'ของฝาก' อิงนักท่องเที่ยวจีนยอดตก! บิ๊กแบรนด์เบนเข็ม หาตลาดใหม่

น้ำมันมวย กูลิโกะ ประสานเสียงสินค้าของฝากเจาะกำลังซื้อนักท่องเที่ยวซบเซา บิ๊กแบรนด์ลุยหาตลาดใหม่ ทีม Bridge แนะสินค้าเคาะประตูบ้านแดนมังกร สู่ Wish List ต้องซื้อ
นักท่องเที่ยวจีน” อำนาจซื้อใหญ่ที่จะเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยวของไทย ทว่า ปมความปลอดภัย “ซิงซิง” ตามด้วยแผ่นดินไหว กระทบความเชื่อมั่น นักเดินทางเปลี่ยนเดสทิเนชัน มาไทยลดลง วิกฤติซ้ำรอยโควิด-19 สินค้า-ของฝาก ของที่ระลึกยอดขายดิ่ง ซื้อต่อครั้งน้อย
ตลาดของฝาก ของที่ระลึกมีมูลค่ามหาศาล ตัวอย่างต้นตำรับของฝากแบรนด์ “เจ้าสัว” ที่ยืนหยัดในตลาดก้าวสู่ทศวรรษที่ 7 ทำรายได้หลัก “พันล้านบาท” และอยู่ในตลาดขนมขบเคี้ยวหรือสแน็ค 1.2 แสนล้านบาท(รวมบิสกิต มันฝรั่ง ข้าวตัง ขนมขึ้นรูปฯ) แต่ของฝาก สินค้าที่โดนใจนักท่องเที่ยวยังมีอีกมากมาย ทั้งสิ้นค้าชุมชน โอท็อป ผลิตภัณฑ์บรรเทาปวด(เจลประคบเย็น พลาสเตอร์ยาบรรเทากล้ามเนื้อฯ) ผลไม้อบแห้ง และอีกมากมาย แต่เมื่อนักท่องเที่ยวจีนลดลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องพลิกกระบวนท่า หาโอกาสโตท่ามกลางปัจจัยลบ
นักท่องเที่ยวจีนซื้อของฝากลด
นางสาวอธิชาภรณ์ จันทร์ประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทวกรรมโอสถ จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ เช่น น้ำมันมวย พลาสเตอร์บรรเทาปวดนีโอบัน พลาสเตอร์ปิดแผลนีโอพลาส ฯ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเยือนไทยลดลง ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของฝากค่อนข้างมาก ปริมาณการซื้อลดลงด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่เคยออกประเทศ เมื่อมาเที่ยวทั้งทีจะกว้านซื้อน้ำมันมวย 50-100 ขวด เป็นต้น
“นักท่องเที่ยวจีนลดลงมีผลกระทบ เพราะเดิมการซื้อแต่ละครั้งไม่แค่จำนวน แต่ขนาดการซื้อต่อบิลสูง ตอนนี้ซื้อไม่มาก ผลกระทบไม่ได้เกิดแค่กับแบรนด์เราแต่ทุกแบรนด์”
ทั้งนี้ สินค้าของเทวกรรมโอสถ ทั้งน้ำมันมวย พลาสเตอร์เทาบรรเทาปวด ฯ ถือเป็นสินค้าท็อปลิสต์ หรือติดอันดับที่นักท่องเที่ยวต้องซื้อเป็นของฝากกลับประเทศ เมื่อนักท่องเที่ยวจีนลดลง ทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์ หันไปโฟกัสกลุ่มนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางแทน
ตัวอย่างการขายสินค้าพลาสเตอร์บรรเทาปวดในย่านนานา ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวตะวันออกกลางให้ความนิยมชื่นชอบอย่างมาก อาจเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ถูกถามหามากสุด
สำหรับแผนแปะบรรเทาปวดของบริษัทถือเป็นท็อป 3 ในกลุ่มนักท่องเที่ยว และเป็นแบรนด์ไทยเพียงแบรนด์เดียวที่ยืนหยัดแข่งขันกับแบรนด์ต่างประเทศที่เป็นเบอร์ 1 และ 2
ปรับกลยุทธ์โฟกัสคนไทยปวดบ่า หลัง ไหล่ฯ
นอกจากนี้ บริษัทยังรุกตลาดคนไทยมากขึ้น ทำการสื่อสารตลาดถึงกลุ่มคนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อตามจุดต่างๆทั้งบ่า ไหล่ หลัง ฯ หรือออฟฟิศซินโดรม รวมถึงตอกย้ำกลุ่มผู้ใหญ่รุ่นพ่อแม่ ซึ่งนิยมและรู้จักสินค้ามาอย่างนาวนาน รวมถึงกลุ่มครอบครัว พร้อมขยายสู่กลุ่มผู้เล่นกีฬาทุกประเภท เนื่องจากผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันมวย ช่วยบรรเท่าการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกีฬามวยถือเป็นกีฬาที่มีการบาดเจ็บ เจ็บปวดมากสุด จึงเป็นโอกาสขยายฐานใหม่ๆเพิ่ม
“เราต้องผลักดันตลาดในหมู่คนไทยให้เติบโตมากขึ้น ทดแทนกับนักท่องเที่ยวที่หายไป”
สำหรับประเทศไทยถือเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เมื่อซื้อสินค้าของฝากจากเทวกรรมโอสถ จีน ยังคงเป็นอันดับ 1 ตามด้วยยุโรป และสหรัฐ ส่วนสินค้ายอดฮิตได้แก่ แบรนด์มวยทั้ง น้ำมวยและครีม ตามด้วยนีโอบัน และนีโอพลาส
“สินค้าบริษัทอยู่ในตลาดมานาน และนักท่องเที่ยวต่างชาติคุ้นเคยกับกีฬามวย แบรนด์จึงชูโรงในตลาด รวมถึงนีโอบัน นีโอพลาสเป็นรายการสินค้าที่ต้องซื้อหรือ wish list”
จีนยังเป็นขุมทรัพย์ใหญ่
แม้นักตลาดนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจะหดตัว อีกด้านบริษัทมองการรุกตลาดแดนมังกร เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่มหาศาล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง และเชี่ยวชาญในการเจาะกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากสินค้าของบริษัทเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ต้องมีการขึ้นทะเบียน ปฏิบัติตามกติกาในประเทศนั้นๆ ต่างจากสินค้าอุปโภคบริโภค(FMCG)ที่เข้าไปทำตลาดได้ง่ายกว่า
“สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพมีความท้าทายมาก เราพยายามบุกตลาดจีนให้ได้ เพราะเป็นตลาดใหญ่มาก แต่จากเศรษฐกิจ กำลังซื้อ การท่องเที่ยว ก็มีผลกระทบมากๆเช่นกัน ซึ่งเชื่อว่าทุกแบรนด์โดนเหมือนกัน”
อย่างไรก็ตาม ตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพหมวดพลาสเตอร์บรรเทาปวด เชื่อว่ายังเติบโตในอัตรา 2 หลัก แนวโน้มเติบโตมากในไทยและทั่วโลก
“อาการปวดเกิดขึ้นกับทั้งคนไทยและทั่วโลก ซึ่งตลาดรวมผลิตภัณฑ์พลาสเตอร์บรรเทาปวดมูลค่าหลายพันล้านบาท คาดว่าจะโตตต่อเนื่องในอัตรา 2 หลัก นับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด”
เบนเข็มเจาะนักท่องเที่ยวมาเลเซีย สิงคโปร์ ตะวันตก
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีผลิตภัณฑ์ขนมหวานที่เจาะตลาดนักท่องเที่ยว รวมถึงมีการสร้างสรรค์รสชาติท้องถิ่น และการจัดสินค้าเป็นแพ็คขนาดต่างๆเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะในการซื้อเป็นของฝาก กลับประเทศ
ตัวอย่างสินค้ารสชาติท้องถิ่นโดนใจนักท่องเที่ยว เช่น ป๊อกกี้ช็อกโกบานาน่า รสมะม่วง เพรทซ์รสลาบ รสต้มยำกุ้ง ฯ แต่จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยน้อยลง โดยเฉพาะจีน ซึ่งช่วงสงกรานต์เห็นได้อย่างชัดเจนว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของฝาก จับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทปรับกลยุทธ์ด้วยการโฟกัสนักท่องเที่ยวชาติใหม่ๆ เช่น ตะวันตก มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ชื่นชอบสินค้าไทย
“ส่วนหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจีนหายไป วิธีการภายในต้องหากลุ่มเป้าหมายอื่นทดแทนหรือ compensate หารสชาติใหม่ๆ ทำเพื่อตลาดอาเศียน จับนักท่องเที่ยวเกาหลี และยุโรปมากขึ้น ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจโลกเผชิญความท้าทาย จีดีพีไทยพึ่งพาการท่องเที่ยว แต่ยังเชื่อว่าคนมาเที่ยวชื่นชอบอาหารไทย มาเที่ยวทะเล จะกระทบเพียงระยะสั้น”
เสิร์ฟสินค้า Wish List เคาะประตูบ้านจีน
นายวิชิต คุณคงคาพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจตลาดต่างประเทศ (ทีม Bridge) บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การกระตุ้นยอดขายในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เหมือนเผชิญปัจจัยลบเต็มไปหมด ทั้งนักท่องเที่ยวจีนไม่มาไทย ไปเวียดนาม การเจรจาธุรกิจการค้า ท่องเที่ยวกับจีนไม่ลงตัว รัฐบาลจีนหนุนให้คนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ฯ แต่หากวิเคราะห์สถานการณ์จริงๆ จะพบนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์หายไป และยังมีปัจจัยบวกอยู่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเดินทางอิสระหรือเอฟไอที ยังไม่หายไป กลุ่มนี้ยังไม่ถูกกระตุ้นตลาดมากนัก
“นักท่องเที่ยวเอฟไอทีตัดสินใจกิน เที่ยวอิสระ และเดสทิเนชันของไทยไม่ได้มีแค่กรุ๊ปทัวร์ไปลงพัทยา ไปซื้อของฝากที่ห้างค้าปลีกย่านราชดำริ ยังมีเมืองท่องเที่ยวอื่นที่จับชาวจีน”
ทั้งนี้ รัฐและเอกชนควรทำตลาดเคาะประตูบ้านจีนอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเอฟไอที เช่น สื่อสารผ่านโต่วอิน(Douyin)การใช้อินฟลูเอนเซอร์ เคโอแอลจีน และแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเห็นแบรนด์และสินค้า ซึ่งเชื่อว่าโอกาสยังมีอีกมาก ส่วนอินไซต์นักท่องเที่ยวจีนเอฟไอที ที่พบต้องการหลีกหนีกรุ๊ปทัวร์จีนเช่นกัน ต้องการดื่มด่ำ กิน ท่องเที่ยวยังสถานที่แปลกใหม่จริงๆ(excotic)
ในการทำตลาดเพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ระหว่างนี้แบรนด์สินค้าต่างๆ ควรไปสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในประเทศตั้งแต่ต้นทาง ตอนเดินทาง มาถึงไทยจะไปไหน และซื้ออะไร ควรนำสินค้าไปอยู่ในท็อป 10 ที่ต้องซื้อเมื่อมาประเทศไทย เฉกเช่นคนไทยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นที่จะต้องไปชอปปิง ซื้อของฝากรายการใดกลับมา
“เราต้องไปสื่อสารกับนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่ต้น ไปเที่ยวไหน ทานอะไร สินค้าของฝาก top 10 ต้องซื้อ ยัดแบรนด์ตัวเองไปอยู่ในสินค้าที่ต้องซื้อให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกอม ยาแก้ไป แผ่นแปะบรรเทาปวดต่างๆ สินค้าสุขภาพ สินค้าความงาม สมุนไพร ร้านอาหารที่ต้อไปลิ้มลอง ให้เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันแรกที่เที่ยว ไปจนถึงเช็กลิสต์ว่าซื้อครบหรือยังก่อนกลับประเทศ”