ท็อปส์ เปิดอินไซต์ตรุษจีน 'คนไทย' ให้น้ำหนัก 'ความคุ้มค่า' มากกว่า ราคาถูก

ท็อปส์ เปิดแผนรับมือความท้าทายปี 2568 เมื่อลูกค้าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลง ทั้งมุ่งใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า สนใจเรื่องฮีลใจและมีสตอรี่ ความยั่งยืนและการรักษ์โลกต้องไปพร้อมกัน รวมถึงมูเตลู ร้อนแรงทุกเทศกาล โดยวางแผนนำเสนอสินค้าให้ครบเจาะทุกเซกเมนต์ ดันยอดโต 20%
ใกล้เข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ปีมะเส็ง 2568 ช่วงเวลาในการเฉลิมฉลองปีใหม่ของชาวจีน และคนเชื้อสายจีนในทั่วโลก ที่ให้ความสำคัญกับช่วงเวลานี้ ทำให้ค้าปลีกไทยต้องวางแผนเร่งขยายตลาดเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาใช้จ่ายต่อเนื่อง
นายจักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า จากการประเมินพฤติกรรมการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้า มีความแตกต่างจากไปจากเดิม โดยมียอดการเลือกซื้อสินค้าต่อครั้ง (Basket size) ลดลง แต่มียอดความถี่ในการเข้ามาซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น 17%
"ตรุษจีนปีมะเส็ง 2568 มีกำหนดขึ้นในวันพุธที่ 29 ม.ค.2568 ถือว่ามาเร็วขึ้น แตกต่างจากในปีก่อน 2567 ตรุษจีนมีขึ้นในวันที่ 10 ก.พ."
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ในการใช้จ่ายช่วงตรุษจีนเป็นผู้หญิง 76% มีอายุ 35-54 ปี สัดส่วน 54% ซึ่งอยู่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล 69% ส่วนสินค้ายอดนิยมมีทั้ง ผักและผลไม้ 22.2% กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด 20.5% เครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำความอาหาร 11.7% เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล 9.4% ของใช้อื่นๆ 8.6% โดยสอดคล้องกับปีก่อน
"จากข้อมูลการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้าในปีก่อน สะท้อนว่าการใช้จ่ายโดยรวมมีความคึกคักอย่างมาก โดยมูลค่าตะกร้าสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน เทียบกับช่วงปกติ เพิ่มขึ้น 23% ยอดขายพรีออเดอร์ก่อนถึงเทศกาล เพิ่ม 59% จากช่วงปกติ และยอดขายในวันจ่ายเพิ่มขึ้น 35% จากช่วงปกติ"
ทั้งนี้จากอินไซต์การใช้จ่ายของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มี 4 เทรนด์น่าจับตามองได้แก่
- การใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและคุ้มราคา (Smart Spending & Value Equation ) โดยคำว่า "ราคาถูก" กับ "คุ้มค่าคุ้มราคา" มีความแตกต่างกัน โดยลูกค้ามุ่งความคุ้มค่ากับราคามากที่สุด เพื่อวางแผนการใช้จ่ายให้รอบคอบและไม่กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินในระยะยาว
- การให้ความสนใจในเรื่อง ฮีลใจ ทันกระแสและมีสตอรี่ (Self-Healing) โดยในปัจจุบันมีข่าวและปัจจัยหลายด้านมากระทบความรู้สึกและการใช้ชีวิต ทำให้ลูกค้าสนใจสร้างความสุขทางใจ รวมถึงสนใจสินค้าสวยงามและเทรนด์ใหม่ๆ ที่มีเรื่องราวน่าสนใจ
- การให้ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม มาจากวัสดุธรรมชาติและยั่งยืน (Sustainability)
- ให้ความสนใจเรื่องไสยศาสตร์ และมูเตลู ซึ่งมีข้อมูลการสำรวจพบว่า คนไทยกว่า 88% ต่างมีเชื่อเรื่องมูเตลู หรือ โดย ข้อมูลจากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) รายงานว่า 5 อันดับสิ่งที่สายมูเตลูต้องการมูมากที่สุด อันดับแรก การเงิน 44% รองลงมา โชคลาภ 17% ต่อมา สุขภาพ 12%, การงาน 8% และการเรียนและความรักอีก 3%
นอกจากนี้ สำรวจของวิจัยกรุงศรี สะท้อนว่า ผู้บริโภค Gen Y และ Gen X ประมาณหนึ่งในสาม ใช้จ่ายเงินสำหรับสินค้าเสริมโชคลาภ จำนวนเงินสูงกว่า 1,000 บาทต่อปี ส่วนกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากที่สุด และ 7% ของกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากกว่า 5,000 บาทต่อปี
ทั้งนี้ จากความ ท้าทายและความสนใจขอกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ตรุษจีน ท็อปส์ ได้จัดแคมเปญ “THE GREAT CHINESE NEW YEAR 2025” ทั้งการ “The Great 3As” มุ่งใน 3 ด้านประกอบด้วย The Great ASSORTMENT ด้วยการนำเสนอสินค้าต่างๆ จำนวนกว่า 1,500 รายการ และเป็นสินค้ากลุ่มใหม่ในสัดส่วน 20%
ต่อมา The Great ANG-PAO กับการมุ่งมอบส่วนลดและคูปอง สอดรับกับกลุ่มลูกค้าที่มองหาเรื่องความคุ้มค่า มีความแตกต่างจากปีก่อนเน้นให้สินค้าพรีเมียม และ The Great CX with AMBASSADOR ได้มุ่งนำเสนอขนบธรรมเนียมดั้งเดิมให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งผลิตภัณฑ์และกิจกรรมใหม่ๆ สอดรับเทรนด์ “A Cultural Leader" รวมถึงได้ดึง ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ประจำแคมเปญ ร่วมสื่อสารเทศกาลตรุษจีนในมุมใหม่ ผ่านคอนเทนต์ต่างๆ
อีกทั้งได้วางแผนทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจง (Personalized Marketing ) มากขึ้น โดยการนำฐานข้อมูลของกลุ่มลูกค้า (CRM Data) มาร่วมนำเสนอแคมเปญและจัดโปรโมชั่นให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2568 จะสร้างยอดขาย ขยายตัว 20% จากปีก่อน โดยท็อปส์ได้วางเป้าหมายสู่การเป็น จุดหมายของการช้อปปิ้งในทุกเทศกาล กูรูเรื่องตรุษจีน และแบรนด์ที่ลูกค้านึกถึงอยู่ในใจ
สำหรับแคมเปญตรุษจีน เริ่มแล้วตั้งแต่ วันนี้ – 28 มกราคม 2568 ที่ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ เดลี่ หรือผ่านช่องทางท็อปส์ ออนไลน์