'เซกิ ซูชิ’ ดันยอดขายแตะ 500 ล้านบาท สานฝันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

'เซกิ ซูชิ’  ดันยอดขายแตะ 500 ล้านบาท สานฝันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายแพทย์อภิรุจ ลุยธุรกิจร้านอาหาร ลุยเปิด "เซกิ ซูชิ" 4-5 สาขาใหม่ ต่อจิ๊กซอว์ทำเงินสู่ 500 ล้านบาท พร้อมสานเป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์

ธุรกิจร้านอาหารมูลค่าราว 4 แสนล้านบาท ผู้ประกอบการยังคงโอกาสในการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่หมวดร้านอาหารนับวันมีความหลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารจีน อาหารเกาหลี และอาหารญี่ปุ่น เป็นต้น

เจาะลึกหมวดร้านอาหารญี่ปุ่น ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ ซึ่งทำการสำรวจร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยประจำปี 2567 มีจำนวนมากถึง 5,916 แห่ง เพิ่มขึ้น 2.9% จากปี 2566

ร้านอาหารญี่ปุ่นนอกจากมีแบรนด์ต้นตำรับ ผู้ประกอบการแดนซามูไรมาเปิดร้าน ขยายน่านน้ำธุรกิจแล้ว “ผู้ประกอบการไทย” ที่หลงใหลกับรสชาติปลาดิบ อาหารญี่ปุ่น ก็มีการเปิดร้าน สร้างแบรนด์เองเพื่อลงสนามรบด้วย

\'เซกิ ซูชิ’  ดันยอดขายแตะ 500 ล้านบาท สานฝันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

“เซกิ ซูชิ”(SUSHI SEKI) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ปลุกปั้นโดยทุนไทย และ “หมอนักธุรกิจ” นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เดอะเรสเตอร์รองท์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้าน “เซกิ ซูชิ” ซึ่งมี Passion ด้านการรับประทานอาหารญี่ปุ่น และมองการเปิดร้านเพราะต้องการตอบโจทย์ Pain point ของตัวเองทั้งรสชาติที่ถูกปาก และ “วัตถุดิบคุณภาพตรงใจ” ยังเป็นจิ๊กซอว์การต่อยอดธุรกิจสร้างการเติบโต

ปี 2568 “เซกิ ซูชิ” วางแผนขยายสาขาใหม่ 4-5 สาขา เพื่อสนองกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมียม จากปัจจุบันมีร้านให้บริการลูกค้า 7 สาขา เช่น ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เอ็มคอวเทียร์ และเมกา บางนา ฯ โดยการลงทุนร้านใหม่จะใช้งบลงทุนประมาณ 15-20 ล้านบาท ส่วนพื้นที่จะอยู่ระดับ 150 ตารางเมตร(ตร.ม.)

\'เซกิ ซูชิ’  ดันยอดขายแตะ 500 ล้านบาท สานฝันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

“การทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดจากการชอบทาน และปีนี้แผนต้องการขยายสาขาให้มาก เมื่อก่อนตอนดูแลร้านเอง การพัฒนาเมนูใหม่จะอยู่ที่ 2-5 รายการต่อเดือน ปัจจุบันมีมืออาชีพทำหน้าที่บริหาร ช่วยให้การรังสรรค์เมนูใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 10-20 รายการต่อเดือน”

ท่ามกลางเศรษฐกิจ กำลังซื้อที่เป็นความท้าทายในการเคลื่อนธุรกิจปี 2568 แต่ “เซกิ ซูชิ” ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากแบรนด์อยู่ในเซ็กเมนต์พรีเมียม จับกลุ่มเป้าหมายกำลังซื้อสูง อีกทั้งเมื่อดู “คู่แข่ง” ในตำแหน่งเดียวกันมีเพียง 2-3 แบรนด์เท่านั้น อีกทั้งบริษัทมีการจัดกิจกรรมการตลาดกระตุ้นยอดขายผ่าน “SEKI x Ling Orm Very Exclusive Moment” ตั้งแต่ระหว่างวันที่ 26 ม.ค.- 9 มี.ค.2568 ได้การตอบรับจากแฟนคลับ “หลิงหลิง-ออม” ดีมาก บางรายยอดซื้อบัตรกำนัล(voucher)สูงถึงหลัก “ล้านบาท” เพื่อให้ได้นั่งรับประทานอาหารใกล้ชิดกับนักแสดง ศิลปินคนโปรด

นอกจากนี้ ยังมองโอกาสต่อยอดแบรนด์ “เซกิ” ไปสู่ “ร้านชาบู” ด้วย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดตลาด แต่คาดว่าจะเห็นการเปิดสาขาแรกภายในปีนี้ รวมถึงมองการปลุกปั้น “ร้านอาหารไทย” ด้วย ส่วนสาขาแรกคาดว่าจะเห็นในปี 2569

\'เซกิ ซูชิ’  ดันยอดขายแตะ 500 ล้านบาท สานฝันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

“ปีนี้จะเห็นร้านชาบูก่อน เนื่องจากมีการแบ่งปันและใช้วัตถุดิบกับร้านเซกิได้ โดยแนวคิดการเปิดร้านอาหารทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น ชาบู ร้านอาหารไทย ล้วนเกิดจากความชื่นชอบของตัวเอง ต้องการทานรสชาตินี้ วัตถุดิบแบบนี้ จึงให้เชฟทำหน้าที่สร้างสรรค์แต่ละเมนู เพื่อชิมและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะส่วนตัวมีการเข้าไปดูแลและรับประทานอาหารที่ร้านเป็นประจำอยู่แล้ว เห็นจุดไหนปรับปรุงได้ ก็ทำให้ดีขึ้น”

สำหรับการเปิดร้านเซกิ ซูชิในปี 2568 คาดว่าจะผลักดันยอดขายแตะระดับ 500 ล้านบาท จากปี 2567 มียอดขายราว 300 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นเซกิ ซูชิ ถือว่ามีการเติบโตหลัก 100% เนื่องจากฐานยังเล็ก ในอนาคต ยังมีความมุ่งหวังผลักดันให้ธุรกิจร้านอาหารเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย ซึ่งต้องใช้เวลาเตรียมตัวอีกระยะ

\'เซกิ ซูชิ’  ดันยอดขายแตะ 500 ล้านบาท สานฝันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

“ก็มีแพลนจะนำธุรกิจร้านอาหารเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตอนนี้ดูแลแบบค่อยเป็นค่อยไป”

สำหรับ “นายแพทย์อภิรุจ” มีธุรกิจหลากหลายทั้ง นำทัพคลินิกเวชกรรมด้านผิวหนัง ความงาม ศัลยกรรมตกแต่ง ฯ ภายใต้แบรนด์ “เดอะคลินิกค์” อาณาจักร 3,000 ล้านบาท ธุรกิจร้านอาหาร และยังมีธุรกิจสปา ซึ่งอยู่ในเซ็กเตอร์ “ภาคบริการ” โดยอนาคต ยังมองโอกาสการผลิตสินค้าในหมวดสุขภาพและความงาม(บิวตี้) เจาะตลาดใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภค(FMCG) เพื่อจำหน่ายใน “ภาคค้าปลีก” บ้าง