เจาะโรดแมป ‘ทีเส็บ’ ปี 68 ดัน‘ไมซ์’ฮับภูมิภาค สู่เป้า 34 ล้านคน รายได้ 2 แสนล้าน

เจาะโรดแมป ‘ทีเส็บ’ ปี 68 ดัน‘ไมซ์’ฮับภูมิภาค สู่เป้า 34 ล้านคน รายได้ 2 แสนล้าน

อุตสาหกรรมไมซ์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อและการใช้จ่ายสูง ทำให้ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ (TCEB) เร่งวางยุทธศาสตร์ปี 2568

ฝ่าความท้าทายของเศรษฐกิจโลก เพื่อทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางไมซ์ในภูมิภาคเอเชียให้สำเร็จ

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ทีเส็บ กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ ท่ามกลางความท้าทายใน 3 ด้านสำคัญได้แก่ 

  • การใช้จ่ายของนักเดินทางไมซ์โดยรวมที่ลดลงเฉลี่ย 18% อยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นบาทต่อคนต่อทริปตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด_19 ที่ผ่านมา 
  • การจัดงานยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ .และปริมณฑล สัดส่วน 70% 
  • การต่อยอดธุรกิจจากการจัดไมซ์ ยังเป็นรองจากประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่น

"ท่ามกลางความผันผวนเศรษฐกิจโลก และมีความท้าทายหลากหลายมิติ รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงภายในและภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ทีเส็บ ยังมองเป้าหมายผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยให้เติบโตในทุกปี”

เจาะโรดแมป ‘ทีเส็บ’ ปี 68 ดัน‘ไมซ์’ฮับภูมิภาค สู่เป้า 34 ล้านคน รายได้ 2 แสนล้าน

แผนปี 2568 เน้นกลยุทธ์สำคัญ 5 ด้าน คือ  มุ่งงานไมซ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และมุ่งดึงงานไมซ์ระดับโลกเข้ามา เน้นตลาดที่มีศักยภาพใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง ,กลุ่ม BRICS การมุ่งพัฒนาสถานที่จัดงานด้วยความหลากหลายของอัตลักษณ์เชิงพื้นที่ (Authentic) กิจกรรมการตลาดร่วมสร้างประสบการณ์ในรูปแบบอัตลักษณ์ (Authentic Experience) กระจายการจัดงานในพื้นที่ต่าง ๆ และส่งเสริมการจดทะเบียนขึ้นเป็นไอพีจัดในการจัดงานแต่ละพื้นที่

และมุ่งจัดทำ วันสต็อป เซอร์วิส ด้วยนวัตกรรมและการใช้ดาต้า การร่วมพัฒนาระบบและกระบวนการทำงานแบบ ดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชัน ผ่านใช้บิ๊กดาต้า และการมุ่งขับเคลื่อนสอดรับกับแนวทางความยั่งยืน (ESG)

ทั้งหมดเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายการสร้างนักเดินทางไมซ์ 34 ล้านคน สร้างรายได้รวม 2 แสนล้านบาท โดยตลาดที่สนใจขยายมีทั้งจีนและอินเดียที่ได้รับนโยบายการส่งเสริมทั้งการมีฟรีวีซ่า และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง รวมถึงเป็นตลาดที่มีการใช้จ่ายสูง และเศรษฐกิจกำลังขยายตัว

สำหรับตลาดจีน มีโอกาสอย่างมากจากทิศทางของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่มีแผนเข้ามาจัดงานในไทยจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่มุ่งขับเคลื่อนภายใต้แนวทาง เมดอิน ไชน่า และยังได้รับแรงบวกจากการเป็นปีเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูตรครบ 50 ปี คาดว่าจะร่วมดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้กว่า 4 แสนคน สร้างรายได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท

ทางด้านอินเดีย กำลังเพิ่มจำนวนไฟลต์์บินเพิ่มขึ้น 19% หรือมีจำนวนกว่า 3 ล้านที่นั่ง รวมถึงขยายไปในเมืองใหม่ๆ คาดว่าจะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้2.42 แสนคน สร้างรายได้กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท อีกทั้งกลุ่ม BRICS จะมุ่งทำการตลาดผ่านอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 กลุ่ม ซึ่งตลาดกลุ่มนี้มีการจัดงานสัมมนา ไม่ต่ำกว่า 200 งานต่อปี พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟลกชิปของไทยทั้ง ฟู้ด อินดัสทรีส์ รวมถึง ซอฟต์พาวเวอร์และเฮลท์เทค เป็นต้น

ทั้งหมดมุ่งเป้าหมายให้พำนักในประเทศไทยให้นานขึ้น (Stay Longer)  กระตุ้นการใช้จ่ายมากขึ้น (Spend More) และกระตุ้นให้กลับมาไทยอีกครั้ง (See You Again) พร้อมมุ่งประมูลสิทธิการจัดงานต่างๆ เพื่อดึงการจัดงานระดับโลก

“ทีเส็บร่วมเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้วยยุทธศาสตร์ไมซ์ ร่วมผลักดันไมซ์ให้เป็นวาระแห่งชาติใช้ไมซ์ ให้เป็นแพลตฟอร์ม ในการสร้างแบรนด์ไมซ์ ประเทศไทย มุ่งสร้างพลังเศรษฐกิจให้เกิดความยั่งยืน”

สำหรับปี 2567 อุตสาหกรรมไมซ์ สามารถดึงดูดนักเดินทาง 25 ล้านคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 3.28 แสนล้านบาท คิดเป็น 1.67% ของจีดีพีประเทศ จ้างงานไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน รวมถึงสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม จากการเชื่อมโยงผู้คน และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งมีการประเมินว่าเกิดผลกระทบทางสังคมและชุมชน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ มากกว่า 10 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับจากสมาคมประชุมนานาชาติ (ICCA) เป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานไมซ์อันดับ 26 ของโลก ขยับขึ้นจากอันดับ 32 ปี 2566 ส่วนการจัดอันดับในเอเชียแปซิฟิกอยู่อันดับ 6 และเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ ทางด้านสมาคมแสดงสินค้าโลก (UFI) ได้รายงานว่า ไทยมีพื้นที่การจัดงานเป็นอันดับ 1 ของ อาเซียน และอันดับ 4 ในเอเชีย

 

เจาะโรดแมป ‘ทีเส็บ’ ปี 68 ดัน‘ไมซ์’ฮับภูมิภาค สู่เป้า 34 ล้านคน รายได้ 2 แสนล้าน

ทางด้าน “พสุ โลหารชุน" ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ทีเส็บ ย้ำว่า นโยบายของภาครัฐต้องการร่วมผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ให้มีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายทำให้ได้สัดส่วน 3% ของจีดีพีภายในปี 2570 โดยไทยมีจุดแข็งทั้งความหลากหลายของสถานที่ทั่วประเทศและการมีเมืองไมซ์ 10 จุดหมายปลายทางทั่วประเทศ