‘Lisa Su’ คว้า CEO of the Year จาก Time หลังพลิกฟื้น AMD ที่เกือบล้มเหลวได้สำเร็จ

‘Lisa Su’ คว้า CEO of the Year จาก Time หลังพลิกฟื้น AMD ที่เกือบล้มเหลวได้สำเร็จ

“ลิซ่า ซู” ซีอีโอผู้ใช้เวลา 10 ปี พลิกฟื้น “AMD” ที่เกือบล้มให้ก้าวขึ้นมาสู่หนึ่งในผู้ออกแบบชิป CPU ชั้นนำของโลก และเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ อันดับ 2 ของโลก ทำให้ “Time” เลือกเธอเป็น CEO of the Year 2024

“AMD” หรือ Advanced Micro Devices เป็นหนึ่งในผู้ออกแบบชิป CPU ชั้นนำของโลก ที่ขับเคลื่อนทั้งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และศูนย์ข้อมูลต่างๆ รวมถึงยังเป็นคลังเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ Google, Meta, Amazon และ Microsoft อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นผู้ออกแบบหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือ GPU ระดับแนวหน้า ซึ่งเป็นชิปเฉพาะที่ใช้ในการสร้าง และรันโปรแกรม AI เช่น ChatGPT

แต่รู้หรือไม่ว่าก่อนที่ AMD จะก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์แถวหน้าของโลกได้ ก็ต้องเผชิญปัญหาอันหนักหน่วงใน “สงครามชิป” จนกระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน “ลิซ่า ซู” หรือ Lisa Su ก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง CEO ในช่วงที่บริษัทกำลังเผชิญมรสุมอย่างหนัก เพราะหุ้นของ AMD ร่วงลงประมาณ 3 ดอลลาร์ และส่วนแบ่งในตลาดชิปศูนย์เริ่มข้อมูลล้มเหลว จนเกิดคำถามจากคนส่วนใหญ่ในบริษัทว่าบริษัทจะสามารถสู้ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน

แต่ลิซ่าเริ่มต้นมาจากการเป็นวิศวกรที่ได้รับการฝึกอบรม จนกลายเป็นหัวหอกในการออกแบบผลิตภัณฑ์ของ AMD จากระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับสูง เธอพยายามกลับมาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และขับเคลื่อน “AI” ไปสู่จุดสูงสุดครั้งใหม่ ในปี 2022 ทำให้มูลค่าโดยรวมของบริษัทแซงหน้าคู่แข่งในอดีตอย่าง “Intel” เป็นครั้งแรก

ปัจจุบันหุ้นของ AMD มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 140 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 50 เท่า นับตั้งแต่ลิซ่าเข้ามารับช่วงดูแลบริษัทต่อ จนทำให้ Harvard Business School จะนำสิ่งที่ลิซ่าทำให้กับ AMD มาเป็นกรณีศึกษาในการเรียนการสอน

“นี่เป็นหนึ่งในเรื่องราวการพลิกฟื้นที่ยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ธุรกิจอเมริกันยุคใหม่จริงๆ” คริส มิลเลอร์ (Chris Miller) นักประวัติศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และผู้เขียน Chip War กล่าวถึงความสำเร็จของลิซ่า

และด้วยความน่าทึ่งของลิซ่าที่สามารถพลิกพื้นบริษัทที่กำลังอยู่ในช่วงร่อแร่ได้สำเร็จ ทำให้ “นิตยสารไทม์” หรือ Time ยกย่องให้เธอเป็น “CEO of the Year 2024”

‘Lisa Su’ คว้า CEO of the Year จาก Time หลังพลิกฟื้น AMD ที่เกือบล้มเหลวได้สำเร็จ เครดิตภาพ : Guerin Blask for TIME

แม้ว่า “AMD” จะก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด แต่ก็ยังคงยังอยู่ ในอันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เพราะอันดับ 1 ยังเป็นของ Nvidia ที่บริหารโดย เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ลูกพี่ลูกน้องของเธอเอง และในเวลาสองปี Nvidia ก็ผงาดขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

‘Lisa Su’ คว้า CEO of the Year จาก Time หลังพลิกฟื้น AMD ที่เกือบล้มเหลวได้สำเร็จ เจนเซ่น หวง เครดิตภาพ : reuters

ในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา “AMD” ได้ประกาศว่าจำเป็นจะต้องเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 4% เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อมุ่งเน้นไปที่โอกาสจาก AI ในขณะเดียวกัน ลูกค้าเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Microsoft, Meta และ Amazon ก็กำลังเริ่มออกแบบชิปเฉพาะของตนเองสำหรับ AI ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการลดการพึ่งพาผลิตภัณฑ์ของ AMD ในอนาคตได้

ทั้งนี้การเติบโตอย่างต่อเนื่องของ AMD ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในด้าน AI, การผลิตชิปชั้นนำของไต้หวันที่เพิ่มมากขึ้น และท่าทีของว่าที่ประธานาธิบดี “โดนัล ทรัมป์” ที่ยังไม่อาจคาดเดาได้ และอาจนำความวุ่นวายครั้งใหม่มาสู่อุตสาหกรรมชิป

ที่สำคัญด้วยความสามารถของลิซ่าก็เรียกได้ว่าพาบริษัทฝ่าฟันอุปสรรคมากมายมาได้ไกลจนอยู่แถวหน้าของโลก คนที่รู้จักเธอเล่าบอกกับไทม์ว่า ลิซ่าเป็นนักยุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาด เพราะเธอมักจะลงทุนในคนที่มีความสามารถ และทิ้งคนที่ไม่คิดจะพัฒนาตัวเอง

“ฉันไม่เชื่อว่าผู้นำเกิดมาเอง แต่ฉันเชื่อว่าผู้นำได้รับการฝึกฝน” ลิซ่าอธิบายกับนิตยสารไทม์ก่อนที่เธอจะเข้าไปประชุม ที่สำคัญเธอยังได้ให้ข้อเสนอแนะที่ชัดเจนกับทีมผู้บริหารของเธอ และกระตุ้นให้พวกเขาดำเนินงานด้านธุรกิจให้เร็วขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และส่วนมากเวลามีการส่งมอบชิปต้นแบบจากโรงงาน เธอมักจะลงไปที่ห้องแล็บเป็นการส่วนตัวเพื่อช่วยตรวจสอบชิปเหล่านั้นอย่างละเอียด

‘Lisa Su’ คว้า CEO of the Year จาก Time หลังพลิกฟื้น AMD ที่เกือบล้มเหลวได้สำเร็จ เครดิตภาพ : afp

ในขณะเดียวกัน Intel ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักของ AMD ก็เริ่มพยายามสร้างนวัตกรรมโปรเซสเซอร์คลาวด์ตัวใหม่ แต่กลับเป็นไปด้วยความล่าช้า ทำให้เมื่อใดที่ชิปของ AMD ออกสู่ตลาด ชิปเหล่านั้นก็จะดีที่สุดในกลุ่ม และยังคาดว่าจะได้รับความสนใจจากคนหลายรุ่นไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่เท่านั้น

ปัจจุบันส่วนแบ่งของ AMD ในตลาด Cloud-CPU ก็เติบโตขึ้น โดยส่วนแบ่งของตลาดนั้นอยู่ที่ 34% จากการประเมินมูลค่าโดยรวมของ AMD ที่แซงหน้า Intel ไปในปี 2022 หลายคนก็มองว่านี่คือ สิ่งที่ไม่คิดว่าใครในอุตสาหกรรมจะเชื่อว่าเป็นไปได้เมื่อไม่กี่ปีก่อน

 

 

อ้างอิงข้อมูล : Time

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์