เซ็นทรัลรีเทลดันไทยเมืองชอปปิงโลก เร่งพลิกโฉมเซ็นทรัล-ยกเครื่องโรบินสัน
ธุรกิจค้าปลีกประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าที่ไม่เหมือนเดิม ขณะที่ไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลก มีกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวเป็นโอกาสธุรกิจ นำสู่การปรับโฉมห้างค้าปลีกตลอดเวลา
ล่าสุด “เซ็นทรัล ชิดลม” แฟลกชิปสโตร์ของกลุ่มเซ็นทรัล พลิกโฉมครั้งใหญ่ตามเทรนด์ตลาด และยังได้วางแผนห้างเซ็นทรัลและโรบินสันครั้งใหญ่ต่อเนื่องจากนี้
ณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล มีห้างทั้งหมด 76 สาขา แบ่งเป็น ห้างเซ็นทรัล 29 สาขา โรบินสัน 47 สาขา โดยทีมบริหารงานห้างของสองแบรนด์ได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ร่วมวางแผนธุรกิจและการจัดทำแผนจัดซื้อ ทั้งหมดเพื่อให้การบริหารงานทุกอย่างมีประสิทธิภาพที่สูงมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีศักยภาพสอดรับกับตลาด กลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา และตลาดนักท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เข้ามาในประเทศไทยมีความหลากหลาย ทั้งจากจีน ซีแอลเอ็มวี และตะวันออก
ที่ผ่านมา ได้มีการปรับโฉม “ห้างโรบินสัน” สู่ “ห้างเซ็นทรัล” ในสาขาที่กำลังดำเนินการอยู่กับ “เซ็นทรัล บางรัก" ใช้งบประมาณ 250-300 ล้านบาท คาดเปิดโฉมใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสแรกปี 2568 พร้อมกันนี้ มีแผนปรับโฉมสาขาของโรบินสันสู่ห้างเซ็นทรัลอีก 1-2 สาขา
“เราไม่มีนโยบายปรับสาขาทั้งหมดไปสู่ห้างเซ็นทรัล เพราะโรบินสันก็มีกลุ่มลูกค้าแตกต่างกัน เป็นแบรนด์ที่เราจะทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้สะดวก (affordable) อย่างโรบินสัน ย่านสุขุมวิท ไม่มีแผนปรับเป็นห้างเซ็นทรัล เพราะมีสาขาใจกลางเมืองทั้งชิดลม และเซ็นทรัลเวิลด์”
สำหรับห้างเซ็นทรัล 2 แห่ง ปิ่นเกล้า และแจ้งวัฒนะ จะมีการปรับปรุงในปี 2568 ให้สอดคล้องกับตลาดและความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยที่ผ่านมาห้างเซ็นทรัลจะมีการปรับโฉมใหญ่ในเวลาประมาณ 10 ปี
ขณะที่ “เซ็นทรัล ชิดลม” โฉมใหม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว วางหมุดหมายให้เป็น “The Store of Bangkok” กับการเป็นห้างลักชัวรีระดับโลกที่สมบูรณ์แบบที่สุดใจกลางกรุงเทพ ฯ ดึงลูกค้าเข้ามาใช้จ่ายกับสินค้าแบรนด์ต่างๆ แทนการไปเลือกซื้อสินค้าในต่างประเทศ รวมถึงดึงดูดลูกค้าในต่างประเทศให้เข้ามาท่องเที่ยวและใช้จ่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
“ห้างเซ็นทรัลชิดลม” แฟลกชิปสโตร์ พื้นที่รวม 6 หมื่น ตร.ม. เป็นการรีโนเวทครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี มีไฮไลต์ทั้งการจัดโซนสินค้าใหม่ รวบรวมแบรนด์สินค้าลักชัวรีจากทุกมุมโลกรวม 500 แบรนด์ นำเสนอสินค้าเอ็กซ์คลูชีฟ 10% พร้อมทำโซนบิวตี้แกลลอรี่ รวมความงามและสินค้าเครื่องสำอาง 150 แบรนด์
รวมถึงลักซ์ แกลอรี่ รูปแบบช็อปอินช็อป รวมแบรนด์หรูจากมุมโลก “ชูส์อเวนิว” ลูกค้าได้ลองและเลือกช้อปรองเท้าจากทุกแบรนด์มีมุม เดอะ บาร์ นำเสนอเครื่องดื่มต่างๆ โซนสนีกเกอร์ใหญ่สุดในประเทศ รวมสินค้ากลุ่มสตรีตแฟชั่นและสินค้าลิมิเต็ด เอดิชัน เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่
อีกทั้งได้ทำสโตร์ให้มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ตกแต่งสีด้านในและด้านนอกมาโทนสีชมพูชิดลม (Chidlom Pink) แห่งเดียวในประเทศไทย ร่วมสร้างรู้สึกแตกต่างให้แก่ลูกค้าเมื่อเทียบกับห้างเซ็นทรัลแห่งอื่นๆ ที่ใช้สีแดง รวมถึงถุงชอปปิงที่เลือกใช้สีชมพูเป็นสัญลักษณ์เช่นกัน
ประเมินจากการภายหลังเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ พร้อมดึงดูดกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 20% จากที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 2.5 หมื่นคนต่อวัน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3 หมื่นคนต่อวัน โดยได้ทยอยเปิดให้บริการในบางโซนตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สามารถยอดขายเพิ่มขึ้น 25%
พร้อมจัดงานฉลองเปิดโฉมสาขาใหม่อย่างเป็นทางการวันที่ 12 ธ.ค. และมีการเปิดตัว “นัม จู ฮยอก” (Nam Joo Hyuk) ซูเปอร์สตาร์จากเกาหลีใต้ มาทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของห้างเซ็นทรัลชิดลม
ปัจจุบัน "ห้างเซ็นทรัลชิดลม สร้างยอดขายสูงสุด" ลูกค้ามียอดการใช้จ่ายประมาณ 2 หมื่นบาทต่อครั้ง เทียบห้างเซ็นทรัลสาขาอื่นๆ ใช้จ่ายเฉลี่ย 1 หมื่นบาทต่อครั้ง ประเมินว่า ปี 2568 เมื่อมีการเปิดให้บริการแบบครบ 100% แล้วจะสร้างผลประกอบการเติบโต 30%
ณัฐธีรา เสริมว่า ห้างเซ็นทรัลมีฐานลูกค้าหลายกลุ่ม ซึ่งกลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูงหรือพรีเมียม (Cenfinity) มี 7,000 คน ใช้จ่ายประมาณ 6 แสนบาทต่อปี กลุ่มนี้มียอดการใช้จ่าย "เทียบเท่ากับลูกค้าในห้างยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล" และมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อปี 10-15% แสดงถึงลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและปัจจัยภายนอกต่างๆ
สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยที่ร่วมดึงดูดแบรนด์ลักชัวรีมาเปิดมากขึ้นและเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคแห่งนี้แล้ว
นัม จู ฮยอก (Nam Joo Hyuk) ซูเปอร์สตาร์เกาหลีใต้ แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของห้างเซ็นทรัลชิดลม
