‘Bonchon’ ลูกค้าเยอะขึ้น เพราะเลิกเก็บ ‘Service Charge’ ? ขายดีที่สุดอยู่ที่สาขา ‘Zpell’

‘Bonchon’ ลูกค้าเยอะขึ้น เพราะเลิกเก็บ ‘Service Charge’ ? ขายดีที่สุดอยู่ที่สาขา ‘Zpell’

ร้านไก่ทอดเยอะขึ้น แต่ “Bonchon” ก็ยังขายดี! ผู้บริหารชี้ ปีที่แล้วลูกค้าเพิ่มขึ้น 11% โตมากสุดในกลุ่ม Gen Z สาขาขายดีสุดอยู่ที่ “Zpell” ปีนี้เปิดเพิ่มอีก 20 แห่ง ไม่หวั่น “ไก่ทอดจีน” บุกไทย มองรสชาติ-กลุ่มเป้าหมายคนละทิศทาง

“บอนชอน” (Bonchon) อาจเป็นไก่เกาหลีเจ้าแรกๆ ที่เข้ามาตีตลาดไทยในฐานะร้านอาหารเชน มีจำนวนสาขาเยอะมากถึง 122 แห่ง แต่หลายปีมานี้ตลาดไก่ทอดโดยเฉพาะไก่เกาหลีเริ่มมี “Market Competitor” เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จำนวนสาขายังน้อยกว่าบอนชอนหลายเท่าตัว ทว่า ก้อนเค้กที่มีขนาดเท่าเดิมแต่กลับต้องแบ่งแชร์ออกไปก็ทำให้สมรภูมินี้ดุเดือดมากขึ้น นี่ยังไม่นับรวมแบรนด์ไก่ทอดจีนที่ตีตลาดด้วยกลยุทธ์ “Price Point” แบบเข้าถึงได้ทุกกลุ่มอีกด้วย

“อนุพนธ์ นิธิยานันท์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ไมเนอร์ ฟู้ด ประเทศไทย บริษัทแม่ของไก่บอนชอนฉายภาพกว้างตลอดปีที่ผ่านมาให้ฟังว่า กลยุทธ์ตอนนี้ไม่ใช่การเพิ่มยอดใช้จ่ายต่อบิลหรือต่อหัวแต่เป็นการเพิ่มจำนวนลูกค้าภายในร้าน ทำแบบนี้จะยั่งยืนกับแบรนด์มากกว่า ซึ่งปีที่ผ่านมา “บอนชอน” มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 11% ถือเป็นสัดส่วนที่เยอะพอสมควรเมื่อเทียบกับภาพการแข่งขันในปัจจุบัน 

จำนวนสาขาที่เยอะกว่า ทั่วถึงมากกว่า เป็นข้อได้เปรียบของ “บอนชอน” แต่การไปตลาดต่างจังหวัดก็ไม่ง่าย “อนุพนธ์” บอกว่า ที่ผ่านมาต้องปรับเกมกันเยอะพอสมควร เจออินไซต์ที่แตกต่างจากการทำตลาดในกรุงเทพฯ อย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ศัพท์แสงภาษาเกาหลีในเล่มเมนูเยอะๆ อาจทำให้ลูกค้าไม่เห็นภาพว่า อาหารที่ได้รับมีหน้าตาหรือรสชาติอย่างไร จึงเปลี่ยนจากการใช้ภาษาเกาหลีเป็นชื่อเมนูง่ายๆ รวมถึงทำภาพเมนูให้ลูกค้าเห็นวัตถุดิบแล้วรู้สึกถึงความคุ้มค่าที่จะสั่งกิน เป็นต้น

‘Bonchon’ ลูกค้าเยอะขึ้น เพราะเลิกเก็บ ‘Service Charge’ ? ขายดีที่สุดอยู่ที่สาขา ‘Zpell’

นอกจากนี้ เทรนด์การกินคนเดียวแบบ “Single Portion” ก็มาแรง ปลายปีที่ผ่านมาจึงออกเมนู “รามยอน” เปลี่ยนภาพจำที่ผู้บริโภคเคยมองว่า บอนชอนต้องมากินเป็นกลุ่มเท่านั้น ทำให้ลูกค้าสบายใจ เดินเข้าร้านมาแค่ 1-2 คนก็สั่งเมนูทานง่ายๆ ได้ ที่สำคัญ การเพิ่มเมนูจานเดียวยังดึงลูกค้าเข้าร้านในช่วงระหว่างวันได้ ไม่จำเป็นต้องมากินแค่ตอนเย็นหรือมื้อพิเศษเท่านั้น

สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักๆ ของ “บอนชอน” ผู้บริหารบอกว่า มีสัดส่วนเป็น Gen Z เกือบๆ 70% นอกนั้นก็เป็น Gen Y และ Gen X คละเคล้ากันไป โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยชอบกินบอนชอนมาก แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า การมีกลุ่มเป้าหมายเป็น Gen Z ก็ทำให้เดินเกมยากอยู่ไม่น้อย เพราะธรรมชาติของวัยรุ่นมี Loyalty ต่ำ กินแบรนด์เราเสร็จแล้วก็หันไปลองแบรนด์อื่นต่อ

ทว่า ข้อดีคือกลุ่มนี้มี Adoption Rate สูง ลองเปิดใจสั่งเมนูใหม่ๆ ตลอด ไม่ว่าจะเป็นกุ้งดองหรือปลาดิบ ถ้าเป็นกลุ่มอื่นเดินเข้าบอนชอนอาจจะไม่สั่ง แต่ Gen Z สั่งกินเรื่อยๆ แถมกลุ่มนี้ยังมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ด้วย

เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากวัยรุ่น สาขาที่ขายดีที่สุดจึงอยู่ที่ “Zpell” ศูนย์การค้าเฟสใหม่ในเครือฟิวเจอร์พาร์ครังสิต “อนุพนธ์” บอกว่า เพราะแถวนั้นมีมหาวิทยาลัยหลายแห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นต้น

‘Bonchon’ ลูกค้าเยอะขึ้น เพราะเลิกเก็บ ‘Service Charge’ ? ขายดีที่สุดอยู่ที่สาขา ‘Zpell’ -รามยอน เมนู Single Portion สำหรับทานคนเดียว-

รองลงมา ได้แก่ “สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว” และ “สาขาเซ็นทรัลพระราม 2” ส่วนยอดการสั่งซื้อต่อหัวสูงๆ จะไปกระจุกอยู่สาขาที่มีสัดส่วนเดลิเวอรีเยอะๆ ซึ่งเป็นโซนใจกลางเมือง จากพฤติกรรมการสั่งกินที่มีทั้งสั่งพร้อมกันหลายคน หรือสั่งคนเดียวแต่เก็บไว้กินวันอื่นๆ ด้วย

เรื่องความท้าทายของตลาดไก่ทอดเกาหลีที่กำลังเจอ ผู้บริหารให้ความเห็นว่า “บอนชอน” อยู่ในตลาดนี้มา 14 ปี เห็นมาหมดแล้วทุกความเคลื่อนไหว ตลาดไก่ทอดมีมูลค่าสูง มีความน่าสนใจ จึงดึงดูดผู้เล่นใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ ความท้าทายอีกอย่าง คือต้นทุนที่สูงขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเจอตลอดอยู่แล้ว รวมถึงค่าแรงที่บอนชอนต้องใช้แรงงานมีทักษะ ตั้งแต่ทาซอสเคลือบไก่ คลุกเคล้า ทอดไก่ ฯลฯ การจัดการปัญหาก็เป็นเช่นเดิม คือบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดี

ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่มีการปรับขึ้นราคาในปีนี้อย่างแน่นอน มองว่า ตลาดอ่อนไหวมาก ไม่ได้แข็งแรงมากพอที่จะปรับราคาสูงกว่านี้ได้ พร้อมเน้นย้ำว่า นับจนถึงขณะนี้ “บอนชอน” ไม่มี “Service Charge” มา 1 ปีเต็มแล้ว เชื่อว่า เป็นอีกส่วนที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้าร้านง่ายขึ้น

‘Bonchon’ ลูกค้าเยอะขึ้น เพราะเลิกเก็บ ‘Service Charge’ ? ขายดีที่สุดอยู่ที่สาขา ‘Zpell’

ด้านแผนการตลาดในปีนี้ “อนุพนธ์” บอกว่า จะเปิดเพิ่มอีก 20 สาขา มีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดผสมกัน ส่วนการเปิดที่ต่างจังหวัดจะเป็นทางไมเนอร์ฟู้ดไปเปิดเองหรือขยายผ่านแฟรนไชส์ในท้องถิ่นให้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม หากผู้ประกอบการในพื้นที่มีศักยภาพที่ดีพอก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องจำกัดไว้กับแบรนด์แม่ ส่วนการเลือกโลเกชันเน้นเจาะโซนที่มีลูกค้าวัยรุ่นเป็นหลัก

สำหรับการมาถึงของแบรนด์ไก่ทอดจีนที่เริ่มรุกคืบแล้ว เชื่อว่า จะไม่กระทบกับบอนชอนมากนัก มองว่า กลุ่มเป้าหมายเป็นคนละส่วน และก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีแค่แบรนด์จีน ตลาดไก่ทอดมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้ามากกว่าว่า อยากกินรสชาติแบบไหน

“ไม่คิดว่า แบรนด์จีนจะกลบกระแสเกาหลีได้ วันนี้ก็เข้ามาเต็มไปหมด เกาหลีก็มีทางของเขา จีนก็มีทางของเขาซึ่งดูเหมือนจะเป็น Unique ถ้าเรายังคงความเป็นไก่เกาหลีที่ชัดเจน จีนก็แย่งไปไม่ได้ ตราบใดที่เรายังคงความเป็น “Korean Inspiration” อยู่ มันคนละทางกัน หรือไก่ทอดเกลือแบบญี่ปุ่นก็กำลังมา Gen Z ก็มีไปกินบ้าง”