'เอ็ม บี เค' อัดอีเวนต์ใหญ่ตรุษจีน จัดโชว์จีนสุดอลังการ ดันค้าปลีก ทราฟฟิกโต

"เอ็ม บี เค" จัดงานอีเวนต์ใหญ่รับตรุษจีน ปักหมุดศูนย์การค้าในเครือ ดึงแสดงโชว์ศิลปะวัฒนธรรมจีน หนุนท่องเที่ยวไทย-ค้าปลีกโตแกร่ง ต่อเนื่องช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ชี้ทราฟฟิกลูกค้าในศูนย์การค้าโตสูงกว่าโควิด นำโดย "เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์" ยอดพุ่ง 8 หมื่นถึง 1 แสนคนต่อวัน
เอ็ม บี เค ได้มีการประกาศแผนธุรกิจในปี 2568 ที่มุ่งรักษาการเติบโตของ 7 ธุรกิจในเครือประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงแรม สนามกอล์ฟ อสังหาริมทรัพย์ อาหาร การเงิน และ ธุรกิจการประมูล พร้อมวางบลงทุนเบื้องต้น 1,500 ล้านบาท สำหรับการบริหารและดูแลธุรกิจในเครือ 1,000 ล้านบาท เน้นบริหารจัดการอาคาร การปรับปรุงและบำรุงดูแลอาคาร ส่วนอีก 500 ล้านบาท ใช้สำหรับซื้อที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพ
สำหรับธุรกิจหลักที่มีการขยายตัวสูงกับ ธุรกิจศูนย์การค้า เป็นพอร์ตโฟลิโอสำคัญในการสร้างรายได้ โดยมี 4 ศูนย์การค้าในเครือทั้ง เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, พาราไดซ์ พาร์ค, เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 และ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ โดยศูนย์การค้าที่มียอดทราฟฟิกมากสุดคือ "เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์" มีลูกค้าหมุนเวียน 80,000-100,000 คนต่อวัน สูงกว่าก่อนโควิด-19 แล้ว สัดส่วนลูกค้าคนไทย 60% ต่างชาติ 40% ส่วนการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้า แบ่งเป็น ต่างชาติใช้จ่ายเฉลี่ย 4,000 บาทต่อคนต่อครั้ง และคนไทยใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000 บาทต่อคนต่อครั้ง
นางสาวพุทธชาด ศรีนิศากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมบรรยากาศการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้าในประเทศ มีแนวโน้มขยายตัว โดยได้รับแรงหนุนตั้งแต่ช่วงปลายปีจนถึงต้นปี 2568 มีเทศกาลร่วมสร้างสีสันและกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศ
ทั้งหมดสอดรับกับนักท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดยเมื่อประเมินภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการรายงานของ การท่องเที่ยวกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นับตั้งแต่ปีใหม่ วันที่ 1-12 ม.ค. 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 19.89 %
ทางด้านสถิตินักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และ อินเดีย พร้อมประเมินในช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 24 ม.ค. – 2 ก.พ. แนวโน้มการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจะเดินทางเข้ามามากขึ้น
ทั้งนี้ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ทั้ง เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์, พาราไดซ์ พาร์ค และ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ได้ร่วมจัดงานต้อนรับเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2568 “CHINESE NEW YEAR 2025” ทรัพย์มั่งคั่ง ปัญญาหลักแหลม มะเส็งมหาเฮง โดยจัดบรรยากาศต้อนรับเทศกาลในทุกศูนย์การค้า ทั้งมหกรรมความบันเทิง การจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน และการแสดงสินค้าร่วมต้อนรับเทศกาล เพื่อร่วมสร้างบรรยากาศการใช้จ่ายให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
- ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้จัดแสดงโชว์วัฒนธรรมจีนครั้งใหญ่ ทั้งการแสดงสิงโตเสาดอกเหมยจากดีกรีแชมป์ประเทศไทย และอันดับ 3 ของโลก การแสดงงิ้วเทพเจ้าอวยพร หนึ่งในการแสดงที่หาชมยากและเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลตรุษจีน
อีกทั้งได้จัด “สร้างสรรค์คำมงคล ด้วยพู่กัน” เวิร์กชอปเขียนตัวอักษรจีน 8 คำมงคล พร้อมจุดถ่ายรูปเช็คอินสุดอลังการต้อนรับปีมะเส็ง ซึ่ง “งู” เป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาและความฉลาด ความมั่งคั่งโชคลาภ พร้อมจัดแสดงงิ้วมงคล ชุดจับเซียนฮ่อสิ่ว (เทพ 10 เซียนอวยพร) การแสดงงิ้วมงคล ชุดเกียเสี่ยหวย (เสริมสิริมงคลในเรื่องการประสบความสำเร็จในการแข่งขัน) การแสดงงิ้วสามก๊ก ตอน เล่าปี่พบรักซึงเสี่ยงเฮียง และการแสดงงิ้วฟอร์มยักษ์ เรื่องโป้ยป้ออือเต็กเชง รวมถึงมีจัดแสดงเชิดสิงโตมงคลจากสู่ต้าเสีย (SHU DAXIA) เป็นต้น
- ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ได้จัดงาน Paradise Park Chinese Market 2025 เป็นงานแสดงสินค้าจากประเทศจีน “Chinese Market” พร้อมการแสดงจีน อาทิ ละครงิ้ว โชว์เปลี่ยนหน้ากาก โชว์พิณจีนเสียงสวรรค์กู่เจิง โชว์เชิดสิงโตมังกร กายกรรมต่อตัว ชมการแสดงอุปรากรจีนเปลี่ยนหน้ากาก ฯลฯ
- เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ได้จัดงาน Chinese Market 2025 ตรุษจีนปีมะเส็งมหามงคล พลังแห่งมังกรงู มีทั้งการนำเสนอสินค้าร่วมต้อนรับตรุษจีน และการแสดงวัฒนธรรมจีนร่วมสมัย ทั้งการแสดง Chinese Dancing Flag จากสถาบัน Dancing Flag , การแสดงเส้าหลินกังฟู จากโรงเรียน Shaolin Kungfu Thailand ,การแสดงเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย และการแสดงดนตรีกู่เจิ้งและซอจีน เป็นต้น
พร้อมกันนี้ ในทุกศูนย์การค้ายังร่วมจัดโปรโมชันให้แก่ลูกค้า เพื่อร่วมกระตุ้นบรรยากาศการใช้จ่าย โดยงานเทศกาลตรุษจีนของ ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค ได้เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 25-29 ม.ค.นี้ ยกเว้น เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 กำหนดจัดตั้งแต่วันที่ 25-28 ม.ค.นี้
นอกจากนี้ 4 ศูนย์การค้าในเครือ เอ็ม บี เค ได้ร่วมทำแคมเปญ ต้อนรับมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” ของภาครัฐในการร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ ในการได้สิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในประเทศ รวม 5 หมื่นบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. - 28 ก.พ. 2568