ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ เข้าสู่ภาพจริง! ผู้เล่นใหญ่เหลือน้อยราย แข่งกันโต

ปี 2567 สมรภูมิ “ฟู้ดเดลิเวอรี่” เหมือนจะมีผู้เล่นลดลง เมื่อแบรนด์ใหญ่ถอดใจ แต่ก็ได้ทุนใหม่เข้ามาสานต่อกิจการเพื่อขับเคี่ยวในตลาด แล้วภูมิทัศน์ธุรกิจจะเป็นไปทิศทางใด "ยอด ชินสุภัคกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์แมน วงใน (LINE MAN WONGNAI) ฉายบทสรุปธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ปี 2567 ปรากฏ “ภาพจริง” 2 มิติ ได้แก่

1. ตลาดแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่อง (Robust) จากช่วงที่ผ่านพ้นโควิด-19 ฟู้ดเดลิเวอรี่ถูกตั้งคำถามว่า “ยอดจะหดตัว” ลงหรือไม่ เพราะภายใต้โรคระบาด ตลาดเติบโตอย่างมาก

 2. จากผู้เล่นหลายราย จะเหลือ “ตัวจริง” ที่มีความแข็งแกร่งเพียง 2-3 เท่านั้น เพราะหากวิเคราะห์ขนาดตลาด จำนวนประชากรในประเทศ ผู้เล่นที่จะเข้ามาแล้วสามารถทำธุรกิจให้ได้ Economy of scale คงไม่มากนัก สุดท้าย ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ในประเทศไทย จะสอดคล้องกับตลาดโลกที่มีผู้เล่น 2-3 ราย

“ปีนี้เป็นปีแห่งความจริงของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่ตลาดยังคง Robust และเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และความจริงอย่างที่สอง ผู้เล่นอาจมีการเปลี่ยนหน้า รายใหญ่รายเล็ก เปลี่ยน Positioning แต่จากที่เคยเห็นมี 5-6 ราย ก็จะเหลือ 2-3 รายเหมือนกับทั่วโลก ซึ่งผู้ที่อยู่ได้จะแข็งแรงแค่ไหน ยืนระยะยาวได้แค่ไหน ภาพปีหน้าจะชัดยิ่งกว่าเดิม จะเห็น Top Two Players” 

สำหรับภาพรวมธุรกิจร้านอาหารมีมูลค่าราว 4 แสนล้านบาท เติบโตราว 5% ทว่า ฟู้ดเดลิเวอรี่ในประเทศไทยมีมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท เติบโตราว 7% และปี 2568 บริษัทยังคาดการณ์ตลาดจะโตต่อเนื่องที่ระดับ 7% ด้วย

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่โต ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ผู้บริโภคยุคดิจิทัล” คือพลังขับเคลื่อน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันวัยทำงาน กลุ่มคนอายุ 30 ปี มีการสั่งอาหารไปทานที่บ้าน ที่ทำงาน ทว่า นักศึกษาที่เรียนจบ และจะเข้าสู่วัยทำงาน ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ทั้งบริโภคสื่อ สั่งอาหาร สั่งซื้อสินค้าอีคอมเมิร์ซ ใช้บริการเรียกรถต่างๆ จะยิ่งใช้ธุรกรรมเหล่านี้มากขึ้น

“ธุรกิจร้านอาหารอาจติดหล่ม แต่ก็เติบโตทุกปี แต่เพราะการแข่งขันสูง ร้านอาหาร 7 แสนร้านค้า ปิดตัว 20-25% ทุกปี เพราะเข้ามาง่าย ผู้ประกอบการมีความฝัน แต่ก็เจ๊งค่อนข้างมาก อีกด้านก็เปิดตัว 20-25% มาทดแทนที่ปิดตัว ส่วนที่มองว่าฟู้ดเดลิเวอรี่เติบโตกว่าร้านอาหาร เพราะลักษณะประชากรศาสตร์ คนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยี แทบไม่มีโอกาสที่จะไม่ทำสิ่งต่างๆ ทั้งการจ่ายเงิน การซื้อสินค้า การนั่งรถ สั่งอาหาร ใช้บริการอีคอมเมิร์ซ สิ่งเหล่านี้ จะผสมผสานดิจิทัลไลฟ์สไตล์มากขึ้น”

ภาพรวมฟู้ดเดลิเวอรี่โต 7% ทว่า “ไลน์แมน” มีมูลค่าการทำธุรกิจเติบโต 35% สูงกว่าตลาด ย้ำ “บัลลังก์เบอร์ 1” ที่มีส่วนแบ่งตลาดจากจำนวนธุรกรรมรายวัน (ประเมินโดยฝ่ายบริหาร) ยังมีสถิติผู้ใช้ต่อเดือนกว่า 10 ล้านราย มีจำนวนร้านค้าพันธมิตรกว่า 5 แสนร้าน และจำนวนไรเดอร์ต่อเดือนกว่า 1 แสนราย และแอ๊คทีฟหลายหมื่นราย 

“เมื่อเศรษฐกิจหรือจีดีพีไทยโต ร้านอาหารจะเติบโตกว่า และฟู้ดเดลิเวอรี่จะโตกว่าธุรกิจร้านอาหาร ขณะที่ไลน์แมนยังมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง ด้วยคนใช้งานเพิ่มขึ้น ยอดการสั่งซื้ออาหารเติบโต 5-10%”  

ล่าสุดได้จัดงาน “LINEMAN Wongnai x ททท. ฟู้ดเฟสติเว่อร์ เรื่องกิน เล่นใหญ่เว่อร์" ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบุกตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ เนื่องจากเป็นจังหวัด 1 ใน 3 หรือ Top 3 ที่มีร้านอาหารจำนวนมากกว่า 7.6 หมื่นร้าน มีร้านอาหารหนาแน่น 3 อำเภอสำคัญ ได้แก่ อำเภอเมือง สันทราย และสันกำแพง มีไรเดอร์แอ๊คทีฟกว่า 4,100 ราย โดยเมนูขายดีที่คนเชียงใหม่นิยมสั่ง ส้มตำปูปลาร้ามาที่ 1 ตามด้วยอเมริกาโน ชาไทย ข้าวมันไก่ และขนมจีนน้ำเงี้ยว

ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวจีนซึ่งกลับมาเที่ยวเชียงใหม่มากขึ้น และไลน์แมนมีแพลตฟอร์มให้บริการบนวีแชท (WeChat) มีการเติบโตขึ้น 26% นิยมสั่งอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว กระเพราและหมาล่า สูงสุด 3 ลำดับแรก 

แผนธุรกิจปีหน้า ไลน์แมนยังมุ่งสร้างการเติบโต มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เสริมแกร่ง ขณะที่แผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตามแผน เพื่อนำเงินทุนไปขยายธุรกิจ