เอกชนจี้รัฐลดวันพัก ‘ฟรีวีซ่า’ ไม่เกิน 30 วัน กรองนักท่องเที่ยวแท้จริง

ธุรกิจต่างชาติเมืองท่องเที่ยวลาม “ความมั่นคง”

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สถานการณ์ชาวต่างชาติลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยวในไทยตอนนี้ ได้ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาสังคมและปัญหาความมั่นคงตามมา ประเด็นสำคัญคือเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ทุกคนรู้ว่ามีคนไทยเป็นนอมินีประกอบธุรกิจให้ชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วว่าคนไทยที่เข้ามาถือหุ้นในธุรกิจนั้นๆ สัดส่วนมากกว่า 51% เอาเงินจากไหนมาลงทุน ทั้งหมดนี้สามารถควบคุมได้

ทั้งนี้มองว่าการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ควรเป็นการลงทุนใหม่ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่า ไม่ใช่การเปลี่ยนมือเทคโอเวอร์เพียงอย่างเดียว

ซื้อบ้านหรู-จัดรถรับส่งทัวริสต์เต็มรูปแบบ

ส่วนกรณีการนำคอนโดมิเนียมมาปล่อยเช่าห้องพักรายวันแบบผิดกฎหมายแข่งกับโรงแรม โดยบางแห่งเกิดปัญหาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อความรำคาญให้ผู้อยู่อาศัย เช่น ปกติจะเข้าพักกัน 1-2 คนต่อห้อง แต่มาพักจริงมากถึง 10 คนต่อห้องก็มี พบว่าปัญหาการนำคอนโดฯ ปล่อยเช่ารายวันเกิดขึ้นมากที่สุดใน จ.ภูเก็ต และกรุงเทพฯ โดยรูปแบบการทำธุรกิจผิดกฎหมายใน จ.ภูเก็ต มักจะมาจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่เป็นชาวต่างชาติ ปล่อยเช่ารายวันคอนโดฯและพูลวิลล่าให้กับนักท่องเที่ยวจากชาติเดียวกัน

ขณะที่กรุงเทพฯ มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติใช้วิธีการซื้อห้องชุดยกชั้นเพื่อปล่อยเช่ารายวันแบบผิดกฎหมาย นอกจากนี้กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงยังขยายการลงทุนไปยังประเภทบ้านเดี่ยว เช่น ทุนจีน ที่เข้าซื้อบ้านหรูเกือบทั้งโครงการ และจัดบริการรถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ ด้านพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนหน้านี้เคยมีนอมินีต่างชาติทำโรงแรมเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ แต่ปัจจุบันกรุ๊ปทัวร์ลดลง ทำให้นอมินีต่างชาติได้รับผลกระทบตามไปด้วย

“ตอนนี้มีคนต่างชาติบางกลุ่มซื้อโครงการบ้านเดี่ยวเกือบทั้งโครงการ และคอนโดฯ ซื้อห้องชุดยกชั้น ถามว่าใช่การซื้อเพื่อเข้าพักเองหรือไม่ จะนอนเองทั้งหมดได้อย่างไร ดังนั้นรัฐบาลควรออกกฎหมายมากำหนดให้ชัดว่าชาวต่างชาติหนึ่งคนสามารถซื้อที่พักอาศัยได้สูงสุดกี่ยูนิต”

วอนรัฐปรับลดวันพัก “วีซ่าฟรี” ไม่เกิน 30 วัน

นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคเอกชนท่องเที่ยวเห็นด้วยกับรัฐบาลเรื่องมาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) ซึ่งปัจจุบันยกเว้นแก่นักท่องเที่ยวจาก 93 ประเทศ แต่พอเกิดปัญหาชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ในไทยนานเกินไป และพบการทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย แย่งงานแย่งอาชีพคนไทย ประกอบกับชาวต่างชาติที่เข้ามาเพื่อท่องเที่ยวจริงๆ ในไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่เกิน 15 วัน จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนปรับลดวันพำนักในไทยสูงสุดสำหรับการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยว จากสูงสุดไม่เกิน 60 วัน มาเป็นไม่เกิน 30 วันแทน เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและความปลอดภัย เพราะนี่คือความจำเป็นเร่งด่วนของภาคการท่องเที่ยว

การดูแล “ความมั่นคง” ตามไม่ทัน “ฟรีวีซ่า”

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวเสริมว่า ต้องการให้รัฐบาลปรับลดวันพำนักในไทยสูงสุดของมาตรการยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยว 93 ประเทศ ให้เหลือ 30 วันก็เพียงพอแล้ว เพราะปัญหาในตอนนี้คือการดูแลด้านความมั่นคง ตามไม่ทันการเติบโตของนักท่องเที่ยวจากมาตรการหนุนเรื่องยกเว้นวีซ่า

“สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ต้องตรวจสอบว่าเป็นนักท่องเที่ยวจริงหรือไม่ เพราะตอนนี้เกิดปัญหาหลายกรณีกระทบต่อความมั่นคง กฎหมายไทยต้องศักดิ์สิทธิ์ การบังคับใช้กฎหมายต้องตรงไปตรงมา โดยชาวต่างชาติบางส่วนมองว่าประเทศไทยนั้นง่าย ขอแค่มีเงิน ทำอะไรก็ได้ ซึ่งถือเป็นคำพูดที่รุนแรงมาก มันทำให้ประเทศไทยไม่สามารถก้าวสู่อีกระดับได้ก็เพราะปัญหาเหล่านี้ เมื่อเกิดปัญหามากขนาดนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงควรเข้ามาตรวจสอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ความปลอดภัยแก่ประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นแก่ทั้งคนในประเทศและชาวต่างชาติที่ต้องการมาเที่ยวจริงๆ”

“ไทย-จีน” ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ทัวริสต์ยังกลัว

นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า แม้ว่ารัฐบาลไทยได้ร่วมมือกับทางการจีนปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ในประเทศเมียนมา แต่สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยในปัจจุบันยังไม่ดีขึ้น ยังวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยเหมือนเดิม หากความรู้สึกของชาวจีนยังเป็นแบบนี้ต่อไป ก็น่ากังวลถึงภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยตลอดปี 2568 ว่าอาจไปไม่ถึงเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ 8.5-9 ล้านคน โดยจากสถิติเมื่อปี 2562 ก่อนโควิดระบาด มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 20,000-30,000 คนต่อวัน แต่ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวจีนไม่ถึง 10,000 คนต่อวัน สมาคมฯ จึงคาดว่าทั้งปีนี้จะมีจำนวน 7 ล้านคน ดีกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย ซึ่งปิดที่จำนวน 6.7 ล้านคน

“ตามที่นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เดินทางไปเยือนจีนเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้สื่อสารกับทางการจีนตรงๆ ว่าประเทศไทยต้องการนักท่องเที่ยวจีนเท่าไร หากไม่อยากพูดตัวเลข ก็บอกว่าขอเท่ากับปี 2562 ก่อนโควิดระบาดได้ ซึ่งในปีนั้นมีกระแสการเดินทางเข้าไทย 20,000-30,000 คนต่อวัน ขณะเดียวกันที่นายกฯ ไปจีนก็ไม่มีการจัดเวทีสื่อสารกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนโดยตรง ทำให้ยังแก้ปัญหาความรู้สึกกลัวการเดินทางมาประเทศไทยของชาวจีนไม่ได้”