‘เถ้าแก่น้อย’ รับตลาดจีนเหนื่อย! เจอโจทย์ห้างร้านปิดตัวลงแบบงงๆ คนประหยัด

‘เถ้าแก่น้อย’ รับตลาดจีนเหนื่อย! เจอโจทย์ห้างร้านปิดตัวลงแบบงงๆ คนประหยัด

“จีน” เป็นตลาดสำคัญของสแน็คสาหร่าย “เถ้าแก่น้อย” ทั้งมิติด้านนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยแล้วซื้อกลับไปเป็นของฝาก ส่วนในแดนมังกร ก็บุกขายทุกช่องทางทั้งออฟไลน์ หน้าร้านต่างๆ รวมถึงออนไลน์ บนแพลตฟอร์มหลากหลาย

ทว่า โควิด-19 ระบาดกลายเป็นเป็นมรสุมใหญ่ที่กระทบธุรกิจเถ้าแก่น้อย เพราะถือเป็นตะกร้าใหญ่ในการทำเงิน สร้างรายได้ และการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องปรับทัพ พลิกกลยุทธ์เพื่อประคองธุรกิจให้ “เจ็บ” น้อยที่สุด

ผ่าน 9 เดือนปี 2567 แม้ภาพรวมยอดขายของเถ้าแก่น้อยยอดขาย 4,243 ล้านบาท เติบโต 6.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เมื่อเจาะตลาดในประเทศ ยอดขายเติบโต 7.1% แต่ต่างประเทศเติบโต 6.1% โดยสัดส่วนรานได้นั้น ตลาดในประเทศอยู่ที่ 36% และต่างประเทศ 64%

นอกจากนี้ เจาะลึกตลาดต่างประเทศ ไตรมาส 3 มียอดขาย 908.6 ล้านบาท “ลดลง 1.2%” จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่ง “จีน” มียอดขาย 301.3 ล้านบาท “ลดลงถึง 15.1%” จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนตลาดต่างประเทศอื่นๆ ยอดขาย 607.3 ล้านบาท “เพิ่มขึ้น 3.1%” จากช่วงเดียวกันปีก่อน

‘เถ้าแก่น้อย’ รับตลาดจีนเหนื่อย! เจอโจทย์ห้างร้านปิดตัวลงแบบงงๆ คนประหยัด

รวม 9 เดือน ยอดขายต่างประเทศอยู่ที่ 2,710.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% โดยยอดขายในจีนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะเกิดจาก “ภาวะการแข่งขันภายในประเทศ” มีการเปลี่ยนแปลงจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภค “ระมัดระวังการใช้จ่าย” รวมถึงช่องทางจำหน่ายห่างค้าปลีกสมัยให่ม่หรือโมเดิร์นเทรด “หดตัวลง”

“ตลาดจีนยังเหนื่อย รายงานจากนีลเส็น ไอคิว ระบุว่าพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนเน้นจับจ่ายซื้อสินค้าจำเป็นต่อชีวิต ส่วนสแน็ค ขนมหวานจะมีการปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้านำเข้า ต้นทุนสูงจากค่าระวางเรือ และคนเน้นใช้จ่ายสินค้าที่คุ้มค่าหรือ Value for money” วชิระ ญาณทัศนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานการค้าต่างประเทศ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด(มหาชน) ฉายภาพ และขยายความว่า

‘เถ้าแก่น้อย’ รับตลาดจีนเหนื่อย! เจอโจทย์ห้างร้านปิดตัวลงแบบงงๆ คนประหยัด

“ความคุ้มค่า หรือ Value for money เป็นสิ่งที่ฝังหัวผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบัน”

ทั้งนี้ ภาพรวมสินค้าจำเป็น(FMCG) ตลาดจีนครึ่งปีแรก ช่องทางออฟไลน์หรือร้านค้าต่างๆหดตัวลง แต่ช่องทางออนไลน์ยังเติบโตดีที่ 10%

ภาพดังกล่าวยังกระทบต่อ “เถ้าแก่น้อย” เพราะช่องทางใหญ่ที่บริษัทจำหน่ายสินค้าผ่านออฟไลน์ทั้งของ วอลมาร์ต เหอหม่า ฯ “ปิดตัวลง”

“ช่องทางใหญ่เหอหม่า วอลมาร์ตปิดตัวลง เราไปสำรวจตลาดใหญ่ ร้านค้าประจำ ชอปปิงเซ็นเตอร์ต่างๆ ปิดตัวลง..เราก็งงว่าไม่น่าปิด แต่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังยังไง แต่มีการลดตัวลงไป”

‘เถ้าแก่น้อย’ รับตลาดจีนเหนื่อย! เจอโจทย์ห้างร้านปิดตัวลงแบบงงๆ คนประหยัด เถ้าแก่น้อยเผยห้างร้านในจีนปิดตัวลงแบบงงๆ

การปรับตัวในตลาดจีน เถ้าแก่น้อย พยายามเจาะช่องทางใหม่ๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยออฟไลน์ หันไปแทรกซึมร้าน “มินิโซ” ซึ่งเป็นช่องทางที่เติบโตดี จากเดิมร้านเน้นจำหน่ายสินค้ากิ๊ฟช็อป ได้มีการเพิ่มพื้นที่ให้มีชั้นวาง(เชลฟ์)สำหรับสินค้าสแน็คมากขึ้น มุ่งเจาะร้านค้าขนาดเล็กใกล้ชุมชน บ้านเรือนของผู้คน

“ช่องทางไฮเปอร์ที่เคยเป็นฐานหลัก ลดลง เราก็ไปร้านค้าขนาดเล็ก สแน็คสโตร์ ร้านใกล้บ้านผู้บริโภค”

นอกจากนี้ ยังลุยเจาะโรงแรม 5 ดาว ด้วยการนำสินค้าไปทำกิจกรรมต่างๆ เข้าถึงและ “ขยี้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย” ทั้งเด็ก วัยทำงาน ผู้ใหญ่ โดยโรงแรมที่เลือกยังเน้นทำเลหรือโซนท่องเที่ยวอย่าง เมืองซานย่า มณฑลไหหลำ สร้างคีย์ออสขนาดใหญ่ มีตุ๊กตาให้ผู้คนถ่ายรูป และแชร์ รวมถึงการ “ผนึกกำลัง” กับร้านอาหารขนาดใหญ่ที่จีนตอนใต้ ซึ่งมีอยู่ 200 สาขา มีการรังสรรค์เมนูใหม่ๆร่วมกันเพื่อเสิร์ฟลูกค้า

‘เถ้าแก่น้อย’ รับตลาดจีนเหนื่อย! เจอโจทย์ห้างร้านปิดตัวลงแบบงงๆ คนประหยัด

รวมถึงการหาสินค้า Value for money ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคเสริมทัพการจำหน่ายมากขึ้น เพราะหากปล่อยให้ “สินค้าจีนยึดพื้นที่หมด” ทั้งที่เป็นช่องทางเข้ายาก อาจกระทบแบรนด์สินค้าได้ จึงต้องมีโปรโมชั่น สินค้าคุณภาพ “ราคายุติธรรม” ป้อนตลาด ไม่เน้นสงครามราคา ซึ่งที่ผ่านมามีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 7 รายการ จะสร้างส่งสินค้าที่ว้าวเสริมทัพ สินค้าที่อร่อย สินค้ารับเทรนด์สุขภาพ สินค้าที่ทานแล้วสนุก สร้างความตื่นเต้นรสชาติ ฯ มากยิ่งขึ้น

ส่วนช่องทางออนไลน์ ฐานทัพสำคัญอย่าง “ทีมอลล์” ยังคงรักษาให้มั่น รวมถึง JD.com Alibaba(เถาเป่า) ฯ แต่ต้องขยายช่องทางหรือแพลตฟอร์มอื่นๆเพิ่ม เพราะปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีน “เคลื่อนย้าย” การซื้อสินค้าไปยังแพลตฟอร์มใหม่ๆ ไม่ว่า โต่วอิน(Douyin) พินตัวตัว(Pinduoduo) ซึ่งขายสินค้าจำนวนมาก และขายใน “ราคาถูก” ต่อสู้กันด้วยกลยุทธ์ราคา มีการรีวิวสินค้า และ “เร่งปิดการขายอย่างแยบยล” รวมถึงการใช้คนดังบนโลกออนไลน์(KOLs) รีวิวสินค้าเพื่อให้แบรนด์และสินค้าอยู่ในใจผู้บริโภค

ส่วนปี 2568 เถ้าแก่น้อย จะเล่นใหญ่ขยายตลาดออฟไลน์ทั้งห้างค้าปลีก คอมมูนิตี้ต่างๆ แทรกซึมแบรนด์เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง

“สินค้าสแน็ค ซีฟู้ดตกกันหมด แต่สาหร่ายเถ้าแก่น้อยตกในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ คู่แข่งอื่นตกแรงมาก แต่ยอดขายเรายังสูงอันดับ 8 ในหมวดสินค้าจากทะเล”

‘เถ้าแก่น้อย’ รับตลาดจีนเหนื่อย! เจอโจทย์ห้างร้านปิดตัวลงแบบงงๆ คนประหยัด

ส่วนตลาดต่างประเทศอื่นฯ สหรัฐ จะเห็นการเดินเกมรุก ป้อนสินค้าเข้า ALDI ได้ 120 สาขาแล้ว อยู่ในโซนแคลิฟอร์เนียร์ ร้านวอลมาร์ตขยาย 1,200 สาขา ที่สร้างความภาคภูมิใจให้สินค้าและแบรนด์ไทยเจาะเข้าไปจำหน่ายได้ รวมถึง KROGER ที่แทรกซึมได้ระยะหนึ่งแล้ว และมุ่งเป้าจำหน่ายสินค้าให้ได้ 800 สาขา

ตลาดยุโรป ได้รับผลตอบรับดีหลังออกงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มอย่าง “SIAL” ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ทำให้ลุยตลาดประเทศเยอรมัน ได้เสริมทัพช่องทางหลักร้านค้าในประเทศเนเธอแลนด์ และวางแผนจะกระจายรุกตลาดให้กว้างขวางขึ้น

“ตลาดจีนปีนี้ภาพรวมทรงๆ แต่เราจะทำตลาดส่งเสริมการขาย ทำกิจกรรมร่วมผู้บริโภค มีการร่วมกับร้านอาหารในจีน เข้าช่องทางใหม่ ในโรงแรมมากขึ้น รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคจีนเปลี่ยน ส่วนตลาดอื่นๆยุโรป ออสเตรเลียเติบโตดี แต่ภาพใหญ่เราต้องลดการพึ่งพาตลาดใหญ่อย่างจีน”