‘จีนเที่ยวไทย’ ยอดดิ่งนิวโลว์ 5,833 คนต่อวัน ทัวริสต์ต่างชาติ Q2 คาดเข้าไทย 8.4 ล้านคน

‘จีนเที่ยวไทย’ ยอดดิ่งนิวโลว์ 5,833 คนต่อวัน  ทัวริสต์ต่างชาติ Q2 คาดเข้าไทย 8.4 ล้านคน

สถานการณ์ “ท่องเที่ยวไทย” กำลังเผชิญความเสี่ยงจาก “สงครามการค้า” ซ้ำเติมแรงกดดันปัญหาภาพลักษณ์ความไม่ปลอดภัย นับตั้งแต่เกิดกรณีนักแสดงชาวจีน ซิงซิง หายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา และการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อต้นปี 2568 กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว

โดยเฉพาะตลาดอ่อนไหวอย่าง “นักท่องเที่ยวจีน” ที่ยอดการเดินทางเข้าประเทศไทยยังคงดิ่งลงต่อเนื่อง ทำสถิติต่ำสุด 5,833 คนต่อวัน เมื่อวันที่ 16 เม.ย.

แม้ว่าจะตรงกับช่วงกราฟการเดินทางตกท้องช้าง ชะลอตัวหลัง “เทศกาลสงกรานต์” แต่ก็เป็นสถิติที่เห็นแล้วชวนหนักใจอย่างยิ่ง! เพราะส่งผลต่อภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 เม.ย. 2568 มีจำนวนสะสม 11,272,379 คน เพิ่มขึ้นเพียง 0.52% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตลาดอันดับ 1 ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจีนก็จริง แต่ยอดสะสมมีเพียง 1,524,697 คน

นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยช่วง “ไตรมาส 2” (เม.ย.-มิ.ย.) ของปี 2568 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้ 390,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%

ส่วนนักท่องเที่ยวไทยคาดมีจำนวน 51.84 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2% สร้างรายได้ 304,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% รวมสร้างรายได้จากทั้งตลาดในและต่างประเทศ 694,720 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

ส่วนสถานการณ์ “ไตรมาส 1” (ม.ค.-มี.ค.) ของปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 9.55 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วนการฟื้นตัว 88% เทียบกับปี 2562 ก่อนโควิดระบาด สร้างรายได้ 471,875 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วนการฟื้นตัว 91% เทียบกับปี 2562 โดยตลาดหลักจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และเวียดนาม พบว่าในไตรมาส 1 เดินทางเข้าไทยลดลง 17% จากประเด็นอ่อนไหวความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย

ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวไทย มีจำนวน 50.1 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 3% สร้างรายได้ 269,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% สร้างรายได้รวมจากทั้งตลาดในและต่างประเทศ 741,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

‘จีนเที่ยวไทย’ ยอดดิ่งนิวโลว์ 5,833 คนต่อวัน  ทัวริสต์ต่างชาติ Q2 คาดเข้าไทย 8.4 ล้านคน

และตามที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายใหม่ในที่ประชุมติดตามสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. เมื่อกลางเดือน เม.ย. ว่าให้ทำรายได้รวมการท่องเที่ยวปี 2568 อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท กลับไปเท่าปี 2562 ก่อนวิกฤติโควิด แบ่งเป็นรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท และรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวไทยอีก 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะต่ำกว่าเป้าหมายรายได้รวมการท่องเที่ยวที่เคยตั้งไว้ในปีนี้ที่ 3.5 ล้านล้านบาท

“เมื่อดูคาดการณ์เฉพาะรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติในครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) จะอยู่ที่ 862,295 ล้านบาท ยังห่างไกลเป้าหมายที่ตั้งไว้”

นัทรียา กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ตลาด “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ในช่วงที่ผ่านมา “น่ากังวลมาก” โดยเฉพาะ “ตลาดจีน” ที่เคยเดินทางเข้าไทยวันละ 100,000 คน มาตอนนี้ลดฮวบ บางวันเหลือแค่ 7,000 คน จากปัจจัยความไม่เชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศจีน การส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของจีน ทำให้ตลาดจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักเดินทางเข้าไทยน้อยลง รวมถึงการปรับลดเที่ยวบินจากจีนมาไทยหลังสิ้นสุดเทศกาลตรุษจีน

ประกอบกับช่วง “เทศกาลสงกรานต์ 2568” มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ได้แก่ วันที่ 10 เม.ย. มีจำนวน 9.1 หมื่นคน วันที่ 11 เม.ย. มีจำนวน 1.24 แสนคน วันที่ 12 เม.ย. มีจำนวน 1.22 แสนคน วันที่ 13 เม.ย. มีจำนวน 9.31 หมื่นคน วันที่ 14 เม.ย. มีจำนวน 7.5 หมื่นคน และวันที่ 15 เม.ย. มีจำนวน 6.2 หมื่นคน สะท้อนให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

“จากตัวเลขเหล่านี้ ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท.จำเป็นต้องปรับแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวและมุ่งทำการตลาดแบบเจาะมากขึ้น ด้วยการหันไปทำตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล (Long-haul) ซึ่งเป็นกลุ่มมีศักยภาพ ได้แก่ สวีเดน นิวซีแลนด์ คูเวต ซาอุดีอาระเบีย สหราชอาณาจักร รัสเซีย ฝรั่งเศส แคนาดา เยอรมนี ออสเตรเลีย สเปน และออสเตรีย เนื่องจากมีแนวโน้มเติบโตดีและเป็นแรงเสริมให้สถานการณ์ตลาดภาพรวมสามารถกลับเข้าสู่แดนบวกได้ เพราะเป็นตลาดที่มีการใช้จ่ายสูง” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าว

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ รายงาน “สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติ” เดินทางเข้าไทยล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวนสะสม 11,272,379 คน เพิ่มขึ้น 0.52% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยตลาด 5 อันดับแรกที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด อันดับ 1 ยังคงเป็นตลาดจีน จำนวนสะสม 1,524,697 คน อันดับ 2 มาเลเซีย 1,401,169 คน อันดับ 3 รัสเซีย 835,385 คน อันดับ 4 อินเดีย 677,793 คน และอันดับ 5 เกาหลีใต้ 549,982 คน

รายงานสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติ ชี้ให้เห็นด้วยว่าตลาด “นักท่องเที่ยวจีน” เดินทางเข้าไทย “ทำสถิติต่ำสุด” ที่จำนวน 5,833 คนต่อวัน เมื่อวันที่ 16 เม.ย. จากค่าเฉลี่ย 15,000-20,000 คนต่อวัน แม้ว่าการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 16,000 คน เมื่อวันที่ 11 เม.ย. แต่แนวโน้มก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง