ททท. เร่งบูสต์ตลาดตะวันออกกลาง! ผนึก ‘เอมิเรตส์-เอทิฮัด’ ปั๊มรายได้แสนล้าน

ท่ามกลางขุมทรัพย์นักท่องเที่ยวจีนอยู่ในช่วงขาลง! นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง เป็นอีกตลาดเป้าหมายสำคัญของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการเร่งเครื่องบูสต์ตลาดด้วยสารพัดกลยุทธ์ ล่าสุดจับมือพันธมิตร 2 สายการบินระดับโลก “เอทิฮัด” (Etihad) และ “เอมิเรตส์” (Emirates) รวมถึง “Dnata Travel Group” ผู้ให้บริการทางการท่องเที่ยวในตลาดตะวันออกกลาง ในงานเทรดโชว์ “อาราเบียน ทราเวล มาร์เก็ต 2025” (Arabian Travel Market 2025) ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 28 เม.ย. - 1 พ.ค.
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า สายการบิน “เอทิฮัด” และ “เอมิเรตส์” เป็น 2 สายการบินระดับโลกที่มีเครือข่ายกว้างขวาง การลงนามความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กับ 2 สายการบินจะสร้างประสบการณ์ในการเดินทางพิเศษและไร้รอยต่อให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และทำให้เมืองไทยเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำ และศูนย์กลางในการเดินทางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่ “Dnata Travel Group” เป็นผู้นำด้านบริการทางการท่องเที่ยว และบริการทางการบินที่ใหญ่ที่สุดในดูไบ และมีสำนักงานในหลายประเทศทั่วโลกมากกว่า 50 สาขา ความร่วมมือที่ได้ลงนามในครั้งนี้ทั้งหมดจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแบบ “พักผ่อนเชิงคุณภาพ” (Quality Leisure) ยอดนิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง
ผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดร่วมกัน การพัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะสินค้าทางการท่องเที่ยวด้านสุขภาพ (Health & Wellness) ลักชัวรี (Luxury) และท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) ที่ประเทศไทยต้องการจะเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตะวันออกกลาง
ปัจจุบัน สายการบินเอทิฮัด เตรียมเปิดให้บริการเพิ่มเส้นทางบินสู่ “กระบี่” ในเดือน ต.ค. และ “เชียงใหม่” ในเดือน พ.ย. 2568 เพิ่มเติมจากเส้นทางสู่กรุงเทพฯ และภูเก็ตในปัจจุบัน โดยจะให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัสใหม่ A321LR ซึ่งเปิดตัวในงาน ATM 2025
ขณะที่สายการบินเอมิเรตส์ ให้บริการ 49 เที่ยวบินต่อสัปดาห์สู่กรุงเทพฯ และภูเก็ต ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A380 และโบอิ้ง 777
สำหรับ Dnata Travel Group เป็นบริษัทในเครือของ เอมิเรตส์ กรุ๊ป ที่ให้บริการจองการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีพันธมิตรมากกว่า 750 รายในตลาดตะวันออกกลาง ให้บริการลูกค้าทั้งกลุ่มองค์กร (Corporate) กลุ่มความสนใจเฉพาะแบบพรีเมียม (Premium Niche Segment) และกลุ่มท่องเที่ยวพักผ่อนทั่วไป (Leisure) โดยมีผู้ใช้งานผ่านเว็บไซต์ dnatatravel.com มากกว่า 1.3 ล้านราย
“ททท. หวังว่าการลงนามกับพันธมิตรสายการบินเอทิฮัดและเอมิเรตส์ รวมถึง Dnata Travel Group จะเป็นอีกหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายตลาดนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางและแอฟริกาตามที่ตั้งไว้ที่จำนวนนักท่องเที่ยว 1.1 ล้านคน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 98,000 ล้านบาทในปี 2568”
ฐาปนีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ททท.ยังได้นำคณะผู้ประกอบการไทย 55 หน่วยงาน บุกงาน Arabian Travel Market 2025 ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งในปีนี้ ททท.เข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 25 และเป็นโอกาสดีในการเปิดตัวปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ในตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงและมีศักยภาพสำหรับการท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก
โดย ททท. มุ่งนำเสนอสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกลุ่ม “Wellness” ที่ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็น “ศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพระดับโลก” รวมถึงกลุ่มลักชัวรี ครอบครัว และฮาลาล (Halal-friendly Tourism) ควบคู่กับการนำเสนออัตลักษณ์เสน่ห์ไทยที่มีความหรูหราผ่านแนวคิดในการออกแบบคูหาประเทศไทย และการนำเสนอประสบการณ์ “5 Must Do in Thailand”
ทั้งนี้ ภายหลังจากการนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน Arabian Travel Market 2025 ททท.ยังมีกำหนดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Post ATM Roadshow 2025” ในวันที่ 4-7 พ.ค. 2568 ณ กรุงริยาด เมืองดัมมัม ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และเมืองโดฮา รัฐกาตา ตามลำดับ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการการท่องเที่ยวไทย และจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจและสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจาก “ตะวันออกกลาง” ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีความสำคัญและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ 1 ม.ค.- 22 เม.ย. 2568 มีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย 162,790 คน โดยตลาดนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย เพิ่มขึ้น 15.26% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พฤติกรรมนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางมีวันพำนักค่อนข้างนานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13.6 วัน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 90,000 บาทต่อทริป
ส่วนใหญ่ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก จึงมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก โดยมีความชื่นชอบอาหารไทย ท่องเที่ยวชายหาด กิจกรรมเชิงสุขภาพ แสงสียามค่ำคืน และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์