‘ฐาปน สิริวัฒนภักดี’ CEO of the Year 2024

‘ฐาปน สิริวัฒนภักดี’  CEO of the Year 2024

"ฐาปน สิริวัฒนภักดี" แม่ทัพใหญ่แห่ง "ไทยเบฟเวอเรจ" คว้ารางวัลซีอีโอแห่งปี หรือ CEO of the Year 2024 หลังขับเคลื่อนอาณาจักรแสนล้านบาทของไทย ให้เติบใหญ่ในเวทีภูมิภาคอาเซียน มาร์เก็ตแคป มูลค่ามหาศาลติด ​Top 10 บนกระดานยักษ์เครื่องดื่ม

เป็นประจำทุกปีที่ “กรุงเทพธุรกิจ” จะมอบรางวัล CEO of the Year โดยในปี 2567 การพิจารณารางวัลได้ดำเนินการร่วมคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และจัดให้มีการมอบ 4 รางวัล ประกอบด้วย CEO of the Year, Sustainable CEO, Innovative CEO และ Young CEO

สำหรับ CEO of the Year 2024 ได้กำหนดเกณฑ์การพิจารณาประกอบด้วย 2 ส่วน คือ

1.Common Criteria สัดส่วนคะแนน 50% แบ่งเป็น ความเป็นผู้นำ 20%, การกำหนดกลยุทธ์ 15%, และการปฏิบัติตามกลยุทธ์ 15%

2.CEO of the Year สัดส่วนคะแนน 50% แบ่งเป็น การกำกับดูแลกิจการที่ดี 20%, การบริหารงาน และความสัมพันธ์กับบุคลากร 10%, การบริหารงาน และความสัมพันธ์กับภายนอก 10% และความรู้ในผลิตภัณฑ์ และบริการ 10%

จากเกณฑ์ข้างต้น คณะกรรมการลงความเห็นมอบรางวัล CEO of the Year 2024ให้แก่ "ฐาปน สิริวัฒนภักดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)  

หากนับอายุขององค์กรยักษ์ใหญ่เครื่องดื่ม และอาหารของเมืองไทยอย่าง “ไทยเบฟเวอเรจ” เพิ่งผ่านการเคลื่อนธุรกิจกว่า 20 ปีเศษเท่านั้น ทว่า เส้นทางธุรกิจถือว่าสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยตลอด 2 ทศวรรษ มีการทรานส์ฟอร์มหลายด้าน โดยเฉพาะการแปลงธุรกิจครอบครัวสู่ “มหาชน” นำบริษัทไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

มรรควิธีทางลัด “ซื้อและควบรวมกิจการ” หรือ M&A เป็นหนึ่งในสูตรเคลื่อนทัพธุรกิจ ก้าวสู่องค์กรระดับ “แสนล้านบาท” และปี 2566(ปีงบบัญชี ก.ย.2565 - ต.ค.2566) บริษัทมีรายได้ 2.8 แสนล้านบาท และกำไรสุทธิมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท

ภายใต้การนำทัพของ “ฐาปน” ตลอดปี 2567 เดินหน้าปรับองคาพยพหลายมิติ เพื่อแบ่งอาณาจักรแสนล้านบาท สร้างการเติบโตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง

หากสำรวจดูการบริหารงาน นับตั้งแต่เปิดศักราชปีมังกรได้ “เขย่าโครงสร้างครั้งใหญ่” โดยปรับตำแหน่งจากกรรมการ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปสู่ “กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” หรือ Director and Group CEO พร้อมโปรโมตขุนพลข้างกายให้ดูแลตลาดในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมรายงานตรงกับตนเอง

อีกด้านคือ การ “จัดทัพใหญ่” ของกลุ่มธุรกิจ ด้วยการ “ถอนหุ้น” บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ตามรอยบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จากนั้นจึงเดินเกม “แลกหุ้น” ระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจเครื่องดื่ม

โดยดำเนินการผ่านบริษัท InterBev Investment Limited หรือ IBIL กับบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ จำกัด หรือ TCC Assets Limited (TCCAL) เพื่อทิ้งหุ้นทั้งหมดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้บริษัท เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ส่วนทีซีซีแอสเซ็ทส์ โอนหุ้นเฟรเซอร์แอนด์นีฟ F&N) ทั้งหมดให้ IBIL

กลยุทธ์นี้ทำให้ “ไทยเบฟ” แข็งแกร่งในธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มากขึ้น เพราะ “เฟรเซอร์แอนด์นีฟ” จากเดิมเป็น “บริษัทร่วม” ให้กลายเป็น “บริษัทย่อยในเครือ” ยิ่งกว่านั้นรวมรายได้ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์แตะระดับ “7 หมื่นล้านบาท” จากเดิมที่ 1.5 หมื่นล้านบาท

ปี 2567 “ไทยเบฟ” ประกาศยุทธศาสตร์ 6 ปี ภายใต้ “Sustainable Growth to PASSION 2030” เพื่อสร้างการเติบโตก้าว พร้อมชู 2 กลยุทธ์ “REACH Compettitively” และ “DIGITAL for Growth” เพื่อรองรับการแข่งขัน

บทบาทบริหารของ “แม่ทัพหนุ่ม ฐาปน” เป็นส่วนสำคัญทำให้ไทยเบฟมีมูลค่ามาร์เก็ตแคปต่อกรกับ “ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่ม” ในเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ เพื่อยืนหยัดบนกระดานเป็นหนึ่งใน 10 หรือ Top 10

นอกจากภารกิจแบ่งอาณาจักรแสนล้านบาทให้เติบโต “ความยั่งยืน” เป็นอีกโจทย์ใหญ่การดำเนินธุรกิจ ซึ่ง “ฐาปน” ให้ความสำคัญมากขึ้นจึงเห็นการระดมทีมงานจัดงานใหญ่แห่งปีอย่าง “Sustainability Expo 2024” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 แล้ว 

งานดังกล่าวกลายเป็นพันธกิจ และเวทีของการขับเคลื่อนความยั่งยืนที่ใหญ่สุดในอาเซียนด้วย เนื่องจากมีบิ๊กคอร์ปไทย และต่างประเทศรวม 270 แห่ง ผสานพลังกับภาครัฐ ภาคเอกชน วิทยากร และผู้เชี่ยวชาญ 600 รายทั่วโลก เพื่อจุดประกายเพื่อโลกที่ดีกว่าเดิม

งาน “Sustainability Expo 2024” กลายเป็นเวทีที่สร้างเครือข่าย และสร้างปรากฏการณ์รักษ์โลกให้สัมฤทธิผลมากขึ้น เพราะอนาคตห่วงโซ่การผลิตที่บิ๊กคอร์ปต้องทำให้สำเร็จคือ การดึงพันธมิตรคู่ค้าทางอ้อมใน Scope 3 ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน

นอกจากนี้ได้เห็น “ไทยเบฟ” ขยายการลงทุนไปในน่านน้ำธุรกิจใหม่ โดยประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่สู่ “ฟาร์มโคนมในมาเลเซีย” วงเงิน 8,000 ล้านบาท ที่เกิดจากการมองถึงความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนการเป็นทุนไทยที่ดีในการดำเนินธุรกิจสร้างประโยชน์ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น 

การทุ่มเทบริหารงานหนักของ “ฐาปน” ครอบคลุมทุกภาคส่วนขององค์กร จึงทำให้ “ไทยเบฟ” เป็นองค์กรธุรกิจไทยแข็งแกร่งในประเทศยิ่งใหญ่ในเวทีอาเซียน ไต่ระดับสู่เอเชีย และผงาดตลาดโลก

“ฐาปน” กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” หลังคว้ารางวัล CEO of the Year โดยแสดงความขอบคุณผู้บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) และคณะกรรมการตัดสินในครั้งนี้ ที่ได้มอบรางวัลอันทรงเกียรติ CEO of the Year 2024 ให้กับตนเอง ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บริษัทจะได้นำความภาคภูมิใจองค์กรของคนไทย ที่ได้สร้างชื่อเสียง และร่วมกันในการขับเคลื่อนมิติการพัฒนาสร้างการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่นำความภาคภูมิใจให้กับคนไทย พร้อมสร้างชื่อเสียงให้กับองค์กรไทยในระดับประเทศ ระดับภูมิภาคอาเซียน ที่เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

“นับเป็นความภาคภูมิใจ และเป็นกำลังใจสำคัญยิ่งให้ผมได้มีความมุ่งมั่นในการทำงาน รวมทั้งผู้บริหาร เพื่อพนักงานทุกคนของกลุ่มไทยเบฟ ที่เราจะร่วมกันสร้างสรรค์ และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต ซึ่งถือเป็นพันธกิจสำคัญของพวกเราทุกคน ในเรื่องของ Creating and Sharing the Value of Growth ซึ่งเป็น Vision Statement ของกลุ่มบริษัท”

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์