ซีอีโอ ‘ดิอาจิโอ’ ยกไทยตลาดสำคัญ จับตาพรบ.น้ำเมา ปลดล็อกธุรกิจ

ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยมูลค่าหลัก “หลายแสนล้านบาท” เฉพาะเบียร์มากกว่า 2 แสนล้านบาท สุราขาวอีกกว่า 1 แสนล้านบาท ทว่า ตลาดยังมีหมวดอื่นๆ มายมาย เช่น สุราสี จิน(Jin) รัม แชมเปญ ไวน์ ไฮบอล ฯ

“ดิอาจิโอ” คือยักษ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับโลก ที่มีโปรดักท์ในพอร์ตโฟลิโอมากมาย และยังทำตลาดในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึง “ไทย” เป็นอีกฐานทัพสำคัญในภูมิภาค

เมื่อเร็วๆนี้ แม่ทัพธุรกิจและขุนคลัง หรือ ซีอีโอ และ ซีเอฟโอ ของดิอาจิโอ ได้มาเยี่ยมเยือนธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญ โดยเฉพาะแบรนด์ “จอห์นนี่ วอล์กเกอร์” ผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งทางการแข็งแกร่งติดท็อป 10 ของโลก

ชัชฎา จันทรางศุ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การที่ซีอีโอ และซีเอฟโอ มาเยี่ยมเยือนธุรกิจในประเทศไทย เพราะเห็นการเติบโตของตลาดค่อนข้างมาก อีกทั้งไทยให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สอดคล้องกับนโยบายบริษัท รวมถึงเห็นเทรนด์ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เซ็กเมนต์พรีเมียมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวไม่ได้มองเพียงหมุดหมายปลายทางการเดินทางเท่านั้น แต่การจะเที่ยวเดสทิเนชันใด จะพิจารณาอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังมองการเข้าถึงสินค้าและบริการด่วย รวมถึงการมอง ความคุ้มค่าในการใช้จ่าย ที่ตอบไลฟ์สไตล์การเดินทางด้วย

“ผู้บริหารของดิอาจิโอระดับโลกมาเยือนเมืองไทย เพราะมองตลาดมีความแตกต่าง รวมถึงเห็นศักยภาพในการเติบโต”

จากเทรนด์ข้างต้น ทำให้ดิอาจิโอ มุ่งกลยุทธ์นำเสนอสินค้า และเสิร์ฟประสบการณ์พรีเมียมมากขึ้น ที่ผ่านมา มีการนำเข้าสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเฉพาะหรือนิช มาร์เก็ตดังกล่าวด้วย เช่น นำเข้าซิงเกิลมอลต์ สก๊อตวิสกี้ ลิมิเต็ด เอดิชั่นเซ็ทราคาหลัก “แสนบาท” เจาะผู้บริโภคลักชัวรี ที่ยังมีกำลังซื้อสูง

นอกจากนีั ยังมีการนำเสนอสินค้าใหม่ๆเสริมพอร์ตโฟลิโอ ทั้งกลุ่มเตกิลา รับกับเทรนด์ผู้บริโภคชาวไทย ที่กำลังเดินตามเทรนด์ผู้บริโภคในโลก รวมถึงสินค้าอื่นๆ เช่น จิน รัม ซิงเกิลมอลต์ เป็นแคทิกอรีที่ขยายตัว รวมถึงไวน์ หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรับลดภาษีนำเข้า หนุนตลาด แต่สัดส่วนยังคงเล็ก

“ปัจจุบันผู้บริโภคเลือกดื่มสินค้าแคทิกอรีต่างๆตามโอกาสหรือ occasion มากขึ้น เช่น อยากชิลล์ ดื่มกับเพื่อนจะเป็นค็อกเทล ดื่มเพื่อจับคู่อาหารแบบไหน หรือไปผับบาร์ สถานบันเทิง ต้องการเอนเนอร์ยี ตื๊ดๆ ก็จะเลือกเตกิลา สอดคล้องกับเทรนด์ต่างประเทศที่โต และเริ่มเห็นเตกิลาบนเชลฟ์มากขึ้น”

ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย กำลังมีความเคลื่อนไหวสำคัญ เมื่อภาครัฐอยู่ระหว่างพิจารณา (ร่าง) พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่...)พ.ศ....ซึ่งจะสร้างการเปลี่ยนแปลงกฎ กติกาในการควบคุมน้ำเมาในไทย โดยเฉพาะสิ่งที่ผู้ประกอบการจับตาคือ “มาตรา 32” เกี่ยวกับการห้ามโฆษณา ที่อาจจะ “ปลดล็อก” รวมถึงขอบเขต “เวลาห้าม” จำหน่ายช่วง 14.00-17.00 น. ในจังหวัดต่างๆ เช่น เมืองท่องเที่ยว รวมถึงช่องทางขายต่างๆ อย่างร้านอาหารอาจได้รับอานิสงส์ หากมีการขยายเพิ่มเวลาขาย เป็นต้น

ทั้งนี้พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ มาตรา 32 ใช้มายาวนานตั้งแต่ปี 2551 หากย้อนอดีต การสร้างแบรนด์สื่อสารกับผู้บริโภค จะเน้นสร้างแรงบันดาลใจ เล่าประวัติศาสตร์ มูลค่าเพิ่มที่แตกต่างของสินค้าให้รับรู้ หากปลดล็อกได้ จะผลักดันให้ทั้งแบรนด์ใหญ่และแบรนด์เล็กเติบโตได้ เช่น สุราพื้นบ้าน สุราชุมชน

“หากปลดล็อกมาตรา 32 ภาพตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจเปลี่ยนไป เพราะขณะนี้เอเยนซีที่ทำแคมเปญการตลาดมีความตื่นเต้น จากที่ผ่านมาการโฆษณาทั้งรายเล็กรายใหญ่เจอข้อจำกัดเดียวกัน หากคลายล็อก การสื่อสารจะต้องป้องกันเยาวชนในการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกรายต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ส่วนตลาดจะเติบโตแค่ไหน มองว่ายังมีปัจจัยอื่น ทั้งเศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภคเป็นตัวแปรด้วย แต่ก็ขอบคุณรัฐบาลที่ต้องการดึงนักท่องเที่ยว สร้างเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ จึงเข้าใจในส่วนนี้”

สงกรานต์ไม่เพียงเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ไทย กิจกรรม การเดินทางมาก และสร้างเม็ดเงินสะพัด ยังเป็นห้วงเวลาที่คนจับจ่ายใช้สอย รวมถึงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ “ดิอาจิโอ” จึงเดินหน้าจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น DRINKiQ ดื่มอย่างมีสติ การสานต่อ Wrong Side of the Road ไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อให้คนเข้าถึงการปรับทัศนคติ ให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับการเมาแล้วขับ ตั้งเป้าเจาะกลุ่มเป้าหมาย 2 หมื่นคนต่อปี และการนำแบรนด์สเมอร์นอฟ ไปร่วมอีเวนต์สงกรานต์ที่เชียงใหม่ และอาร์ซีเอ

“คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการดื่มอย่างรับผิดชอบ อย่าง DRINKiQ ทัศนคติคนรุ่นใหม่จะไม่ค่อยขับรถไปดื่ม มิชชั่นของเรายังเดินหน้าส่งเสริมเรื่องนี้”