เรือสำราญ ‘Star Voyager’ ขึ้นเทียบท่าไทยเป็นครั้งแรก ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ

ททท. ผนึกกำลัง StarDream Cruises นำเรือสำราญ ‘Star Voyager’ ให้บริการขึ้นลงที่ไทยเป็นครั้งแรก เส้นทางแหลมฉบัง-เกาะสมุย-สิงคโปร์-แหลมฉบัง หวังกระตุ้นนักท่องเที่ยวคุณภาพ ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเรือสำราญระดับโลก
วันที่ 22 เมษายน 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ StarDream Cruises ส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ ซึ่งถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ และมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง นำเรือสำราญ "Star Voyager" ซึ่งมีความจุผู้โดยสารราว 1,940 คน มาให้บริการโดยเลือกประเทศไทยเป็นจุดขึ้นลง (Home Port) เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 22 เมษายน-12 พฤษภาคม 2568 โดยให้บริการในเส้นทางท่าเรือแหลมฉบัง-เกาะสมุย-สิงคโปร์-แหลมฉบัง 2 ครั้ง (Calls) ในวันที่ 22-27 เมษายน และ 7-12 พฤษภาคม 2568
นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้เปิดเผยว่า การที่แบรนด์เรือสำราญ StarDream Cruises ได้ตกลงนำเรือเข้ามาให้บริการขึ้นลงที่ประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่าง ททท. และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเรือสำราญแบรนด์ระดับโลก ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรือสำราญในประเทศไทย ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล
สะท้อนถึงการทำงานร่วมกันอย่างเหนียวแน่นของพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมรับประสบการณ์พิเศษไปกับเรือ Star Voyager ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการที่จะนำเสนอศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในภูมิภาค และสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวผ่านการนำเสนอเสน่ห์วัฒนธรรมไทย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และการต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรีของคนไทย
นายไมเคิล โก๊ะ (Mr. Michael Goh) President of StarDream Cruises กล่าวว่า มีความยินดีอย่างมากกับการนำเรือสำราญ Star Voyager มาขึ้นลงที่ Home port ของประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ของ Star Cruises ที่กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ StarDream Cruises ด้วย
การเปิดตัวครั้งนี้ ยังถือเป็นก้าวสำคัญของความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเรือสำราญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตต่อไป
นอกจากนี้ ในวันที่ 22 เมษายน 2568 ททท. ยังได้ร่วมจัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวในเที่ยวแรก ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นำเสนอสีสันความสนุกสนานแบบไทย เช่น การแสดงกลองยาว และการแสดงจาก Alcazar Cabaret Show และมอบของที่ระลึกสุดพิเศษเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงยังมีการจัดกิจกรรมสาธิตเพื่อสร้างการรับรู้เสน่ห์ไทย ให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมบนเรือ เช่น การสาธิตระบายลวดลายบนร่มบ่อสร้างอย่างประณีต การทำบุหงาร่ำหรือถุงหอมสมุนไพรที่เคยใช้ในราชสำนักไทย และการแสดงฟ้อนรำไทยอันอ่อนช้อยที่สะท้อนรากเหง้าศิลปะชั้นสูงของไทย
กิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "5 Must Do in Thailand" ประกอบด้วย Must Taste, Must Try, Must Buy, Must Seek และ Must See ซึ่งมุ่งสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าในประเทศไทยให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเรือสำราญในโอกาสปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง
สำหรับ StarCruises ถือเป็นแบรนด์เรือสำราญที่มีประสบการณ์ให้บริการการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญเชื่อมโยงในภูมิภาคเอเชียมากว่า 30 ปี ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน อินเดีย ไต้หวันและฮ่องกง ปัจจุบันได้รีแบรนด์ภายใต้ชื่อใหม่คือ StarDream Cruises และเปิดตัวแบรนด์อีกครั้งด้วยการนำเรือ Star Voyager ให้บริการเที่ยวปฐมฤกษ์แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ขึ้นลงที่ไทยเป็นครั้งแรก ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เส้นทางแหลมฉบัง-เกาะสมุย-สิงคโปร์-แหลมฉบัง ระยะเวลา 6 วัน 5 คืน โดยจะให้บริการ 2 เที่ยว (Calls) คือวันที่ 22-27 เมษายน และ 7-12 พฤษภาคม 2568
ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การให้บริการแบบพรีเมียมตลอด 24 ชั่วโมง มีกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ความสนุกสนานและท้าทาย เช่น การปีนผา ซิปไลน์ รวมถึงการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก ททท. นำการแสดงจาก Alcazar Cabaret Show จากพัทยา ชลบุรี มาสร้างสีสันในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และสร้างความสนุกสนานบนเรือ เพื่อนำเสนอไฮไลท์การท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีด้วย
ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวโดยเรือสำราญอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากความหลากหลายของสินค้าและบริการการท่องเที่ยว
จากข้อมูลสถิติของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) พบว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้อนรับเรือสำราญถึง 162 เที่ยว มีผู้โดยสารทั้งหมด 379,036 คน และลูกเรือ 163,331 คน สร้างรายได้เข้าไทยถึง 1.89 พันล้านบาท มีความเติบโตมากกว่าปี 2566 ถึงราว 6.9% และมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่อง
ในปัจจุบัน ท่าเรือที่ในการรองรับเรือสำราญมากที่สุดตามลำดับ ได้แก่
1.อ่าวป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
2.ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
3.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
4.ท่าเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต
5.ท่าเรือศรีราชา จังหวัดชลบุรี
นักท่องเที่ยวที่มากับเรือสำราญส่วนใหญ่มาจากประเทศสิงคโปร์ สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ตามลำดับ