‘โจรเหนือเมฆ’ ลักทรัพย์บนไฟลต์บินถี่! รัฐเร่งประสาน ‘แอร์ไลน์’ สกัด

สรวงศ์​ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะประสานไปยังผู้ประกอบการ “สายการบิน” เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยประกาศเตือนผู้โดยสารเพื่อระมัดระวังสิ่งของมีค่าบนเครื่องบิน พร้อมขอให้ลูกเรือช่วยเดินตรวจตราถี่ขึ้น โดยปัจจุบันหลายสายการบินได้ประกาศแจ้งเตือนและเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลแล้ว

"อย่างไรก็ตาม มองว่าเหตุการณ์ลักทรัพย์บนเครื่องบินจะไม่กระทบต่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย"

สรวงศ์​ เทียนทอง

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เนื่องจากกรณีโจรลักทรัพย์ของมีค่าบนสายการบินเคยเกิดขึ้นและมีการสื่อสารผ่านโลกออนไลน์มาแล้วในหลายกรณีและในหลายประเทศ ทางสายการบินต้องออกมาตรการป้องกันหรือหาแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องปรามการก่อเหตุ

อย่างไรก็ดี ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่สายการบินต้องมีมาตรการและต้องระวังทรัพย์สินส่วนบุคคล กรณีพบการโจรกรรมจริงและตามจับผู้ต้องหาได้ ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้ต้องหารายนั้นๆ เช่น มาตรการถอนวีซ่า หรือติดแบล็กลิสต์ (Blacklist) พร้อมนำตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย โดยต้องดำเนินการเพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่างของความจริงจังในการใช้กฎหมายให้เป็นที่ทราบโดยถ้วนหน้า

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า วีรกรรมของโจรขโมยของบนเครื่องบิน ย่อมส่งผลต่อ “ภาพลักษณ์” ของประเทศผู้ก่อเหตุ ทำให้นักท่องเที่ยวจับจ้องพฤติกรรมของคนในชาตินั้นๆ เป็นพิเศษ แต่ถึงจะเกิดเหตุบ่อยครั้งมากขึ้น มองว่าตลาดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไม่ได้กังวลจนถึงขั้นยกเลิกการเดินทาง เพียงแต่ต้องระมัดระวังมากขึ้นทั้งการเดินทางทางบกและทางอากาศ และไม่ใช่แค่เที่ยวบินระหว่างประเทศภายในเอเชียเท่านั้น แต่รวมไปถึงภูมิภาคอื่นๆ อย่างยุโรป ที่บางเดสติเนชันมีข่าวนักท่องเที่ยวถูกชิงทรัพย์อยู่บ่อยๆ

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร

เจมส์ ต๋ง กรรมการผู้จัดการ นองปิง 360 (Ngong Ping 360) หนึ่งใน 10 อันดับกระเช้าลอยฟ้าที่ดีที่สุดในโลกและสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของฮ่องกง ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า เป็นเรื่องที่หน่วยงานภาครัฐต้องเข้ามาจัดการ โดยปัจจุบันยังไม่เห็นผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ “ฮ่องกง” แต่อย่างใด สายการบินมีการเพิ่มเที่ยวบินหรือปริมาณที่นั่งโดยสารจากประเทศไทยเข้าฮ่องกงมากขึ้น เช่น ไทยไลอ้อนแอร์ เพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - ฮ่องกง เมื่อเดือน ต.ค. 2567

“นักท่องเที่ยวไทย”​ ถือเป็นตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวฮ่องกงมาอย่างยาวนาน โดยเมื่อปี 2567 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปฮ่องกงมากกว่า 521,000 คน โดยในจำนวนนี้ กว่า 125,000 คน ได้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์นั่งกระเช้านองปิง 360 ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในยุคหลังโควิด-19 ระบาด

“เมื่อปีที่แล้วฮ่องกงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนรวมมากถึง 44 ล้านคน โดยกว่า 521,000 คนเป็นนักท่องเที่ยวไทย เดินทางเข้าฮ่องกงสูงสุดติดอันดับ 5 ของตลาดนักท่องเที่ยวจากเอเชีย รองจากไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตามลำดับ ส่วนชาวจีนแผ่นดินใหญ่นั้นครองสัดส่วนการเดินทางกว่า 75-80% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด”

เจมส์ ต๋ง

ทั้งนี้พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวไทยนิยมเดินทางไปฮ่องกงใน 2 ช่วงหลักๆ ได้แก่ ช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ เดือน มี.ค.-เม.ย. ซึ่งมีหยุดยาว “เทศกาลสงกรานต์” เป็นช่วงพีค และอีกช่วงคือปลายปีใกล้เทศกาลคริสต์มาส นิยมพำนักในฮ่องกง 3.8 คืน ใช้จ่ายประมาณ 5,000-6,000 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อทริป

ขณะเดียวกัน “ทริปสายมู” ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยจำนวนมากให้มาเยือน “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์” ต่างๆ ในฮ่องกงเป็นประจำทุกปีเพื่อไหว้พระและขอพร นองปิง 360 จึงเดินหน้ายกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวไทย จากจุดเด่นทำเลที่ตั้งใกล้กับ “องค์พระใหญ่” (Tian Tan Buddha) และ “วัดโป่หลิน” (Po Lin Monastery) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับแรงศรัทธาอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวไทย