำมาค้าขาย

องค์กรธุรกิจที่มีธรรมาภิบาล ผู้บริโภคย่อมรู้สึกเชื่อมั่นพึ่งพาได้ ง่ายๆ เพียงแค่บริษัทผลิตสินค้าและบริการที่มี “คุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย” ต่อการบริโภค ใช้สอย ย่อมส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของคนให้ดีขึ้น กลับกันหากผลิตสินค้าที่ด้อยคุณภาพ ไร้มาตรฐาน ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินได้

ในวันที่โลกธุรกิจพูดถึงหลัก “ESG” เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากการตระหนักในเรื่อง สิ่งแวดล้อม การลดผลกระทบต่อโลกหรือ Environmental คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม(Social) สุดท้ายการมีธรรมาภิบาล(Governance) จะเป็นเกราะป้องกันธุรกิจ และยังเกิดแรงสนับสนุนจากผู้บริโภคด้วย