‘วัลลภา’ ทายาทเจ้าสัวเจริญ อัดงบเพิ่ม 1.2 หมื่นล้าน ปั้น 3 โปรเจกต์ ‘ลานนาทีค เชียงใหม่’

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าพัฒนาโครงการ “ลานนาทีค” (Lannatique) ให้เป็นไลฟ์สไตล์แลนด์มาร์กระดับโลกด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะแห่งใหม่บนย่านช้างคลาน จ.เชียงใหม่ ที่หลอมรวมวิถีชีวิตท้องถิ่นล้านนาและวัฒนธรรมร่วมสมัยเอาไว้ในพื้นที่เดียวกันภายใต้แนวคิด “The Heart of Lanna Art Movement” มุ่งถ่ายทอดเรื่องราวศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของอารยธรรมล้านนาอันทรงคุณค่ายาวนานกว่า 700 ปี ออกมาในรูปแบบ “หมู่บ้านศิลปะร่วมสมัย” เชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับการสร้างสรรค์ในโลกปัจจุบันอย่างกลมกลืนผสานกับไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพระดับโลก

“AWC เดินหน้าลงทุนพัฒนาพื้นที่ในโครงการลานนาทีคในย่านช้างคลาน ด้วยมูลค่าการลงทุนเพิ่มกว่า 8,500 ล้านบาท ทยอยลงทุนในช่วง 10 ปี ตั้งแต่ปี 2567-2576 หากรวมการลงทุนซื้อที่ดินด้วย จะมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมดรวม 11,950 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดให้บริการเฟสแรกในไตรมาส 4 ปี 2568”

สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ประกอบไปด้วย 3 พื้นที่สำคัญ ได้แก่

1.ลานนาทีค กาแล (Lannatique Kalare)

ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 17,500 ตารางเมตร ถ่ายทอดเสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ผ่าน 3 หมู่บ้านศิลป์ ได้แก่ Thai Craftsmanship Village หมู่บ้านศิลปะไทยและหัตถกรรมทรงคุณค่า, Cultural Village หมู่บ้านวัฒนธรรมหลากหลายของชาติพันธุ์ และ Creative Art Village หมู่บ้านสร้างสรรค์ศิลปะแบบใหม่ และพื้นที่ Experiential Shop ครั้งแรกกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากไทยที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมที่กระตุ้นทุกประสาทสัมผัส เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เข้าถึงเรื่องราว แนวคิด และคุณค่าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างลึกซึ้ง

โดยจะเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2568 พร้อมปูรากฐานสู่การพัฒนาโรงแรมระดับโลกขนาด 55,000 ตารางเมตร ที่จะผสานกับแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) ระดับโลกขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

2.ลานนาทีค บาซาร์ (Lannatique Bazaar)

ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 22,500 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด Contemporary Art กับพื้นที่ศิลปะร่วมสมัย รวมถึงโครงการโรงแรมที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร

3.ลานนาทีค มาร์เก็ต (Lannatique Market)

ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 87,000 ตารางเมตร ที่อยู่ระหว่างการศึกษาภายใต้คอนเซ็ปต์ในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน

“ด้วยโครงการลานนาทีคเป็นมิกซ์ยูส ผสมผสานระหว่างพื้นที่ศูนย์การค้า โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยว นอกจากพื้นที่ศูนย์การค้าลานนาทีค กาแล, ลานนาทีค บาซาร์ และลานนาทีค มาร์เก็ตแล้ว ยังมีโรงแรมโอกุระ เชียงใหม่ ให้บริการห้องพักสไตล์เรียวกังครั้งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น รวมถึงโรงแรมรองรับดีมานด์กลุ่มพำนักระยะยาว (Longstay) และกลุ่มครอบครัวที่ต้องการห้องพักขนาดใหญ่มี 2-3 ห้องนอนในตัว นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ใหม่บริหารงานโดยเครือมีเลีย เพื่อจับกลุ่มครอบครัวด้วย”

วัลลภา ไตรโสรัส

การเดินหน้าลงทุนเพิ่มกว่า 8,500 ล้านบาท ต่อเนื่องจากการที่บริษัทฯ ได้ลงทุนและพัฒนาโรงแรมในเชียงใหม่ไปแล้ว 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่ 1.โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ 2.โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล และ 3.โรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล เมื่อรวมกับศูนย์การค้า พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบของภาพรวมโครงการลานนาทีค รวมมูลค่าลงทุน 12,600 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินลงทุนอีกส่วนมูลค่า 11,950 ล้านบาทตามแผน 10 ปีของโครงการลานนาทีค จะคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านบาท

นางวัลลภา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงการ Lannatique Kalare ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรระดับแนวหน้าของไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะ การแสดง และอาหาร เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างครบวงจร โดยเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน ผู้ประกอบการ และชุมชนท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนและสร้างสรรค์ประสบการณ์พิเศษ เริ่มด้วยพันธมิตรชั้นนำที่จะส่งต่อคุณค่าของไทยสู่นักเดินทางจากทั่วโลก

• 6ixcret Show โดยกันตภณ เนียมมณี นักออกแบบการแสดง เจ้าของผลงานสร้างสรรค์ในเชียงใหม่ และระดับประเทศ ร่วมกับทีมผู้บริหารและทีมงานผู้มีประสบการณ์จากเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งจะเข้าร่วมพัฒนาภายในโครงการ Lannatique Kalare เพื่อเปิดโรงละครภายใต้แบรนด์ STARGANZA LIVE นำเสนอการแสดง Cabaret Show ร่วมสมัยที่หลอมรวมศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรมล้านนาท้องถิ่น ถ่ายทอดออกมาในมิติที่ใหม่แบบอิมเมอร์ซีล้ำสมัย กล้าท้าทายและทรงพลัง พร้อมยกระดับการแสดงศิลปะในเชียงใหม่สู่มาตรฐานระดับสากล บนพื้นที่รวมมากกว่า 500 ตารางเมตร
• ร้านเอกฉันท์ โดยเชฟเอก เอกพล พิชวงค์ ผู้สร้างสรรค์อาหารไทยท้องถิ่นชื่อดังจากมิชลินไกด์ในเชียงใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบจากแหล่งออร์แกนิกท้องถิ่นและรสชาติที่สะท้อนเอกลักษณ์ของภูมิภาค เตรียมเปิดโมเดลใหม่ในโครงการ Lannatique Kalare ที่จะนำเสนออาหารไทยที่เปี่ยมด้วยอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมผ่านวัตถุดิบพื้นถิ่นคุณภาพดี ถ่ายทอดรสชาติและเรื่องราวจากทุกภูมิภาคของประเทศในมิติใหม่ที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างกลมกลืน บนพื้นที่รวมมากกว่า 500 ตารางเมตร

นางวัลลภา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ บริษัทฯได้ประกาศร่วมสนับสนุนนโยบายการท่องเที่ยวยั่งยืนของจังหวัดเชียงใหม่ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สู่การเป็น Innovative and Sustainable Tourism ผ่านการพัฒนาโครงการ “Chiang Mai Tram by Lannatique” รถแทรมไฟฟ้าล้อยางนำเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทย เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ ชื่อดัง รวมกว่า 40 แห่งตลอดสาย อาทิ ประตูท่าแพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตลาดวโรรส คลองแม่ข่า โครงการ “Lannatique” พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ และโรงแรมในเครือ AWC เป็นต้น

“Chiang Mai Tram by Lannatique” จะช่วยลดการปล่อยมลภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการใช้พลังงานไฟฟ้า พร้อมมอบความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยผู้ใช้บริการสามารถจอดรถส่วนตัวไว้บริเวณรอบนอก หรือในโครงการเครือ AWC แล้วเดินทางเข้าสู่เมืองด้วยรถแทรมไฟฟ้าล้อยางเพื่อลดการใช้พลังงานและการจราจรที่หนาแน่นในเขตเมือง โดยรายได้สุทธิจากโครงการ “Chiang Mai Tram by Lannatique” จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมเพื่อชุมชนยั่งยืนให้จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป