77 ปี ‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าธุรกิจ ดีเดย์ ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิด 15 ส.ค. ฝ่ายุคห้างเงียบ!

77 ปี ‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าธุรกิจ ดีเดย์ ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิด 15 ส.ค. ฝ่ายุคห้างเงียบ!

เส้นทางการเติบโตของกลุ่ม “ดุสิตธานี” เจ้าของโรงแรมระดับตำนานในประเทศไทย เดินทางสู่ปีที่ 77 ในปี 2568 ใกล้ได้เห็นดอกผลจากการร่วมทุนโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” (Dusit Central Park) ที่จะพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ทุกองค์ประกอบในปี 2569

ตามแผนสร้างตำนานบทใหม่ หรือ “New Chapter” แก่องค์กร มี “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เป็นผู้วางโรดแมปตลอด 9 ปีนับตั้งแต่เข้ามาบริหารในฐานะซีอีโอนอกสายเลือด มุ่งสร้างสมดุลรายได้ กระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจโรงแรมที่เคยครองสัดส่วนมากถึง 90% ในอดีตก่อน ศุภจี เข้ามาคุมทัพ จนปัจจุบันขยายสู่ 4 กลุ่มธุรกิจ นอกจาก “โรงแรม” และ “การศึกษา” ที่มีอยู่เดิม สู่น่านน้ำใหม่ คือ “อาหาร” และ “อสังหาริมทรัพย์” 

ศุภจี เล่าว่าปีนี้เป็นปีที่ 10 ที่เข้ามาบริหารกลุ่มดุสิตธานีในฐานะซีอีโอ แผนธุรกิจในช่วง 5 ปีนับจากนี้ (ตั้งแต่ปี 2568-2572) จะยังไม่มีการลงทุนสินทรัพย์ขนาดใหญ่ (Major Asset) เพราะบริษัทเพิ่งร่วมลงทุนครั้งใหญ่กับ “เซ็นทรัลพัฒนา” พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่า 46,000 ล้านบาท

77 ปี ‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าธุรกิจ ดีเดย์ ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิด 15 ส.ค. ฝ่ายุคห้างเงียบ!

สำหรับองค์ประกอบแรก “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ” สูง 39 ชั้น เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2567 นับเป็นการคัมแบ็กของ “พระเอก” กลุ่มธุรกิจโรงแรม โดยในปี 2568 จะเป็นปีแรกที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เปิดเต็มปี แม้จะลดจำนวนห้องพักจากเดิมเคยมี 500 กว่าห้อง เหลือ 257 ห้องสำหรับอาคารโฉมใหม่ เพื่อเพิ่มขนาดห้อง และสามารถมองเห็นวิวสวนลุมพินีเต็มตาได้จากทุกห้อง แต่สามารถเพิ่มราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวัน (ADR) จากเดิมประมาณ 4,000 กว่าบาทต่อคืน เป็น 12,000 บาทต่อคืน ตั้งเป้าสร้างอัตราการเข้าพักตลอดปีนี้ที่ 56% เฉพาะไตรมาสแรกมีอัตราการเข้าพัก 37% แล้ว หลังเปิดให้บริการห้องพักแล้ว 90% เตรียมเปิดเต็มร้อยในไตรมาส 2

77 ปี ‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าธุรกิจ ดีเดย์ ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิด 15 ส.ค. ฝ่ายุคห้างเงียบ!

 

ด้านศูนย์การค้า “เซ็นทรัล พาร์ค” (Central Park) มีกำหนดเปิดให้บริการวันที่ 15 ส.ค.2568 มั่นใจเรื่องปริมาณทราฟฟิกคนเดินห้าง จากจุดแข็ง “โลเกชัน” หัวมุมแยกถนนสีลม ตัดพระราม 4 ซึ่งเป็นจุดตัดของรถไฟฟ้า BTS กับ MRT และยังมีทราฟฟิกภายในโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ จากพนักงานออฟฟิศในอาคาร “เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส” (Central Park Offices) สูง 40 ชั้น ตอนนี้บริษัทที่จะเช่าพื้นที่ออฟฟิศได้เข้ามาตกแต่งภายในแล้ว พร้อมเปิดให้บริการไตรมาส 3 ปีนี้ นอกจากนี้ยังมีอีกองค์ประกอบสำคัญคือ “สวนลอยฟ้า” ขนาดใหญ่บนพื้นที่ 7 ไร่ ออกแบบแลนด์สเคปเน้นการเล่นระดับ ซึ่งกำลังจะเปิดสวนในวันที่ 27 มิ.ย.นี้

77 ปี ‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าธุรกิจ ดีเดย์ ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิด 15 ส.ค. ฝ่ายุคห้างเงียบ!

77 ปี ‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าธุรกิจ ดีเดย์ ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิด 15 ส.ค. ฝ่ายุคห้างเงียบ!

“แม้ภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ค่อนข้างเงียบ คนเดินห้างน้อย กระทบต่อบรรยากาศในภาพรวม แต่เราเองยังค่อนข้างมั่นใจในศูนย์การค้า เซ็นทรัล พาร์ค จากทราฟฟิกภายในโครงการมิกซ์ยูสนี้ ทั้งคนมาพัก และประชุมที่โรงแรม ผู้พักอาศัยในเรสซิเดนซ์ และพนักงานออฟฟิศอีกหลายพันคน และยังมีทราฟฟิกภายนอกจากจุดตัดรถไฟฟ้า 2 สาย ขณะเดียวกันขนาดศูนย์การค้าเราไม่ได้ใหญ่มาก สามารถเดินได้สบายๆ”

ขณะที่ “เดอะ เรสซิเดนเซส แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” (The Residences at Dusit Central Park) ที่พักระดับอัลตราลักชัวรี สูง 69 ชั้น จำนวน 406 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 88% คิดเป็นมูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท มีกำหนดสร้างเสร็จสมบูรณ์กลางปี 2569 จะเริ่มทยอยโอนให้ได้มากที่สุดภายในสิ้นปีนี้ และโอนเพิ่มเติมในปีหน้า โดยตอนนี้สามารถเพิ่มราคาที่พักได้ 20% จากวันแรกที่เปิดขาย

“โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้ เราสามารถขายที่พักอาศัย เดอะ เรสซิเดนเซส แอท ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ได้แล้ว 88% โดยจะทยอยโอนให้ได้มากที่สุดภายในสิ้นปีนี้ ทำให้มีรายได้จากตรงนี้มาลดภาระเงินกู้ยืมหรือหุ้นกู้ และทำให้บริษัท ดุสิตธานี สามารถพลิกผลประกอบการได้อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้”

77 ปี ‘ดุสิตธานี’ เดินหน้าธุรกิจ ดีเดย์ ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เปิด 15 ส.ค. ฝ่ายุคห้างเงียบ!

ศุภจี สุธรรมพันธุ์

ศุภจี เล่าเพิ่มเติมว่า เมื่อเจาะเฉพาะแผนขยาย “กลุ่มธุรกิจโรงแรม” จะเน้นการรับบริหารอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโรงแรมในเครือทั้งใน และต่างประเทศรวม 58 แห่ง รวมธุรกิจรับบริหาร และให้บริการเช่าวิลล่าหรูภายใต้แบรนด์ “อีลิธ เฮเวนส์” เกือบ 300 แห่ง กระจายใน 19 ประเทศ เติบโตจากฐานโรงแรม 27 แห่งใน 8 ประเทศเมื่อปี 2559 ซึ่ง ศุภจี เข้ามาเป็นซีอีโอปีแรก

โดยในปี 2568 ดุสิตธานีได้เปิดโรงแรมใหม่ 2 แห่งในเดือนพ.ค. ได้แก่ โรงแรมดุสิต เลอ ปาเลส์ ตือฮัว ฮานอย และโรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส มะละกา ส่วนในช่วงเดือนมิ.ย.- ก.ค. จะเปิดโรงแรมดุสิตดีทู เฟย์ดู มัลดีฟส์ เป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ของเครือดุสิตธานีบนเกาะสวรรค์ในมัลดีฟส์

“ในอีก 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจโรงแรมจะยังคงเป็นรายได้หลักของกลุ่มดุสิตธานี แต่สัดส่วนน้อยลง อยู่ที่ 60% ของรายได้ทั้งหมด ถือว่าดีกว่าเมื่อ 9 ปีก่อนที่มีสัดส่วนสูงถึง 90% หลังบริษัทได้เดินกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง สร้างสมดุลรายได้จากกลุ่มธุรกิจอาหาร อสังหาฯ และการศึกษา”

ก่อนหน้านี้ “ดุสิตธานี” ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ปี 2568 เติบโต 30-35% เทียบกับปีที่แล้วซึ่งปิดรายได้รวมที่ 11,204 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท แต่พอเห็นปัจจัยลบ “สงครามการค้า” และสถานการณ์ “นักท่องเที่ยวจีน” เดินทางเข้าไทยชะลอตัว ล่าสุดประเมินแนวโน้มว่ามี “ความยากลำบาก” ที่จะไปถึงเป้าหมายดังกล่าว จึงอยู่ระหว่างทบทวนเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะยังเห็นการเติบโต มุ่งสู่การสร้างผลกำไรสุทธิ พลิกจากปีที่แล้วขาดทุนสุทธิ 237 ล้านบาท

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์