โมโต จีพี VS เอฟวัน สู่วาทกรรมการเมือง 'หมาเห็นเครื่องบิน'

การต่อสัญญา "โมโต จีพี" เป็นเกมต่อรองการเมือง และวิวาทะของ "แดง-น้ำเงิน" พรรคเพื่อไทย และ "พรรคภูมิใจไทย" เมื่อรัฐบาลซุ่มเจรจาจัด F1 ถูกยกเป็น "หมาเห็นเครื่องบิน"
ครูใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทย อย่าง “เนวิน ชิดชอบ” ทิ้งบอมบ์กดดันรัฐบาลและ พรรคเพื่อไทย ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ลุงเนวิน" กรณีรัฐบาลจะไม่ต่อสัญญาการแข่งขันจักรยานยนต์ระดับโลกรายการ “โมโต จีพี”(MotoGP) อีกแล้ว
โดยปี 2569 จะเป็นการแข่งขันที่ไทยเป็นครั้งสุดท้าย และทิ้งประโยค“รู้สึกเสียดาย” ที่จะไม่มีอีเวนต์ระดับโลก ทั้งที่รัฐบาลลงทุนปีละไม่เกิน 500 ล้านบาท แถมมหกรรมใหญ่ยังมีเอกชนร่วมด้วยช่วยสนับสนุนไม่น้อยกว่าปีละ 300 ล้านบาท พร้อมยกความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ การสร้างเงินทุนหมุนเวียน ส่งเสริมธุรกิจ รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
ทว่า ยังมีวาทะเด็ด “หมาเห็นเครื่องบิน” จากฝั่งลุงเนวิน เป็นการแซะกรณีที่รัฐบาลต้องการเดินหน้าผลักดันประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 หรือ F1(FORMULA 1)
“รัฐบาลก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเอายังไงกับการจัดการแข่งขัน MotoGP ซึ่งประสบความสําเร็จ สร้างรายได้การท่องเที่ยวให้กับประเทศอย่างเป็นรูปธรรมมาแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลพยายามจะไปทำฟอร์มูลาวัน เราก็จะเห็นได้ว่า หลายๆ ประเทศที่เคยจัดฟอร์มูลาวัน ก็เริ่มหยุด เพราะว่าการตลาดมันแคบ ความมีอารมณ์ร่วมมันแตกต่างจาก MotoGP โดยสิ้นเชิง MotoGP ทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้าของ ได้สัมผัสได้ใกล้ชิด แล้วก็ซึมซับ แต่ฟอร์มูลาวัน มันเหมือนหมาเห็นเครื่องบิน ขอดูครั้งเดียวแล้วพอ”
ต่อประเด็นร้อนซื้อลิขสิทธิ์เป็นเจ้าภาพการแข่งขันโมโต จีพี และประโยคเชือดเฉือน “หมาเห็นเครื่องบิน” ทำให้นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แสดงความเห็นกลับว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นชาวมอเตอร์ สปอร์ตเต็มตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องการต่อสัญญาเจ้าภาพโมโต จีพี เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ประเทศชาติ แต่การต่อสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ต้องหารือในรายละเอียดที่มีมากพอสมควร
นอกจากนี้ ยังบอกว่า ไม่ควรนำ “โมโต จีพี” ไปเปรียบเทียบกับ “F1” หากเป็นคนมอเตอร์ สปอร์ตจริง จะไม่พูดแบบนี้ เช่นเดียวกับการใช้วาทกรรมเหมือนหมามองเครื่องบิน
“มุมมองผม ไม่ควรนำโมโต จีพีไปเปรียบเทียบกับเอฟวัน คนมอเตอร์ สปอร์ตจริง ไม่พูดแบบนี้ ส่วนการพูดว่าเหมือนหมามองเครื่องบินอะไรอย่างนี้ อย่างน้อยสุด ก็ได้มองนะครับ”
พร้อมสำทับว่า หากเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะจัดบิ๊กอีเวนต์ด้านกีฬาระดับโลก จะโมโต จีพี และ เอฟวัน ทั้งแข่งขัน 2 ล้อ และ 4 ล้อ สำหรับภาคท่องเที่ยวอยากให้เกิดขึ้นทั้ง 2 กิจกรรม
ล่าสุด เพจลุงเนวิน ได้โพสต์ความสำเร็จของการจัดการแข่งขันโมโต จีพี ตลอด 3 วัน(28 ก.พ.- 2 มี.ค.68) มีผู้เข้าชม 224,634 สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต และเป็นสถิติใหม่ของโมโต จีพี สนามแรก ที่สำคัญปลุกเม็ดเงินหมุนเวียนมากกว่า 5,043 ล้านบาท ทั้งภายในจังหวัดบุรีรัมย์ และ จังหวัดอื่นๆ จากนักท่องเที่ยว แฟนๆ ได้เดินทางไปท่องเที่ยวทั้งก่อนและหลังการแข่งขันเสร็จสิ้น







