เครื่องใช้ไฟฟ้าจีนโหมลงทุนไทย ‘ไฮเออร์-ไมเดีย’ รุกหนักเพิ่มกำลังผลิต

เครื่องใช้ไฟฟ้าจีนโหมลงทุนไทย  ‘ไฮเออร์-ไมเดีย’ รุกหนักเพิ่มกำลังผลิต

ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าจีน 'ไฮเออร์' (Haier) เตรียมลงทุนสร้างโรงงานในประเทศไทย วงเงินกว่าหมื่นล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าตู้เย็น เครื่องซักผ้า ส่วนไมเดีย (Midea) ขยายโรงงานใหม่ ลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ผลิตแอร์ขนาดใหญ่ 6 แสนเครื่อง/ปี เริ่มผลิตกลางปี 68

คลื่นการลงทุนจากต่างประเทศแห่ลงทุนประเทศไทยรอบใหม่ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศ “จีน” ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าในโลก ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ลงทุนไทยครั้งใหญ่ 

ทั้งแบรนด์ไฮเออร์ (Haier) ลงทุน 13,000 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) จ.ชลบุรี พื้นที่กว่า 3.24 แสน ตร.ม. เมื่อปี 2567 นับเป็นโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในโลก เริ่มเดินเครื่องการผลิตอย่างเป็นทางการเดือน ต.ค.2568 กำลังการผลิตช่วงแรก 3 ล้านเครื่องต่อปี ในช่วงปี 2569 ก่อนขยายกำลังการผลิต 6 ล้านเครื่องต่อปีภายในปี 2570 ถือเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ในไทยจากในปัจจุบันมีฐานผลิตหลักในปราจีนบุรี ผลิตเครื่องปรับอากาศและสินค้าอื่นๆ

ทางด้านแบรนด์ไมเดีย (Midea) สร้างโรงงานแห่งใหม่ ลงทุน 2,260 ล้านบาท ปักหมุดพื้นที่อีอีซี เพิ่มกำลังการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยปัจจุบันมีโรงงานในไทยรวม 5 แห่ง

ไฮเออร์ ขยายการลงทุนรอบใหม่ในไทยปี 68 วงเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไฮเออร์มุ่งผลักดันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ จึงอยู่ระหว่างการศึกษาแผนลงทุนโรงงานใหม่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ประเมินงบลงทุนเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท รองรับการทำตลาดในประเทศและส่งออก

การลงทุนโรงงานในไทยรอบใหม่นี้ เป็นแผนต่อเนื่องหลังจากไฮเออร์ลงทุนสร้างโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศที่ชลบุรีแล้ว ปัจจุบันกำลังเจรจาภาครัฐ และหาทำเลในการลงทุน ก่อนประกาศแผนชัดเจนเดือน พ.ค.นี้ 

“โรงงานใหม่ผลิตโดยใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ และใช้คนน้อยลงกว่าโรงงานปกติ รองรับการเข้าสู่ยุคเอไอและออโตเมชันอย่างเต็มรูปแบบ โดยนับจากนี้ไปเครื่องใช้ไฟฟ้าของไฮเออร์ เน้นนวัตกรรมเอไอเพิ่มขึ้น”

ไฮเออร์ ยังมุ่งนำเสนอสินค้าใหม่ 7 หมวดหมู่ จำนวน 50 รุ่น ประกอบไปด้วย เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้แช่ ทีวี และเครื่องทำน้ำอุ่น เน้นนำเสนอสินค้าที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางและระดับบน สินค้าเรือธงคือ เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ มีนวัตกรรม อีกทั้งมีเครื่องปรับอากาศแบรนด์ใหม่ แคนดี้ (Candy) เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ มุ่งเรื่องประหยัดไฟ และเน้นทำตลาดผ่านอีคอมเมิร์ซ​

 

เครื่องใช้ไฟฟ้าจีนโหมลงทุนไทย  ‘ไฮเออร์-ไมเดีย’ รุกหนักเพิ่มกำลังผลิต

ทั้งนี้เตรียมงบการตลาด 1,200 ล้านบาท รุกสื่อสารแบรนด์โดยมี 3 พรีเซ็นเตอร์ ร่วมสร้างการรับรู้แบรนด์ เน้นกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ทำกิจกรรมผ่านโซเชียลมีเดีย และสนับสนุนกีฬาต่างๆ

ประเมินว่าแผนเชิงรุกจะทำให้ภาพรวมผลประกอบการปี 2568 เติบโตระดับ 28% จากปีก่อน ปิดยอดขายที่ 14,000 ล้านบาท จากปี 2567 มียอดขาย 11,000 ล้านบาท เติบโต 28%

ทางด้าน เกษมสันต์ โอซาว่า ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จํากัด เสริมว่า ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยปีนี้ มีมูลค่ารวมประมาณ 70,000 ล้านบาท คาดเติบโต 5%

สำหรับภาพรวมผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ สัดส่วนยอดขายหลักของสินค้ามาจากเครื่องปรับอากาศ ประมาณ 6,000 ล้านบาท เติบโต 20% ตู้เย็น สร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาท เติบโต 28% เครื่องซักผ้า 1,200 ล้านบาท เติบโต 30% ตู้แช่ 1,200 ล้านบาท เติบโต 20% ทีวี 1,000 ล้านบาท เติบโต 58% และ เครื่องทำน้ำอุ่น สร้างยอดขาย 215 ล้านบาท เติบโต 94%

ไมเดีย ลงทุนครั้งสำคัญ 2,260 ล้านบาท ผลิตแอร์ขนาดใหญ่ เริ่มเดินเครื่องกลางปี 68

ธนวัฒน์ วงศ์ชาญวุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มดี คอนซูเมอร์ แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไมเดีย (Midea) ได้ใช้งบลงทุน 2,260 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ Midea Building Technologies พื้นที่ 46 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม CPGC ระยอง แล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2568 เป็นโรงงานเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิต 6 แสนยูนิตต่อปี จากในปัจจุบันไมเดียในฐานการผลิตในไทยประมาณ 5 แห่ง

ภาพรวมบริษัทมีกำลังการผลิตเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยรวม 4 ล้านเครื่องต่อปี เป็นการผลิตเพื่อส่งออก 90% ทำตลาดในประเทศ 10% ซึ่งตลาดส่งออกหลักอยู่ในสหรัฐ และภูมิภาคเอเชีย โดยโรงงานแห่งใหม่นี้ ประเมินว่าจะรองรับการส่งออกไปต่างประเทศเป็นหลัก

 

เครื่องใช้ไฟฟ้าจีนโหมลงทุนไทย  ‘ไฮเออร์-ไมเดีย’ รุกหนักเพิ่มกำลังผลิต

 

ขณะเดียวกันได้วางแผนรุกตลาดไทยในปีนี้ มุ่งนำเสนอในคอนเซปต์ “แกร่ง ทน ครบเครื่อง” และมุ่งขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ทั้งเครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวขนาดเล็กทุกรุ่น รวมถึงสินค้านวัตกรรมเอไอ และการมีฟีเจอร์อัจฉริยะ พร้อมรุกทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดียและบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ติดตั้งในรถไฟฟ้าและตึกสูง

รวมถึงการดึง “บัวขาว บัญชาเมฆ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องปรับอากาศต่อเนื่องประเมินว่าผลประกอบการโดยรวมปี 2568 จะเติบโต 200% จากปีก่อน

“พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ให้ความสนใจเลือกซื้อสินค้าและติดตามข้อมูลผ่านออนไลน์มากขึ้น ทำให้แบรนด์ต้องวางกลยุทธ์ตลาดมุ่งขยายผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย”