ย้ายฐานสู่ไทย โอเรียนท์ (ORIENT) นาฬิกาดังญี่ปุ่น เมดอินไทยแลนด์เต็มรูปแบบ
นาฬิกาญี่ปุ่น “โอเรียนท์” (ORIENT) อยู่ในตลาด 70 ปี ประกาศแผนใช้ไทยเป็นฐานโรงงานผลิตและประกอบเต็มรูปแบบ ที่ ฉะเชิงเทรา ปักหมุดส่งออกทำตลาดไปทั่วโลก พร้อมเปิดโฉมนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่น "Bambino, “Pride of Thailand Limited Edition” ฉลองเมดอินไทยแลนด์
KEY
POINTS
- โอเรียนท์ (ORIENT) นาฬิกาดังญี่ปุ่น ย้ายฐานสู่ไทยสู่โรงงาน ฉะเชิงเทรา ฐานของ EPSON
- มองประเทศไทยมีศักยภาพแข็งแกร่งในภูมิภาค ทั้งการขนส่ง โลจิสติกส์ และแรงงานทักษะสูง
- ดันไทยสู่ฐานผลิตและส่งออกนาฬิกาสู่ลูกค้าทั่วโลก
- เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ โอเรียนท์ Bambino, “Pride of Thailand Limited Edition” ฉลองเมดอินไทยแลนด์ในไทย
โอเรียนท์ (ORIENT) แบรนด์นาฬิกาที่มีจุดกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น และอยู่ในตลาดโลกมากว่า 70 ปี ได้ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ กับการย้ายฐานการผลิตมาไทยอย่างเต็มรูปแบบจากเดิมอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งเป็นฐานผลิตและประกอบการนาฬิกาแบรนด์โอเรียนท์ (ORIENT) สำหรับโรงงานแห่งนี้อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา มีกำลังการผลิตประมาณ 4 หมื่นเรือนต่อเดือน
นาฬิกา ORIENT อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ SEIKO EPSON CORPORATION ประเทศญี่ปุ่น ในเครือของเอปสัน (EPSON) โดยดูแลแบรนด์นาฬิกา ORIENT และ ORIENT STAR พร้อมมี บริษัท สหกรุงทอง (UKT) เป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์นาฬิกาทั้งสองอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
มาซาชิ ฮายาชิ Executive Officer, Wearable Products Operations Division, Seiko Epson Corporation ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทเลือกมาลงทุนในไทยเพื่อเป็นฐานการผลิตระดับโลก มาจากการจากการเปรียบเทียบฐานการผลิตของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ที่มีอยู่ของบริษัทแม่ เอปสัน (EPSON) ก่อนตั้งสินใจเลือกประเทศไทย ผ่านบริษัทที่เป็นผู้ผลิตในประเทศไทยกับ เอปสัน ไทยแลนด์ (EPSON Thailand: EPTH)
Masashi Hayashi Executive Officer, Wearable Products Operations Division, Seiko Epson Corporation
เลือกใช้ไทยจากแรงงานมีศักยภาพสูงและโลจิสติกส์
รวมถึงมาจากการคำนึงถึงการจัดหาชิ้นส่วนและการขนส่งที่มีศักยภาพเพียงพอ ตลอดจนศักยภาพของแรงงานที่มีฝีมือ เนื่องจากฐานโรงงานในไทยมีส่วนสำคัญในการผลิตชิ้นส่วนของนาฬิกา ORIENT มาตั้งแต่ปี 2562 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 48,804 ตร.ม. ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
สำหรับโรงงานแห่งนี้ ควบคุมการผลิตภายใต้มาตรฐานคุณภาพของเอปสันแบบเดียวกันทั้งหมด ที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นถ่ายทอดมาตรฐานคุณภาพ กฎระเบียบด้านเทคโนโลยี
ทั้งนี้มีแนวทางดูแลพนักงาน โดยเมื่อพนักคนไทยเมื่อเข้าทำงานในบริษัท ต้องเข้ารับการฝึกอบรมการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐาน EPSON รวมถึงได้เรียนรู้หลักปฏิบัติผ่านเอกสารมาตรฐานการทำงานที่ระบุขั้นตอนและประเด็นสำคัญสำหรับงานที่ได้รับมอบหมายแต่ละงาน หลังจากนั้นได้รับทักษะและประสบการณ์ผ่านการฝึกอบรมในงาน (OJT) แสดงให้เห็นถึงทักษะที่ได้มาในระดับหนึ่งเท่านั้น จึงได้รับการรับรองจากการสอบรับรองทักษะ และได้รับอนุญาตให้ทำงานในสายการผลิต
ฐานการผลิตของ โอเรียนท์ในไทยที่ฉะเชิงเทรา
ย้ายฐานจากญี่ปุ่นสู่ประเทศไทยเต็มรูปแบบปี 2567
สำหรับจากการลงทุนในไทยครั้งนี้ ถือเป็นการผลิตแบบเมดอินไทยแลนด์ ทั้งการผลิตชิ้นส่วนและการประกอบการนาฬิกา จากเดิมมีโรงงานหลักของแบรนด์โอเรียนท์อยู่ในประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นโรงงานประกอบนาฬิกา และส่งออกไปทั่วโลก
ทั้งนี้ประเทศไทยจึงกลายเป็น ประเทศเดียวที่ผลิตและส่งออกนาฬิกา โอเรียนท์ไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยได้เริ่มเดินเครื่องการผลิตเต็มรูปแบบ อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2567 นี้เป็นต้นไป มีกำลังการผลิตประมาณ 4 หมื่นเรือนต่อเดือน
ส่งนาฬิการุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ฉลองเมดอินไทยแลนด์
อีกทั้งเพื่อร่วมฉลองการเปิดไลน์การผลิตนาฬิกา ORIENT อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทำให้บริษัทได้นำเสนอรุ่นพิเศษที่เป็น ลิมิเต็ด เอดิชั่นกับ "Bambino, “Pride of Thailand Limited Edition”
ไฮไลต์ของนาฬิกา ORIENT รุ่น Bambino, “Pride of Thailand Limited Edition” มีจำนวนการผลิตแบบจำกัดเพียง 500 เรือนทั่วโลก มีความพิเศษกับการนำเสนอนาฬิกาในแบบสองสาย ทั้งในสายแบบนูบัค และแบบสายสตีล ตามสไตล์ของนาฬิการุ่น Bambino ยอดนิยม ขนาดตัวเรือนอยู่ที่ 38 มม. ส่วนสีสันหน้าปัดในโทนสีคอปเปอร์ผิวสัมผัสแบบซันเบิร์ด สะท้อนถึงแสงยามรุ่งอรุณ ณ ประเทศไทยกับเช้าวันใหม่ รวมถึงทําให้นึกไปถึงสีของชาไทย ที่เป็นเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยที่ทั่วโลกรู้จัก และติดอันดับในโลก
อีกทั้งได้กำหนดหมายเลขประจำเรือนที่สลักบนขอบฝาด้านหลัง พร้อมกับตราสัญลักษณ์ Pride Thailand Limited Edition และข้อความ “A NEW MILESTONE OF QUALITY DEFINITION” ส่วนราคาจำหน่ายที่ประเทศไทย 13,800 บาท
ทั้งนี้แบรนด์ ORIENT จากประเทศญี่ปุ่น เน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่เริ่มสวมใส่นาฬิกา มาจากการมุ่งกำหนดราคาที่ต้องจับได้ มาใน 3 รูปแบบ ได้ แก่ คลาสสิก ร่วมสมัย และสปอร์ต มีลูกค้าตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงกลุ่มผู้สูงวัย ส่วนอีกแบรนด์ในเครือคือ ORIENT STAR เน้นดีไซน์หลากหลายและเทคโนโลยี มุ่งเจาะตลาดลูกค้าระดับบนขึ้นไป ที่มีฐานผลิตหลักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
ORIENT ลิมิเต็ด เอดิชั่นกับ "Bambino, “Pride of Thailand Limited Edition”
คม สัจจวโรดม ผู้จัดการสินค้าแบรนด์ โอเรียนท์ ORIENT เสริมว่า นาฬิกาโอเรียนท์มีหลายรุ่นที่ได้รับความนิยม ทั้ง Bambino, Sunandmoon, Diver Design แต่ละรุ่นจะมีดีไซน์คอนเซ็ปต์ต่างกัน ทั้งซีรี่ส์ซันแอนด์มูน และ ซีรีส์ Diver Design ที่เรียกว่ามาโก้ (Mako) เป็นนาฬิกากลุ่มดีไซน์แบบดำน้ำ มีหลากหลายดีไซน์ ขนาด และกลไกนาฬิกา ทั้งออโตเมติกและโซล่าพาวเวอร์
รวมถึง แบมบิโน่ ชื่อทางการกับ Classic and Simple Style หรือเรียกว่า “แบมบิโน่” เอกลักษณ์ของรุ่นนี้เป็นกระจกและหน้าปัดแบบโค้งมีหลายเวอร์ชัน โดยรุ่นล่าสุดมีขนาดตัวเรือน 38 มม. และรุ่นที่มีการนำฟังก์ชั่น “ซันแอนด์มูน” เข้ามาใส่ ซึ่งทุกรุ่นอยู่ในไลน์การผลิตทั้งหมดที่ประเทศไทย ตั้งแต่การประกอบเครื่องกลไกต่างๆ จนเสร็จสิ้น และประทับตราคำกว่า เมดอินไทยแลนด์ (Made in Thailand) เพื่อส่งจำหน่ายไปยังประเทศต่างๆ ในมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม นาฬิกา ได้เปิด Pre-order อย่างเป็นทางการครั้งแรก ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 พ.ย. 2567 ผ่านทางเฟสบุ๊ก Orient Watch Thailand Forum พร้อมร้านตัวแทนจำหน่าย ส่วนสินค้าพร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าในเดือน เม.ย.2568