เซ็นทรัลพัฒนา โหมอีเวนต์ใหญ่รับ Pride Month ดันศก.สีรุ้งโต

ประเทศไทยได้สร้างประวัติศาสตร์มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.2568 เป็นลำดับที่สามในภูมิภาคเอเชีย แสดงถึงบทบาทของประเทศไทยในการเปิดกว้าง และยอมรับทุกความหลากหลาย ทำให้ภาคเอกชนไทย โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก 

นำโดย “เซ็นทรัลพัฒนา” ได้ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีรุ้ง หรือ "เรนโบว์ อีโคโนมี” ครั้งใหญ่ในเดือน มิ.ย.นี้ ที่เป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจ (Pride Month) ในโลก เพื่อสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวสู่ศูนย์กลางของเรนโบว์อีโคโนมี และการเป็นเจ้าภาพงาน เวิลด์ไพรด์ในปี 2030 ให้สำเร็จ 

เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมจัดงาน "Thailand's Pride Celebration 2025" ใน 39 ศูนย์การค้า

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนา ให้ความสำคัญในเรื่อง Pride month เป็นมากกว่าความเท่าเทียม แต่ผสมผสานในเรื่องเสรีภาพ (Freedom), สิทธิมนุษยชน (Human Right) และความเท่าเทียมที่ไม่มีขีดจำกัดในเรื่องเพศอีกต่อไป (Equality) ถือเป็น 3 สิ่งพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนพึงมี

ทั้งนี้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศพร้อมเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงตัวตนอย่างอิสระ ทำให้ได้จัดงานเทศกาลแห่งไพรด์ (Pride month) ร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทย สำหรับในปี 2568 จึงได้จัดงาน "Thailand's Pride Celebration 2025" กับ “Pride For All” ถือเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว โดยขยายการจัดใน 39 สาขาทั่วประเทศในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีการจัดงาน 24 สาขา 

สำหรับการจัดกิจกรรมได้อยู่ในรูปแบบ Inclusive Pride Activities แบบ Gen-tailored ที่ออกแบบตามแต่ละเจน ทั้ง

1. Freedom to be Joyful:  การจัด24 จุดถ่ายรูปสีสันแห่งเสรีภาพ, 9 จุดกิจกรรม ART & PLAY Rainbow เปลี่ยนสีขาวเป็นสีรุ้ง ปลุกพลังสร้างสรรค์และเปิดกว้างทางความคิด 2. Freedom to Sparkle: โชว์สุดตระการตาที่เซ็นทรัล 22 สาขา, Meet & Greet กับศิลปิน Boy Love สุดฮอต ที่เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, รามอินทรา และเวสต์วิลล์ และงานวิ่งฉลองความเท่าเทียม Pride Run เซ็นทรัล สุราษฎร์ 3. Freedom to Heart & Heal: ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมอง กับ 5 เวทีเสวนา Pride Talk และ แคมเปญ "Beyond the Rainbow’ ชวนแชร์มุมมองใหม่ ถึงอนาคตของโลกที่ Beyond Gender อย่างแท้จริง ผ่าน Sharing บอร์ด และ 4.Freedom to Feel & Have Fun: Pride Market และ Mini Concerts 10 สาขา

รวมถึงมีการจัด Pride Parde 19 สาขา ในทุกภูมิภาค และการจัดพื้นที่แห่งความเท่าเทียม จดทะเบียนสมรสที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 5 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล เชียงใหม่, จันทบุรี, อุดรธานี, อุบลราชธานี และอยุธยา

สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แลนด์มาร์กใจกลางเมือง ได้ร่วมจัดงานครั้งใหญ่เช่นกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.นี้ กับขบวนพาเหรดเปิดพื้นที่แห่งเสรีภาพจาก แดรก ควีน (Drag Queen) นำโดย House of Heals และลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม ผู้นำวงการ LGBTQIA+ เมืองไทย และโชว์สุดพิเศษจาก “ฟรีน–เบ็คกี้” ส่วนวันที่ 1 มิ.ย. ได้จัดขบวนพาเหรด “Bangkok Pride Parade 2025” คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานในจุดฟินาเล่จำนวนกว่า 3 แสนคน อีกทั้งมีกิจกรรมเอาใจคนโสดกับ “ตลาดโสด 3 #มาหาเสน่ห์ 2568” ระหว่างวันที่ 30 พ.ค. – 1 มิ.ย. นี้ จาก บริษัท สไปร์ซซี่ ดิสก์ จำกัด

อย่างไรก็ตาม จากการจัดงานในศูนย์การค้าเซ็นทรัลรวม 39 แห่งประเทศ คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานทั่วประเทศรวมกว่า 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากการจัดงานในปีก่อน ที่มีผู้เข้าร่วม 1 ล้านคน ร่วมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่อันดับหนึ่งใน ไพรด์ แลนด์มาร์กในระดับโลก รวมถึงขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าภาพการจัดงาน World Pride ในปี 2030 

ส่องเศรษฐกิจ Rainbow Economy ในโลก ท่องเที่ยวโต 8% 

อย่างไรก็ตาม เมื่อประเมิน เศรษฐกิจสายรุ้ง หรือ Rainbow Economy มีการขยายตัวที่รวดเร็วอย่างต่อเนื่อง จากทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บันเทิง และไลฟ์สไตล์ จากแรงหนุนของกลุ่ม LGBTQIAN+ ทั่วโลก ที่มีจำนวนกว่า 400-800 ล้านคน คิดเป็น 5-10% ของประชากรโลก

ทั้งนี้เมื่อประเมินในไทยมีกลุ่ม LGBTQIAN+ จำนวนกว่า 6 ล้านคน เป็นแรงหนุนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย สามารถสร้างเงินสะพัดกว่า 1.5 แสนล้านบาทต่อปี และช่วยเพิ่มจีดีพีของประเทศ ได้ถึง 0.3% อีกทั้งจากการที่ประเทศไทยได้ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมยังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและการลงทุน ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มเศรษฐกิจสีรุ้ง หรือ Rainbow Tourism จะสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สำหรับมูลค่าตลาดท่องเที่ยวทั่วโลกจากกลุ่มนี้ ปี 2025 อยู่ที่ประมาณ 357 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มเติบโตสู่ 604.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2032

ขณะเดียวกัน Soft Power อย่างซีรีส์ Girl Love ต่างได้รับความนิยมระดับโลก มีผู้ชมหลายร้อยล้านวิว สามารถสร้างเม็ดเงินและอิทธิพลทางวัฒนธรรมมหาศาล โดยหากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง คาดจะสร้างรายได้ถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี สะท้อนการเติบโตของ Rainbow Entertainment ที่มีความแข็งแกร่ง

อีกทั้งเมื่อประเมินในโลก ต่างมีการเปิดเผยและยอมรับในเรื่อง LGBTQIAN+ สูงมากขึ้น โดยในประเทศสหรัฐกลุ่ม Gen Z ระบุตัวเองเป็น LGBTQIAN+ สูงถึง 23% ซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกเจเนอเรชัน ส่วนกลุ่ม Millennials มีสัดส่วน 14% สำหรับกลุ่ม Gen X และ Baby Boomers อยู่ที่ 5% และ 3% ตามลำดับ

ทางด้านข้อมูลจากสหภาพยุโรป ปี 2023 แสดงถึงการเปิดกว้างในระดับนโยบาย โดยอัตราการสนับสนุนการสมรสเท่าเทียมอยู่ในระดับสูง เช่น สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ที่มีถึง 94% เดนมาร์ก 93% และฝรั่งเศส 79% สะท้อนการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมกระแสหลักที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทางด้าน น.ส.อรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า นฤมิตไพรด์ได้ร่วมขับเคลื่อนการจัดงานที่เซ็นทรัลเวิลด์ และรูปแบบการจัดงานมีขนาดใหญ่ขึ้นมาตลอด รวมถึงมีเครือข่ายมาร่วมมือมากขึ้น ทำให้ในอนาคตโอกาสที่การจัดงานจะขยายสเกลให้ใหญ่เทียบเท่ากับงานเคานต์ดาวน์ประจำปีได้เช่นกัน ซึ่งช่วยสร้างชื่อเสียงของเทศกาลไพรด์ในเวทีโลก และสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพ เวิลด์ไพรด์ ของประเทศไทยในปี 2030