จับตาเซ็นทรัลรีเทล ตั้ง สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ซีอีโอใหม่ นำทัพค้าปลีกแสนล้าน
ผลัดใบครั้งใหญ่ เซ็นทรัลรีเทล ประกาศแต่งตั้ง “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ขึ้นแท่น "ซีอีโอคนใหม่ เซ็นทรัลรีเทล" มีผล 1 พ.ค. 2568 เคลื่อนอาณาจักรค้าปลีกแสนล้าน แทน "ญนน์ โภคทรัพย์" ที่ครบกำหนดเกษียณอายุ
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเซ็นทรัลรีเทล ภายใต้อาณาจักรค้าปลีกกลุ่มเซ็นทรัล โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้ประกาศแต่งตั้ง “นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ขึ้นสู่ตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ คนใหม่ โดยเตรียมเข้ามารับตำแหน่งแทน "นายญนน์ โภคทรัพย์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ที่ครบกำหนดเกษียณอายุ มีผลตั้งแต่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้เซ็นทรัลรีเทล มี 4 ธุรกิจหลักได้แก่ ธุรกิจแฟชั่น ทั้งห้างเซ็นทรัล ทั่วประเทศ, ธุรกิจฮาร์ดไลน์ ที่มีไทวัสดุ, ธุรกิจฟู้ดมีทั้ง ท็อปส์ และโก โฮลเซลล์ และ ธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ กับศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ทั้งนี้มีธุรกิจอยู่ใน 3 ประเทศได้แก่ ไทย เวียดนาม และอิตาลี
สำหรับ นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ในปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร Central Home group ของเซ็นทรัลรีเทล โดยไทม์ไลน์การทำงานได้เข้ามาร่วมทำงานกับกลุ่มเซ็นทรัล ประมาณช่วงปี 2540 บทบาทที่ผ่านมา บริหารแบรนด์ต่างๆ ในเครือแทบครบทุกแบรนด์ อาทิ ซูเปอร์สปอร์ต เพาเวอร์บาย การเข้าไปบริหารธุรกิจของกลุ่มในเวียดนาม และการบริหาร ไทวัสดุ พร้อมร่วมผลักดันการขยายสาขาใหม่อย่างรวดเร็วไปทั่วประเทศ จนมีสาขาใกล้เคียงกับผู้นำตลาดค้าปลีกกลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านแล้ว
ขณะที่ นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล ที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน ได้เข้ามาร่วมทำงานกับเซ็นทรัลรีเทล ตั้งแต่ช่วงปี 2561 ก่อนที่บริษัทจะแปลงสภาพเป็น บริษัทมหาชน เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงปี 2563 ซึ่งในช่วงการระดมทุน (ไอพีโอ) สร้างมูลค่าระดมทุนสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงเป็นการขายหุ้น ไอพีโอ กลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีมูลค่าสูงที่สุดทั่วโลก เมื่อนับจากปี 2550
ทั้งนี้ต้องจับตาต่อไปว่า ทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจของเซ็นทรัลรีเทล นับจากนี้จะเป็นอย่างไร ท่ามกลางตลาดค้าปลีกในไทยและตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การรับมือกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ รวมถึงความผันแปรจากภายนอกที่คาดเดาไม่ได้ ตลอดจนเทคโนโลยีที่มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า อีกทั้งจะมีการขยายลงทุนใหม่ๆ ไปในประเทศใดต่อไป รวมถึงโมเดลของค้าปลีกใหม่ ที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้
สำหรับภาพรวมธุรกิจของ เซ็นทรัลรีเทล ที่มุ่งเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) โดยมีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,759 ร้านค้า ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ข้อมูล ณ วันที่ 14 พ.ย. 2567 อยู่ที่ 197,515 ล้านบาท
ทางด้านผลการดำเนินงานของ เซ็นทรัล รีเทล ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้รวม 6.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 86% จากปีก่อน ซึ่งมาจากการขยายธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง รวมถึงการปรับโฉมและเพิ่มแบรนด์ใหม่ การเปิดสาขาใหม่ทั้ง ไทวัสดุ จำนวน 2 สาขา และ การขยาย โก โฮลเซลล์ ในภาคใต้ มุ่งจังหวัดภูเก็ต จำนวน 2 สาขา ส่วนประเทศเวียดนาม ได้มีการเปิดศูนย์การค้า GO! และไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! อีก 1 สาขา
แผนไตรมาสที่สี่ของปี 2567 เตรียมขยาย 4 กลุ่มธุรกิจหลักได้แก่
- ธุรกิจแฟชั่น โดยห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม เตรียมจัดงานฉลองโฉมใหม่อย่างทางการในวันที่ ที่ 12 ธันวาคม 2567
- ธุรกิจฮาร์ดไลน์ โดย ไทวัสดุ เตรียมขยายเพิ่มอีก 1 สาขาที่จังหวัดแพร่ ทำให้ในภายในสิ้นปีนี้มีสาขาทั้งหมด 86 สาขา
- ธุรกิจฟู้ด มีแผนเปิด ท็อปส์ในทุกโมเดล 9 สาขา ทำให้ภายในสิ้นปีนี้ มีท็อปส์ทั่วประเทศ 690 สาขา ส่วน โก โฮลเซลล์ (GO Wholesale) มีแผนเปิดสาขาเจริญราษฎร์ ในเดือน ธ.ค. ทำให้ในสิ้นปีนี้มี 10 สาขา ส่วน ซูเปอร์มาร์เก็ต go! (มินิ โก!) ในเวียดนาม พร้อมเปิดเพิ่ม 4 สาขา ทำให้ในสิ้นปีนี้มี 14 สาขา ครอบคลุมใน 10 จังหวัด
- ธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ ที่มีศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีแผนเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ “Strip Mall” ที่โรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขากาญจนบุรี