'ทานตะวัน-ธีร์ ธีระโกเมน' เจน 2 รับไม้ต่อเคลื่อนอาณาจักรหมื่นล้าน 'เอ็มเค'

"ฤทธิ์ ธีระโกเมน" วางแผนเกษียณในวัย 75 ปี ล่าสุดกับการส่งไม้ต่อ 2 ทายาท "ทานตะวัน-ธีร์ ธีระโกเมน" นั่งทัพธุรกิจ รายงานตรงต่อตนเอง เจาะภารกิจ โจทย์โหดหิน เจนเนอเรชั่น 2 เคลื่อนอาณาจักรหมื่นล้าน "เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป" ฝ่าวงล้อมการแข่งขัน สู่การเติบโต มั่งคั่ง
ปี 2563 ช่วงโควิด-19 ระบาด “ฤทธิ์ ธีระโกเมน” เจ้าของอาณาจักรสุกี้หม้อร้อนหมื่นล้านอย่าง “บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)” เป็นหนึ่งในรายชื่อนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง 20 ลำดับแรกของเมืองไทยที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง เพื่อขอให้ช่วยเหลือประชาชนผู้เปราะบาง และเป็นกำลังสำคัญในการฝ่าวิกฤติโรคระบาดครั้งใหญ่
วงการธุรกิจรู้จัก “ฤทธิ์” เป็นอย่างดี เพราะคือผู้สร้างอาณาจักรและปั้นแบรนด์ “เอ็มเค สุกี้” ให้โด่งดังยืนหนึ่งในตลาดอย่างยาวนาน
แม้แบรนด์จะดัง “เอ็มเค สุกี้” จะเติบโต ขยายสาขา ทำเงินมากขนาดไหน “ฤทธิ์” ก็จะทำตัวเป็น “มังกรเร้นกาย” ไม่ได้ออกพบปะสื่อมวลชนมากนัก แม้กระทั่งออกงานสัมมนาเวทีใหญ่ เมื่อสื่อเข้าประชิดตัว ยังปฏิเสธการให้ข้อมูลข่าวสารด้วยประโยคเรียบง่าย “ผมไม่คุยกับสื่อ”
ทว่า เวลาเปลี่ยน เกมธุรกิจไม่เหมือนเดิม ในวันที่ร้านอาหารมีมากมายหลายประเภท(Category)ทั้งสุกี้ ปิ้งย่าง ขนมหวาน ร้านไทย ร้านฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี ฯ ส่วน “คู่แข่ง” ไม่ต้องพูดถึง ยกกันมาเป็นโขยงเพื่อชิงตลาด และชิงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และแย่ง “ขุมทรัพย์แสนล้านบาท” นั่นทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว ไม่เว้นแม้กระทั่ง “เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป”
ปี 2567 ในงานนมหกรรมการแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก “THAIFEX - Anuga Asia 2024” ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของ “เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป” และ “ฤทธิ์” เพราะไม่เพียงนำธุรกิจมาเปิดตัวกับ “คู่ค้าในตลาดโลก” ยังเป็นครั้งแรกกับการเปิดใจพูดคุยกับสื่ออย่างเป็นทางการ เล่าแผนธุรกิจ พร้อมกับมี “2 ทายาท” ข้างกาย
ย้อนบิ๊กมูฟ “เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป”
ย้อนดูการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ “เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป” ในหลายปีที่ผ่านมา คือการพลิกกระบวนท่าครั้งใหญ่ในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะปี 2566 ได้แปลงธุรกิจครอบครัว(Family Business) แปลงเป็น “มหาชน” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ระดมทุนขยายกิจการ
ปีเดียวกันบริษัทยังปรับแบรนด์องค์กรใหม่ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เป็นมากกว่า “ร้านอาหาร” นำไปสู่ “บิ๊กมูฟ” ในปี 2567 เดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งรุกเต็มสูบกับบริการด้านโลจิสติกส์แบบ One Stop Services for all Business รองรับสินค้าทั้งกลุ่มอาหารและไม่ใช่อาหารหรือ Non – Food นำความเชี่ยวชาญในการขนส่งแบบ cold-chain logistics บริการลูกค้าทั่วประเทศไทย หลังจากร่วมทุนพันธมิตรจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Senko Group Holding ปั้น “M-Senko Logistic”
มี “มาร์ค วัน อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์” (Mark One Innovation Center) เพื่อผู้ผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “MK Wellness” ต่อจิ๊กซอว์การเติบโตร้านอาหารผ่านโมเดล “แฟรนไชส์” ภายใต้ “International Franchise” โดยมีแบรนด์ “เอ็มเค สุกี้” และ “แหลมเจริญ” หัวหอกบุกต่างประเทศ แม้กระทั่งการลุยขายสินค้ากับพระเอก “น้ำจิ้มสุกี้” ตอบโจทย์การทานเมนูหม้อร้อนเองที่บ้าน และแบรนด์ปักหมุดคู่ครัวเรือนไทย
ถึงเวลา 2 ทายาท ทานตะวัน-ธีร์ ธีระโกเมน นั่งแม่ทัพแสดงฝีมือ
งาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 “ฤทธิ์” ไม่เพียงฉายภาพแผนธุรกิจในอนาคตให้รับรู้ ยัง “เปิดใจถึงการถอยทัพไปอยู่เบื้องหลัง” เนื่องจากได้ “วางแผนเกษียณการทำงานในวัย 75 ปี” (ปี 2568 จะอายุ 74 ปี) เพื่อให้ “ทายาท” หรือเจนเนอเรชั่นที่ 2 ก้าวมาบริหารธุรกิจเต็มที่ เพื่อนำทัพองค์กรหมื่นล้านบาทให้เติบโต อีกด้านประหนึ่งเจ้าตัวจะรบบทเป็น “กุนซือ” ให้กับลูกๆนั่นเอง
ทานตะวัน ธีระโกเมน
ปลายปี 2567 เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จึงประกาศอย่างเป็นทางการกับการแต่งตั้ง “ทานตะวัน ธีระโกเมน” และ “ธีร์ ธีระโกเมน” เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่(ร่วม) 2 คน โดยการทำงานจะต้องรายงานตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งก็คือ “ฤทธิ์” แม่ทัพใหญ่ พ่อ และกุนซือนั่นเอง โดยมีผล 1 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
“ทานตะวัน” และ “ธีร์” บุตรของฤทธิ์ เข้ามาทำงานในอาณาจักรหมื่นล้านบาทเป็นเวลานานแล้ว แต่เมื่อผู้พ่อเป็นมังกรซ่อนกาย ทายาท จึงไม่ได้ถูกสปอร์ตไลท์ส่องให้เฉิดฉายมากนัก
สำหรับ “ทานตะวัน” ตำแหน่งล่าสุดก่อนได้โปรโมท คือนั่งเก้าอี้ “ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด” ต่ตลอดเส้นทางธุรกิจเก็บเกี่ยวประสบการณ์สำคัญๆ คือการเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์การตลาดระดับองค์กรให้กับบริษัทมาก่อน ซึ่งหากดูเส้นทางเริ่มต้นเรียนรู้งาน ตั้งแต่ปี 2559 ส่วนโปรไฟล์นั้น จบการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทการตัดการ Imperial College London ประเทศอังกฤษ
ธีร์ ธีระโกเมน
ส่วนน้องชาย “ธีร์” ตำแหน่งล่าสุดก่อนเลื่อนเก้าอี้ คือ “ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ” ประสบการณ์สำคัญอื่นๆคือ เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานดูแลกิจการสาขา ดูฝ่ายการตลาด มาก่อน ระยะเวลาทำงานเริ่มตั้งแต่ปี 2555 ด้านโปรไฟล์ ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทการจัดการ Brunel University ประเทศอังกฤษ
โจทย์หินเจนเนอเรชั่น 2
บริบทธุรกิจแต่ละเจนเนอเรชั่นแตกต่างกันไป ย้อนยุคพ่อแม่ผู้ปลุกปั้นอาณาจักร การทานอาหารนอกบ้านไม่เฟื่องฟู ร้านอาหารประเภทต่างๆไม่ได้มี “ทางเลือก” มากมาย รวมถึง “คู่แข่ง” ก็น้อย ทำให้รายใหญ่อาจเป็นผู้กุมกำหนดและทิศทางตลาดได้ ทว่า กำลังซื้อในอดีตก็ไม่ได้มากนัก เป็นต้น
ขณะที่ปัจจุบัน เจนเนอเรชั่น 2 ต้องเผชิญคือ จากภายนอกคือเศรษฐกิจโลก ปมขัดแย้งทางภูมิรัฐศาตร์รุนแรง ย่อลงมาโลกธุรกิจแข่งขันด้วย “ความเร็ว” หรือ Speed ทว่า “คู่แข่ง” ทั้งทางตรงและทางอ้อมมีมหาศาล ยิ่งร้านอาหารเป็นการแย่งพื้นที่ในกระเพาะ หรือ Share of Stomach หากเลือกทานอาหารร้านหนึ่งแล้ว อาจมีพื้นที่เหลือไปทานอาหารร้านอื่นน้อยลง เว้นมื้ออื่นๆ
“เอ็มเค สุกี้” คือพอร์ตโฟลิโอใหญ่ทำเงิน 72%(ณ 9 เดือนปี 67) และเจอ “คู่แข่งตัวฉกาจ” มาเขย่าบัลลังก์ผู้นำ ที่สำคัญ ผู้บริโภคยังเปรียบเทียบ “ราคา” ความคุ้มค่าอยู่ตลอดเวลา โดยไม่มอง “เซ็กเมนต์” นั่นคือภาพการรับรู้และ “จดจำ” ที่เกิดขึ้น
ด้านผลประกอบการต้องพลิกฟื้นการเติบโต หลังบริษัทเผชิญ “ยอดขาย” และ “กำไร” ที่ “หดตัวลง” ทำให้ต้องงัดอาวุธ กลยุทธ์การทำตลาด เพื่อสร้างการเติบโต โดยผลงาน 9 เดือนปี 2567 ยอดขาย “เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป” อยู่ที่ 11,735 ล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ “กำไรสุทธิ” อยู่ที่ 1,088 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
เหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของการบ้านที่ “ทายาท” ของ “ฤทธิ์” ทั้ง “ทานตะวัน-ธีร์” ต้องหาทางฝ่าวงล้อม สร้างอาณาจักรให้เติบโตมั่งคั่งต่อไป