เปิดศึกชิงบัลลังก์ ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ! เมื่อยักษ์ค้าปลีก

สมรภูมิ ไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟเดือด! เมื่อ 4 ยักษ์ค้าปลีก ซีพี เซ็นทรัล อิเกีย คาราบาว กรุ๊ป แห่เปิดสาขา ชิงทำเลทอง สงครามราคา ท้าชนผู้นำทั้งแบรนด์แดรี่ควีน - แบรนด์จีน

เจาะสมรตลาดไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ (Soft Serve) ในประเทศไทยปี 2568 ตลาดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง จากแบรนด์ขนาดใหญ่เข้ามาชิงตลาดเต็มสูบ โดยเฉพาะจากกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศ ทั้งจาก 4 กลุ่ม ซีพี เซ็นทรัล อิเกีย และคาราบาว กรุ๊ป

เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมตลาดร้านเครื่องดื่ม ที่รวมร้านเบเกอรี่ และไอศกรีม จากการรายงานของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมิน ตลาดรวมในปี 2568 มีมูลค่าประมาณ 85,320 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 3.2% เมื่อเทียบกับปี 2567 มาจากทั้งการขยายสาขา ทั้งผู้ประกอบรายใหญ่และรายเล็ก รวมถึงการขยายแฟรนไชส์ของเครื่องดื่มจากต่างชาติในไทยเพิ่มขึ้น จึงทำให้ผู้บริโภคสนใจเครื่องดื่มและไอศกรีมแบรนด์ต่างๆ

เปิดศึกชิงบัลลังก์ ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ! เมื่อยักษ์ค้าปลีก - แบรนด์จีนแห่บุก

จากแดรี่ควีน ผู้นำ แบรนด์จากสหรัฐ ปะทะ แบรนด์จีน Mixue ท้าชิงไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ

ทั้งนี้จากตลาดเครื่องดื่มและไอศกรีมของไทยที่มีศักยภาพขยายตัวในทุกปี โดยเฉพาะ ไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ ที่มีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาขยายมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจน กับแบรนด์ใหม่จากประเทศจีน ได้ปักหมุดรุกเปิดในไทย ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา กับแบรนด์แรกคือ มี่เสวี่ย (Mixue) ยักษ์ใหญ่แดนมังกร ที่มีสาขามากสุดในโลก ในไทยได้มุ่งขยายตามทำเลชุมชนต่างๆ มีทั้งเครื่องดื่มและไอศกรีม ในราคาแบบประหยัด ต่อมามีแบรนด์อื่นๆ จากจีนเข้ามารุกลงทุนอย่างต่อเนื่องในไทย ร่วมผลักดันให้ตลาดไอศกรีมไทยเปลี่ยนโฉมไป โดยมีเซกเมนต์ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ครองส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น

แต่การเข้ามาขยายไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ ของแบรนด์จากจีนไม่ใช่รายแรกของไทย โดยเมื่อย้อนกลับแบรนด์แรกที่บุกเบิกธุรกิจไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ ในไทยเจ้าแรกคือ แดรี่ ควีน (Dairy Queen) แบรนด์แฟรนไชส์รายใหญ่ในโลก ที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ ก่อนขยายไปในประเทศต่างๆ จำนวนกว่า 30 ประเทศแล้ว ซึ่งปัจจุบันเจ้าของแบรนด์คือ "เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์" (Berkshire Hathaway Inc.) กลุ่มโฮลดิ้งคอมพานี ที่มีซีอีโอคือ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” มหาเศรษฐีในโลก

สำหรับตลาดในประเทศไทยได้มีการเข้าทำตลาดราว 30 ปีก่อน หรือในช่วงปี 2539 โดย บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ได้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์เข้ามาเปิดในไทย ทำให้ไอศกรีม “แดรี่ ควีน” ขยายในไทยอย่างรวดเร็วและทำให้คนในประเทศรู้จัก วางราคาเริ่มต้นที่ 12 บาท ในปัจจุบันมีสาขาในไทยมากกว่า 500 สาขา ทั้งลงทุนเองและสาขาในแบบแฟรนไชส์ สำหรับไอศกรีมของ แดรี่ ควีน ที่มีจุดแข็งกับ รสชาติดั้งเดิมวานิลลา และรสชาติช็อกโกแลต รวมถึงมีการออกรสชาติใหม่ตามเทศกาลต่างๆ เช่น ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ รสชาติน้ำเต้าหู้ ราคา 20 บาท รับกระแสคนไทยใส่ใจดูแลสุขภาพ แต่ออกเป็นช่วงเวลา ในปัจจุบัน แดรี่ควีน ถือเป็นผู้นำตลาดไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ ในไทย

กลุ่มคิวเอสอาร์มาทุกแบรนด์ แมคโดนัลด์ - เคเอฟซี - เบเกอร์คิง

ต่อมาจึงมีแบรนด์อื่นๆ เข้ามาแตกไลน์ขยายเมนูไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ หรืออีกชื่อว่า ไอศกรีมโคน อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มคิวเอสอาร์ (QSR :Quick Service Restaurant) ทั้งจากแบรนด์ "แมคโดนัลด์" แบรนด์ใหญ่ในโลกจากสหรัฐ ซึ่งในไทยมี บริษัท แมคไทย จำกัด ร่วมบริหาร โดยมีธุรกิจทั้งไก่ทอด และเครื่องดื่ม เป็นตัวแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าแล้ว จากนั้นได้แตกไลน์ขนมหวานสู่ไอศกรีม กำหนดราคาเริ่มต้นที่ 12 บาท ในปัจจุบันมีเปิดให้บริการใน 240 สาขาทั่วประเทศ

ขณะที่แบรนด์ไก่ทอด เคเอฟซี ที่มี 3 เชนผู้ได้รับสิทธิ์บริหารร้านไก่ทอดเคเอฟซีในไทย มีเมนูไก่ทอด ร่วมชูโรงแล้ว ได้ขยายสู่ ไอศกรีม เริ่มต้นราคา 12 บาทกับ โคนวานิลลา และโคนดิป ช็อกโกแลต ราคา 19 บาท ในปัจจุบันมีสาขาในเคเอฟซี ประมาณ 383 สาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ เบอร์เกอร์คิง แบรนด์ร้านอาหารเบอร์เกอร์ชื่อดัง ของกลุ่มไมเนอร์ฯ เช่นกัน ได้ขยายสู่ไอศกรีม ราคา 12 บาท ทั้งนี้ในแต่ละแบรนด์ต่างเน้นการออกรสชาติใหม่เข้ามากระตุ้นตลาดไอศกรีม และมุ่งทำโปรโมชันตามเทศกาลสำคัญอย่างต่อเนื่อง

สมรภูมิใหม่ค้าปลีก ซีพี แอ็กซ์ตร้า - ท็อปส์ - อิเกีย - ซีเจ แห่ชิงขยายแบรนด์เต็มพื้นที่

จนถึงในช่วง 1-2 ปีนี้ ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกไทย ได้เข้ามาโดดแข่งขันในตลาดไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ เช่นกัน แบบครบทุกแบรนด์

กลุ่มซีพี โดย บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ที่มีธุรกิจค้าปลีกทั้ง แม็คโคร และโลตัส รวมทั้งหมดกว่า 2,600 สาขาในทั่วประเทศ ที่มีธุรกิจอาหารในเครือและสินค้าโอนแบรนด์ ผลิตเองหลากหลายรายการ ได้มองโอกาสของตลาด ไอศกรีม ที่กำลังมาแรง จึงร่วมมือกับ ซีพี เมจิ ขยายสู่การเปิดแบรนด์ ไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ในรูปแบบช้อปขนาดเล็ก เปิดตามสาขาของแม็คโครและโลตัส ในปัจจุบันมีสาขาเปิดให้จำนวนกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งได้ชูกลยุทธ์ทางด้านราคา โดยมาในราคาที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ คือ 8 บาทเท่านั้น และมีส่วนผสมจากนมของ ซีพี เมจิ

ทางด้านกลุ่มเซ็นทรัล โดย ท็อปส์ ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต จาก บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ เซ็นทรัล รีเทล ที่มีสาขาในทุกฟอร์แมตรวม 719 สาขาในไทย ได้มีการขยายไปสู่ ไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ อย่างเป็นทางการ โดยกำหนดราคา 12 บาท มีรสชาติหลากหลายทั้ง ออริจินอลจากครีม รสวานิลลา และชาเขียว ผ่านการนำใช้อูจิมัทฉะแท้ ส่งตรงจากญี่ปุ่น พร้อมวางกลยุทธ์เปิดในสาขาของ ท็อปส์ เดลี่ ในเบื้องต้นได้เปิดไปแล้ว 84 สาขาทั่วประเทศ ทั้ง กทม. ภูเก็ต ชลบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา และเชียงใหม่

สงครามราคา 8 บาท ที่เดือดสุดในรอบปี

ส่วนบิ๊กวงการค้าปลีกสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน กับ “อิเกีย” (IKEA) โดยบริษัท อิคาโน่ (ประเทศไทย) จำกัด จากสวีเดน ที่มีสินค้าหลักกับกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าของตกแต่งบ้าน รวมถึงกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มได้มีการขยายไปสู่การทำ เมนูยอดนิยมของคนไทยกับ ไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ จากถั่วเหลือง มาในราคาเริ่มต้นที่ 8 บาท ชูจุดแข็งของแบรนด์ที่เป็น ไอศกรีม เน้นสายเพื่อสุขภาพ ส่วนสาขาที่มีทำตลาด ยังมีจำนวนน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับแบรนด์ค้าปลีกรายอื่นๆ ซึ่งในปัจจุบันมีใน 5 สาขา ประกอบด้วย อิเกีย บางนา, อิเกีย บางใหญ่, อิเกีย สุขุมวิท, อิเกีย ภูเก็ต และอิเกีย เชียงใหม่

รวมถึง กลุ่มคาราบาว กรุ๊ป ที่มีธุรกิจค้าปลีกผ่าน “ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต”, ซีเจ เอ็กซ์ และซีเจ มอร์ จาก บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ได้ขยายสู่ตลาด ไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ ภายใต้แบรนด์ “เถียนเถียน” (Tian Tian) ราคาเริ่มต้นที่ 15 บาท กับไอศกรีมที่มากับ รสชาติชาไทย เป็นรสชาติหลักดึงดูดกลุ่มลูกค้า ได้เริ่มเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปีก่อน โดยในปัจจุบัน มีสาขามากกว่า 84 สาขาแล้วในทั่วประเทศ

ทั้งนี้ท่ามกลางการเข้ามารุกชิงตลาดไอศกรีมของไทย จากยักษ์ใหญ่ค้าปลีกที่เข้ามาเปิดเองทั้งหมด ที่มีข้อได้เปรียบที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะทำเลทอง จึงสามารถขยายฐานลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียงและลูกค้าสมาชิก

ทำให้ สมรภูมิของไอศกรีม ซอฟต์เสิร์ฟ ของไทยแข่งขันดุเดือดมากขึ้นไปอีก เนื่องจาก การเป็นไอศกรีมที่กำหนดราคาไม่แพง ซื้อง่าย ขายคล่อง สามารถเข้าถึงตลาดแมสในวงกว้างได้ทุกกลุ่ม รวมถึง ช่วงหน้าร้อนกลุ่มเครื่องดื่มและไอศกรีม ต่างเป็นหนึ่งในเมนูท็อปฮิต แต่อีกด้านการเปิดสาขาจำนวนมาก และมีผู้แข่งขันในตลาดที่มีมากขึ้น ทั้งจากไทย จีน และนานาประเทศ ทำให้แบรนด์ที่อยู่รอดได้ในตลาด ต้องแข็งแกร่งและมีความพร้อมปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงต้องบริหารจัดการต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้สามารถรักษาผลประกอบการและกำไรได้ดีระยะยาว